เอเชีย ฟุตบอลทีมชาติ

ระดับตำนาน: แข้งเอเชียลงเล่นฟุตบอลโลกมากนัดสุด

ทีมจากทวีปเอเชียนับเป็นอีกชาติที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ผ่านมา หลายทีมเคยทำผลงานเด่น-ดับต่างกันไป หลายชาติมีแกนหลักลงสนามให้ทีมในรอบสุดท้ายไม่น้อยกว่า 9 นัด อย่างล่าสุดที่เคซุเกะ ฮอนดะ ที่ถูกเรียกติดทีมชาติญี่ปุ่นลุยบอลโลกสมัยที่ 3 และเพิ่งยิงประตูในเกมเสมอเซเนกัล 2-2 หรือแม้แต่ ทิม เคฮิลล์ ที่เพิ่งจารึกสถิติลงเล่นฟุตบอลโลกหนที่ 4 ในเกมที่ออสเตรเลียแพ้เปรู 0-2 แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีนักเตะรุ่นพี่ร่วมทวีปที่กลายเป็นนักเตะขาประจำที่ได้ลงเล่นในบอลโลกไม่น้อยกว่า 10 แมตช์ และนี่คือบรรดาแข้งเอเชียที่ได้ลงสนามในเวิลด์คัพ รอบสุดท้ายมากที่สุด

กดลูกศรทางขวาเพื่ออ่าน

ทิม เคฮิลล์ (ออสเตรเลีย) ลงเล่น 9 นัด
ฟุตบอลโลก 4 สมัย (2006, 2010, 2014, 2018)

ดาวเตะประสบการณ์สูงวัย 38 ปีจารึกเป็นผู้เล่นทีมชาติออสเตรเลียที่มีชื่อติดทีมชาติลุยฟุตบอลโลกมากที่สุดเป็นสมัยที่ 4 หลังจากที่ถูกเบิร์ต ฟาน มาไวค์ เรียกติดทีมในปี 2018 ภายหลังที่เขาเคยมีชื่อติดทีมมาแล้วเมื่อปี 2006, 2010 และ 2014 แม้จะได้โอกาสลงเล่นที่รัสเซียเพียงแค่ช่วงครึ่งหลังในนัดส่งท้าย ที่ทัพจิงโจ้แพ้เปรู 0-2 ทำให้จบอันดับด้วยการเป็นบ๊วยกลุ่ม ทว่าอดีตสตาร์เอฟเวอร์ตันก็จารึกว่าได้ลงสนามมากถึง 9 นัด นอกจากนี้ เจ้าตัวยังเป็นแข้งที่ยิงได้มากสุดในฟุตบอลโลกในนามออสเตรเลียที่ 5 ประตู

เคซุเกะ ฮอนดะ (ญี่ปุ่น) ลงเล่น 9 นัด
ฟุตบอลโลก 3 สมัย (2010, 2014, 2018)

จอมทัพหมายเลข 4 แห่งทัพซามูไรบลูก็เป็นอีกหนึ่งสตาร์ที่ผ่านประสบการณ์ลงเล่นในเวิลด์คัพมาแล้วถึง 9 นัด กับฟุตบอลโลก 3 สมัยร่วมกับทีมชาติญี่ปุ่น โดยตลอด 2 เกมที่ผ่านมาของเวิลด์คัพที่รัสเซีย แม้บทบาทของฮอนดะจะเริ่มจากตัวสำรอง ทว่าเขาก็มีชื่อยิง 1 จ่าย 1 ในนามทีมซามูไรบลูไปแล้ว แถมยังเพิ่งสร้างสถิติใหม่เป็นนักเตะจากเอเชีย คนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกชื่อว่าทำประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ 3 ครั้ง แน่นอนว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาด โดยเฉพาะเกมชี้ชะตาส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มกับโปแลนด์ รวมถึงโอกาสลงสนามในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฮอนดะก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะสานโอกาสลงสนามในฟุตบอลโลกเพิ่มมากกว่า 9 เกม

ฮวาง ซุน ฮอง (เกาหลีใต้) ลงเล่น 10 นัด
ฟุตบอลโลก 3 สมัย (1990, 1994, 2002)

อดีตศูนย์หน้าเจ้าของส่วนสูง 183 เซนติเมตรได้โอกาสลงสนามในฟุตบอลโลก 3 สมัย คือในปี 1990, 1994 รวมถึง 2002 สิ่งนี้ทำให้เจ้าตัวมีสถิติติดทีมชาติมากที่สุดเป็นอันดับ 8 ที่จำนวน 103 เกม และมีชื่อทำ 2 ประตูในเกมรอบสุดท้าย หนึ่งในนั้นคือลูกยิงแรกในปี 2002 ใส่โปแลนด์

คิม แต ยอง (เกาหลีใต้) ลงเล่น 10 นัด
ฟุตบอลโลก 2 สมัย (1998, 2002)

