การสร้างทีมฟุตบอล โมเดลหลักที่จะต้องให้ความสำคัญไม่แพ้ทีมชุดใหญ่คือการสร้างเยาวชนขึ้นมาเพื่อเป็นรากฐานของสโมสร ไม่ใช่เพียงเพราะมีการบังคับในกฏไลเซนซิ่งเท่านั้น แม้ว่าฟุตบอลลีกอาชีพของเมืองไทยจะเริ่มตั้งไข่ได้ไม่นานมากนัก แต่ว่าเหล่าเด็กปั้นที่เป็นผลผลิตของหลายสโมสรก็ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลัก ตอบแทนสังกัดแม่ที่คอยรดน้ำพรวนดินจนสามารถเก็บเกี่ยวผลิตผลมาใช้งานได้ และนี่คือ 11 ยอดแข้งจากอคาเดมี่ที่สโมสรปั้นมากับมือ และเป็นตัวหลักให้ทีมในเวลานี้
กดลูกศรทางขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา
ชนินทร์ แซ่เอียะ | ชลบุรี เอฟซี
นายทวารมือหนึ่งของทีมฉลามชลคนปัจจุบัน ที่ฉายแววลูกหนังตั้งแต่เล่นในระดับมัธยมที่โรงเรียน เทพนิมิตวนาราม ที่จังหวัดชุมพร บ้านเกิด ทำให้ได้โอกาสเข้ามาศึกษาต่อที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ที่ขึ้นชื่อเรื่องลูกหนังขาสั้นที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ทำให้ได้โอกาสเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับชลบุรี เอฟซี แต่ในขณะนั้น ทีมฉลามชล มีนายทวารมือหนึ่งอย่าง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เฝ้าเสาอยู่ทำให้โอกาสที่จะลงสนามเป็นตัวจริงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยทำให้บอร์ดบริหารส่งตัวเขาไปให้หลายทีมยืมตัวใช้งานไล่ตั้งแต่ ศรีราชา เอฟซี, สงขลา ยูไนเต็ด, พัทยา ยูไนเต็ด, สิงห์ท่าเรือ (การท่าเรือ) และ ชัยนาท ฮอร์นบิล จนกระทั่งในปี สินทวีชัย ย้ายไปอยู่กับสุพรรณบุรี เอฟซี ทีมจึงดึงเขากลับมาร่วมทีมและมอบตำแหน่งมือหนึ่งให้จนถึงตอนนี้
นพนนท์ คชพลายุกต์ | ชลบุรี เอฟซี
การที่ชลบุรี เอฟซี มีวิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคคนปัจจุบันของสมาคมฟุตบอลทีมชาติไทยเป็นคนวางรากฐานเรื่องระบบอคาเดมี่ให้ทำให้ฉลามชลมีผลผลิตจากเยาวชนขึ้นมาใช้งานอยู่เรื่อยๆ โดยแทบจะไม่ต้องทุ่มเงินซื้อตัวนักเตะไทยจากทีมไหนมาร่วมทัพ
และนพนนท์ คชพลายุกต์ แบ็กขวาของทีมชุดปัจจุบันถือว่าเป็นผลผลิตของระบบเยาวชนที่เบียดขึ้นสู่ชุดใหญ่ได้ แม้ว่าจะเคยถูกปล่อยให้ สงขลา เอฟซี ยืมตัวไปใช้งาน แต่เมื่อหมดสัญญาเขาก็กลับมาค้าแข้งให้กับ สังกัดเดิมอีกครั้ง ในฐานะตัวหลัก
ปิยะชนก ดาฤทธิ์ | บางกอกกล๊าส เอฟซี
เซนเตอร์ร่างโย่ง ที่ยืนคุมแนวรับให้บางกอกกล๊าส เอฟซี ในตอนนี้ เป็นผลผลิตของอคาเดมี่ของทีมที่ไต่เต้ามาตั้งแต่การลงเล่นให้กับ รังสิต เอฟซี ทีมในเครือข่ายของสโมสร และค่อยๆพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเรื่อยๆจนถูกดันขึ้นเล่นทีมชุดใหญ่ และสามารถยึดตำแหน่งในทีมได้อย่างต่อเนื่อง
ชลทิตย์ จันทคาม | ชลบุรี เอฟซี
ปราการหลังพันธ์ุดุ ที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่สมัยเป็นฟุตบอลโปรวินเชียลลีก ก่อนที่จะมาผนึกรวมกับไทยลีกจนกลายเป็น โตโยต้า ไทยลีก ในปัจจุบันนี้ ก่อนที่จะเป็นกองหลังอย่างทุกวันนี้ เขาเคยเล่นเป็นกองหน้ามาก่อน แต่ก็ถูกปรับเปลี่ยนไปเล่นเป็นกองหลัง จนกลายเป็นตัวหลักในทีมฉลามชลตอนนี้ โดยที่ไม่เคยย้ายไปค้าแข้งให้กับทีมไหนมาเป็นเวลากว่า 14 ปีเต็มแล้ว