ส่วน คิม แต ยอง อดีตกองหลังวัย 47 กะรัต คือเจ้าของสถิติติดทีมชาติ 105 เกม เคยผ่านสังเวียนเวิลด์คัพในปี 1998 และ 2002 แน่นอนว่าทั้งสองรายการนี้เขาคือแกนหลักในแนวรับของโสมขาว

โมฮัมเหม็ด อัล เดเยีย (ซาอุดิอาระเบีย) ลงเล่น 10 นัด
ฟุตบอลโลก 3 สมัย (1994, 1998, 2002)

ด้าน โมฮัมเหม็ด อัล เดเยีย อดีตนายด่านทีมชาติซาอุดิอาระเบีย มีสถิติติดทีมชาติมากถึง 178 เกม ซึ่งเป็นสถิติมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ตลอดกาลเมื่อเทียบกับทุกทีม สำหรับผลงานของอดีตโกลวัย 45 กะรัต เขาผ่านสังเวียนเวิลด์คัพร่วมกับเหยี่ยวมรกตมาแล้ว 3 สมัย คือปี 1994, 1998 และ 2002 โดยอัล เดเยียคือนักเตะซาอุฯที่ลงสนามในบอลโลกมากสุดที่ 10 นัด และตลอดผลงานที่ผ่านมา เขาช่วยทีมเก็บคลีนชีตได้ 1 เกม ซึ่งเป็นชัยชนะนัดที่สองในฟุตบอลโลกของซาอุดิอาระเบียเหนือเบลเยียม 1-0

ยู ซาง โชล (เกาหลีใต้) ลงเล่น 10 นัด
ฟุตบอลโลก 2 สมัย (1998, 2002)

อดีตหนึ่งดาวเตะดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ที่มีสถิติติดทีมชาติสูงสุดเป็นอันดับ 5 ที่ 124 เกม ก็มีชื่อลงสนามให้เกาหลีใต้ในปี 1998 และ 2002 ในฐานะกองกลางคนสำคัญของทีม แถมยังมีชื่อสร้างสรรค์เกมรุกพร้อมเปลี่ยนเป็นผล 1 ประตูตามเจ๊าเบลเยียม 1-1 ศึกฟร้องค์ 98 รวมถึงเป็นคนซัดย้ำชัยชนะเหนือโปแลนด์ 2-0 ในปี 2002 มาแล้ว

ฮิเดโตชิ นาคาตะ (ญี่ปุ่น) ลงเล่น 10 นัด
ฟุตบอลโลก 3 สมัย (1998, 2002 และ 2006)

อดีตซูเปอร์สตาร์เลือดซามูไรรายนี้คือผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่นที่ผ่านประสบการณ์ลงสนามในเวิลด์คัพมากที่สุด (ในขณะนี้) ที่จำนวน 10 แมตช์ ตลอดการลงเล่นในรอบสุดท้ายเมื่อปี 1998, 2002 และ 2006 มีเล่นครบเวลา 90 นาทีถึง 9 นัด โดยหนึ่งในบทบาทสำคัญของอดีตแข้งโรมาคือการซัดประตูย้ำชัยใส่ตูนิเซีย 2-0 พาญี่ปุ่นทะลุสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก เมื่อครั้งที่ซามูไรบลูเป็นเจ้าภาพร่วมกับเกาหลีใต้เมื่อ 16 ปีที่แล้ว

ลี ชุน ซู (เกาหลีใต้) ลงเล่น 10 นัด
ฟุตบอลโลก 2 สมัย (2002, 2006)

อดีตกองหน้ากึ่งปีกเคยผ่านโอกาสลงเล่นฟุตบอลโลกปี 2002 และ 2006 ซึ่งเจ้าตัวมีส่วนสร้างสรรค์เกมให้ทีมผ่านการทำ 1 แอสซิสต์เกมเจอสหรัฐอเมริกาสมัยที่เกาหลีเป็นเจ้าภาพร่วม และเป็นคนยิงเบิกสกอร์ในปี 2006 เกมเจอกับ โตโก

คิม นัม อิล (เกาหลีใต้) ลงเล่น 11 นัด
ฟุตบอลโลก 3 สมัย (2002, 2006, 2010)

อีกรายคือ คิม นัม อิล ยอดกองกลางตัวตัดเกมที่ปัจจุบันอายุ 41 ปี โดยคิมคว้าโอกาสสำคัญในการติดทีมชาติเกาหลีใต้ลุยฟุตบอลโลกหนแรกเมื่อปี 2002 ก่อนจะเป็นก้าวที่สำคัญที่ทำให้ตัวเขามีโอกาสไปค้าแข้งในลีกฮอลแลนด์กับเฟเยนูร์ดและ เอสบีวี เอ็กเซลซิเออร์ จากนั้นในเวิลด์คัพอีก 2 สมัย ในปี 2002 และ 2006 คิมก็ยังคงเป็นแกนหลักที่คอยช่วยสกรีนเกมรุกคู่แข่งก่อนถึงแผงรับ โดยรวมแล้วเจ้าตัวมีโอกาสลงเล่นในบอลโลกถึง 11 นัด