ชิติพัทธ์ แทนกลาง | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
กองหลังจากรั้วสวนกุหลาบ ที่เป็นนักเตะที่สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปั้นขึ้นมาใช้งานเอง และได้ลงเล่นกับทีมมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2013 และสามารถคว้าแชมป์ไทยลีกมาครองได้แล้ว 3 สมัยด้วยกัน และกำลังที่จะได้แชมป์ไทยลีกสมัยที่ 4 มาครอง แม้ว่าจะมีแฟนบอลบางส่วนจะไม่ค่อยชื่นชอบเขานัก แต่ว่า แข้งวัย 26 ปีก็ยังเป็นนักเตะตัวหลักในทีมที่ได้โอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงในส่วนของกุนซือไปกี่คนก็ตาม
อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ตัวรุกชาวจังหวัดเชียงใหม่ ที่เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ คริสต์ เอฟซี ทีมเล็กๆที่ฝึกซ้อมฟุตบอลให้ชาวไทยภูเขาในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จนฝีเท้าไปเตะตา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จนถูกดึงตัวไปร่วมทัพปราสาทสายฟ้า ในชุดเยาวชน ก่อนที่จะเพาะบ่มฝีเท้า และถูกปล่อยไปเก็บประสบการณ์กับสุรินทร์ ซิตี้ จากนั้นจึงถูกดึงกลับมาเล่นให้ชุดใหญ่ของทีมอีกครั้ง แม้ว่าทีมจะอุดมไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีทั้งไทยและเทศแต่ว่า ดาวเตะที่ชอบนุ่งทับใน ก็ยังสามารถสอดแทรกตัวเองลงเล่นได้เสมอ
สารัช อยู่เย็น | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
เมืองทอง ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นทีมที่มีระบบอคาเดมี่ ที่แข็งแกร่ง และมีนักเตะฝีเท้าดีถูกปั้นมากมาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับโกอาสให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ เป็นตัวหลัก ทำให้เรามักจะได้เห็น นักเตะที่เป็นเด็กปั้นของ กิเลนผยอง ที่ต้องย้ายไปลงเล่นที่อื่น
เพราะไม่สามารถสอดแทรกตำแหน่งลงเล่นได้ ซึ่งพระเอกMV 100 ล้านวิว ที่เข้ามาเป็นเด็กฝึกของทีมตั้งแต่จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็ต้องรอโอกาสที่จะได้ลงเล่นทีมชุดใหญ่ หลังจากที่ถูกส่งตัวไปให้ทั้ง ภูเก็ต เอฟซี และ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ยืมตัวไปใช้งานจนกลับมายึดตำแหน่งตัวหลักได้ แม้ว่าจะโชคร้ายบาดเจ็บหนักในช่วงต้นฤดูกาล แต่ก็กลับมาทวงตำแหน่งของตัวเองได้ทันทีเมื่อร่างกายกลับมาฟิตสมบูรณ์
เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ | ชลบุรี เอฟซี
ปีกซ้ายร่างเล็กจากแดนด้ามขวานของไทย ที่ได้ย้ายจากถิ่นฐานบ้านเกิดมาอยู่ที่ จุฬาภรณราชวิทยาลัย ในจังหวัด ชลบุรี และถูกส่งให้เล่นกับ ศรีราชา เอฟซี ซึ่งเป็นทีมในเครือข่ายของ ชลบุรี เอฟซี เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์