อี วุน แจ (เกาหลีใต้) ลงเล่น 11 นัด
ฟุตบอลโลก 3 สมัย (1994, 2002, 2006)

อี วุน แจ คือผู้รักษาประตูฝีเท้าดีที่ได้รับยกย่องว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานของโสมขาว โดยเจ้าของสถิติผู้เล่นติดทีมชาติมากสุดอันดับที่ 2 (134 เกม) เริ่มก้าวมาเป็นโกลมือหนึ่งของเกาหลีใต้ต่อจาก คิม บยอง จี ที่เริ่มโรยรา โดยอีเริ่มได้โอกาสเฝ้าเสาในฟุตบอลโลกครั้งแรกเมื่อปี 1994 สมัยที่เป็นมือสอง ก่อนจะก้าวเป็นตัวหลักให้ชาติอย่างเป็นทางการในเวิลด์คัพ 2002 ที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม (พาทีมจบอันดับ 4) เรื่อยมาจนถึงปี 2006 โดยรวมแล้วเขามีโอกาสลงเล่นไป 11 เกม และช่วยทีมไม่เสียประตู 2 เกม

อี ยอง เพียว (เกาหลีใต้) ลงเล่น 12 นัด
ฟุตบอลโลก 3 สมัย (2002, 2006 และ 2010)

อีกหนึ่งนักเตะระดับตำนานของทีมชาติเกาหลีใต้ ที่มีดีกรีติดทีมชาติชุดใหญ่มากสุดเป็นอันดับ 4 ที่จำนวน 127 เกม เคยสัมผัสสังเวียนฟุตบอลโลกมาแล้ว 3 สมัย คือในปี 2002, 2006 และ 2010 ซึ่งภายใต้โอกาสลงสนามทั้ง 12 แมตช์ อดีตแบ็คซ้ายท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์พาทีมเก็บคลีนชีตได้ 2 นัด อีกทั้งในฟุตบอลโลกปี 2002 ที่ชาติของเจ้าตัวไปไกลถึงอันดับ 4 อีมีชื่อทำแอสซิสต์ได้อีกด้วย แบ่งเป็น 1 แอสซิสต์ในเกมชนะโปรตุเกส 1-0 และ 1 แอสซิสต์ให้อาห์น จุง วาน พังประตูชัยเอาชนะอิตาลีช่วงโกลเด้นโกล 2-1

พาร์ค จี ซอง (เกาหลีใต้) ลงเล่น 14 นัด
ฟุตบอลโลก 3 สมัย (2002, 2006, 2010)

อดีตปีกขวาซูเปอร์สตาร์ผู้ที่เคยค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่อยู่ประสบความสำเร็จร่วมกับทีมโสมขาวเมื่อสมัยที่คว้าอันดับ 4 ในปี 2002 แถมในปีนั้น พาร์คยังมีชื่อทำ 1 ประตูในเกมส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มเฉือนโปรตุเกส 1-0 เบ็ดเสร็จแล้ว เจ้าตัวมีโอกาสรับใช้ชาติในเวิลด์คัพทั้งสิ้น 14 เกม แบ่งเป็นบอลโลกปี 2002, 2006 รวมถึงปี 2010 และมีชื่อทำประตูให้ทีมแทกุ๊กครบทุกสมัยที่ได้โอกาส

ฮอง เมียง โบ (เกาหลีใต้) ลงเล่น 16 นัด
ฟุตบอลโลก 4 สมัย (1990, 1994, 1998, 2002)

อดีตกองหลังระดับตำนานทีมชาติเกาหลีใต้เจ้าของสถิติติดทีมชาติสูงสุดที่ 136 นัดเคยมีส่วนร่วมกับทัพแทกุ๊ก วอร์ริเออร์สมากถึง 5 ครั้ง แบ่งเป็นการลงเล่นในนามทีมชาติ 4 สมัย เมื่อปี 1990, 1994, 1998 และ 2002 ส่วนอีกสมัยคือในฐานะเฮดโค้ชพารุ่นน้องลงเล่นในปี 2014 โดยผลงานในสมัยที่เป็นผู้เล่น ฮองมีโอกาสลลงสนามในเกมรอบสุดท้ายถึง 16 แมตช์ ซึ่งมากที่สุดในเกาหลีใต้และในเอเชีย อีกทั้งได้รับบทบาทสำคัญในการสวมปลอกแขนกัปตันนำเพื่อนร่วมทีมประสบความสำเร็จคว้าอันดับ 4 ในฟุตบอลโลกครั้งที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม และมีชื่อติดทำเนียบผู้ทำประตูร่วมกับโสมขาวในฟุตบอลโลกมาแล้ว จากผลงาน 2 ประตูในปี 1994