ก่อนที่จะได้ขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ แต่ก็ยังหาตำแหน่งลงไม่ได้ ก่อนจะถูกปล่อยไปให้ อีสาน ยูไนเต็ด และการท่าเรือ ยืมตัวไปใช้งาน ซึ่งผลงานการค้าแข้งด้วยสัญญายืมตัวที่แพทสเตเดี้ยมนั้นน่าพอใจ ทำให้ได้รับโอกาสจากทีมชุดใหญ่ และติดทีมชาติไทยไปคว้าอันดับที่ 4 ในศึกซีเกมส์ รวมถึงคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2 สมัย และยังเป็นขุนพลคนสำคัญของฉลามชลในชุดปัจจุบัน
นูรูล ศรียานเก็ม | ชลบุรี เอฟซี
ปีกจรวดชาวจังหวัดพัทลุงที่แจ้งเกิดในฟุตบอลขาสั้นชื่อดังอย่าแชมป์กีฬา 7 สีกับ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ทำให้ได้รับการเซ็นสัญญาเข้าสู่ทีม ชลบุรี เอฟซี ชุดใหญ่ และถูกปล่อยตัวไปให้ทั้ง สโมสรรัตนบัณฑิตในระดับดิวิชั่น 1 และสโมสรฟุตบอลหาดใหญ่เอฟซี ในดิวิชั่น 2 รวมไปถึง เชียงราย ยูไนเต็ด
ซึ่งจังหวะแจ้งเกิดของเขา ที่ทำให้แฟนบอลหลายคนจำชื่อบนหลังเสื้อได้อย่างแม่นยำคือจังหวะที่ใช้สปีดอันจัดจ้าน วิ่งฉีกแนวรับเมืองทอง ยูไนเต็ด เข้าไปยิงผ่านมือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ช่วยให้ฉลามชลคว้าสามแต้มจากเอสซีจี สเตเดี้ยม และในตอนนี้แม้อนาคตกับทีมอาจจะยังไม่แน่นอน แต่สิ่งที่แน่นอนคือหากว่าเขาย้ายออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้สโมสรจะทำกำไรได้จากค่าตัวของเขาอย่างแน่นอน
สุภโชค สารชาติ | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ผลผลิตจากอคาเดมี่ที่ปราสาทสายฟ้าภาคภูมิใจเป็นหนักหนา กับการดันแข้งวัยแค่ 19 ปีมาสร้างผลงานเขย่าเวทีไทยลีกในตอนนี้
หนุ่มน้อยจากศรีสะเกษ จังหวัดในแถบตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสานของไทยได้รับความเชื่อมั่นอย่างมากจาก เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ที่กล้าให้โอกาสดาวเตะวัยแค่มัธยมลงสนามเคียงข้างกับนักเตะต่างชาติมากดีกรี และแข้งรุ่นพี่ชาวไทยในทีมที่ล้วนแต่ฝีเท้าไม่ธรรมดา ซึ่งดาวเตะที่ประธานสโมสรปราสาทสายฟ้า เปรียบเปรยว่าเป็น อันเดรส อิเนียสต้า เมืองไทย ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แถมยังมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว
ปริ๊นซ์ อัมปองซ่า | ชลบุรี เอฟซี
กองหน้าชาวกานา นักเตะชาวต่างชาติหนึ่งเดียวในโผรายชื่อนี่ เป็นผลผลิตจากระบบเยาวชนของ ชลบุรี เอฟซี ถือว่ามีที่มาที่ไปต่างจากนักเตะต่างชาติคนอื่นๆในไทย ที่มักจะต้องฝึกปรือฝีเท้าจนแก่กล้าก่อนย้ายมาหากินในไทย
แต่กับ ปริ๊นซ์ อัมปองซ่า เขาเลือกที่จะมาผจญภัยที่ประเทศไทย ทั้งๆที่ไม่มีสังกัด แต่ด้วยพรสวรรค์ ที่โดดเด่นทำให้ถูกเลือกให้เข้าในระบบอคาเดมี่ของ ชลบุรี เอฟซี ร่วมรุ่นกับ วรชิต, สหรัฐ และ สิทธิโชค โดยไต่เต้าเล่นฟุตบอลกับทีมในดิวิชั่น 2 (เดิม)อย่าง พานทอง เอฟซี และ ศรีราชา-บ้านบึง รวมไปถึงฟุตบอลเยาวชนโค้กคัพ จนกระทั่งกลางเลกที่สองเขาถูกเรียกขึ้นทีมชุดใหญ่ท่ามกลางความสงสัยในฝีเท้าของแฟนบอล ซึ่งดาวเตะวัย 20 ปีที่กลายเป็นนักเตะต่างชาติในอคาเดมี่คนแรกของฉลามชตอบทุกข้อสงสัยพร้อมกับแนะนำด้วยให้แฟนบอลรู้จักเขาด้วยผลงาน 8 ประตูจากการเล่น 12 นัดในครึ่งซีซั่นแรก และปีนี้เขาก็ยิงไปแล้ว 12 ประตูด้วยกัน