เอเชีย ฟุตบอลญี่ปุ่น

TRIBE LIST: ย้อนรอยชุดเกราะซามูไรบลูเวอร์ชั่น adidas

adidas ได้เปิดตัวชุดแข่งใหม่ของทีมชาติญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเป็นชุดแข่งรวมคอนเซ็ปต์ภายภายใต้คอนเซปต์ “สปิริตแห่งชัยชนะ” โดยชุดแข่งถูกปรับให้มีสีเข้มขึ้น เป็นสีคราม เหมือนที่ “ซามูไร” ในสมัยโบราณสวมใส่ชุดกิโมโนลักษณะนี้ภายใต้ชุดเกราะเพื่อออกรบ โดยจะใช้สวมใส่แข่งขันในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซีย

ด้วยเหตุนี้ Football Tribe Thailand ขออาสาพาท่านย้อนไปชมกับชุดแข่งของทัพซามูไรบลูภายใต้โลโก้ของ adidas ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

กดลูกศรตรงด้านขวาเพื่อติดตามอ่าน

 

1999-2000
ชุดแข่งทีมชาติญี่ปุ่นเวอร์ชั่นแรกภายใต้โลโก้ของ adidas ได้อวดโฉมสายตาชาวโลกครั้งแรกในศึกฟุตบอลเยาวชนโลก U-19 ที่ไนจีเรีย ซึ่งเหล่าขุนพลซามูไรบลูน้อยช็อคโลกขึ้นไปถึงตำแหน่งรองแชมป์ของทัวร์นาเมนต์  ก่อนที่จะนำมาใช้ในทีมชุดโอลิมปิกชุดเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ซิดนีย์ และทีมชาติชุดใหญ่ชุดคว้าแชมป์เอเชียนคัพเมื่อปี 2000

2001
ยูนิฟอร์มเวอร์ชั่นต่อมาที่มาพร้อมกับเกียรติภูมิอันยิ่งใหญ่ของทัพซามูไรบลู หลังหักปากกาเซียนก้าวขึ้นไปคว้าตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชันคัพ 2001 ทัวร์นาเมนต์เตรียมความพร้อมก่อนศึกฟุตบอลโลก 2002 ที่พวกเขาจะเป็นเจ้าภาพ แต่น่าเสียดายที่ชุดนี้มีอายุที่สั้นพอสมควร หลังใช้ในปีดังกล่าวเพียงแค่ปีเดียว

2002-2003
ชุดแข่งสำหรับศึกฟุตบอลโลก 2002 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพร่วมกับเกาหลีใต้ ซึ่งออกแบบให้ส่วนบนของเสื้อมีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของชาวอาทิตย์อุทัย โดยเหล่าขุนพลซามูไรทะลุเข้าไปถึงรอบ 16 สุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ภายใต้ยูนิฟอร์มนี้อีกด้วย

2004-2005
ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องสีเสื้อเมื่อ adidas เลือกที่จะใช้สีน้ำเงินที่สว่างขึ้นภายใต้คอนเซ็ปท์ “Blue Pride” ชุดแข่งนี้เริ่มใช้ในเกมฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก ที่เริ่มเตะกันตั้งแต่ช่วงต้นปี 2004 ก่อนที่จะนำมาใช้ในศึกเอเชียนคัพ 2004 ที่ประเทศจีนในช่วงกลางปี ที่พวกเขาก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์สมัยที่ 3

2006-2007
เหมือนกลายเป็นธรรมเนียมของทีมชาติญี่ปุ่นไปแล้ว เมื่อพวกเขาต้องออกชุดแข่งใหม่ทุกครั้งสำหรับทัวร์นาเมนต์สำคัญ และก็แน่นอนสำหรับรายการสำคัญอย่างฟุตบอลโลก 2006 รอบสุดท้าย ที่เยอรมัน ญี่ปุ่นมาพร้อมกับชุดโฉมใหม่ที่มีลายคมดาบของญี่ปุ่นอยู่บนเสื้อ แต่น่าเสียดายที่พวกเขากลับมีผลงานไม่ค่อยดีนักภายใต้ชุดแข่งนี้

2008-2009
สองปีผ่านไปหลังชุดแข่งเวอร์ชั่นฟุตบอลโลก ยูนิฟอร์มญี่ปุ่นก็ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง ครั้งนี้พวกเขามาภายใต้คอนเซ็ปท์ “จิตวิญญาณแห่งญี่ปุ่น” โดยมาในรูปแบบที่แปลกตาด้วยการมีเส้นเล็กๆสีทองลากผ่านกลางหน้าอก โดยชุดแข่งดังกล่าวประเดิมใช้กับ “นาเดชิโกะ” ทีมชาติหญิงญี่ปุ่น ก่อนจะนำมาใช้กับทีมชาติชุดใหญ่ในศึก ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ที่พวกเขาสามารถคว้าตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้อีกครั้ง

2010-2011
ชุดแข่งแห่งประวัติศาสตร์ที่ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปท์ “ขนนกแห่งการปฏิวัติ” ซึ่งมีลายขนของอีกายาตะ หรืออีกาสามขา ที่เป็นสัญลักษณ์ของทีมชาติญี่ปุ่นเป็นพื้นหลัง โดยภายใต้ชุดแข่งนี้ญี่ปุ่นสามารถทะลุสู่รอบน็อคเอาท์ศึกฟุตบอลโลก 2010 และคว้าแชมป์เอเชียนคัพสมัยที่ 4 ในปีต่อมา ก่อนที่ “นาเดชิโกะ” ทีมชาติหญิงจะใส่ชุดนี้ไปชูถ้วยแชมป์โลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในปีเดียวกัน

2012-2013
และเป็นอีกครั้งที่ adidas ปรับโฉมชุดแข่งของทีมชาติญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยครั้งนี้มาในรูปแบบที่แปลกตา เมื่อตัดสินใจใช้สีน้ำเงินเข้มเป็นพื้นหลัก โดยมีสีแดงที่เป็นเหมือนดวงอาทิตย์พาดผ่าน ชุดแข่งนี้นำมาใช้ในเกมฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก และรายการโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน ที่พวกเขาสร้างความฮือฮาด้วยการคว้าอันดับ 4 มาครองอย่างเหนือความคาดหมาย

2014 – 2015
ชุดแข่งใหม่ที่ออกมาสำหรับฟุตบอลโลก 2014 ภายใต้คอนเซ็ปท์ “การล้อมวง” ที่ผู้เล่นและกองเชียร์ร่วมต่อสู้ไปด้วยกันด้วยใจที่เป็นหนึ่งเดียว โดยชุดแข่งนี้ได้กลับมาใช้สีน้ำเงินในโทนที่อ่อนลง คาดด้วยสีแดงและสีขาวทางด้านหลัง อย่างไรก็ดี พวกเขากลับมีผลงานไม่น่าจดจำเมื่อมีอันต้องกระเด็นตกรอบแรกในทัวร์นาเมนต์ที่บราซิล และตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย เอเชียนคัพ 2015

2016-2017
หลังจากใช้ชุดแข่งเวอร์ชั่นฟุตบอลโลกอยู่ราว 2 ปี ซามูไรบลูก็เปิดตัวยูนิฟอร์มชุดใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์สุดเก๋อย่าง “ความสามัคคี” โดยมีสีพื้นเป็นสีน้ำเงินเข้ม และมีการไล่โทนสีฟ้าที่แตกต่างถึง 11 เฉดสีที่หมายถึงผู้เล่นทั้ง 11 คนที่มีบุคลิกแตกต่างกัน แต่สามารถหลอมรวมเป็นหนึ่งได้ ส่วนแถบสีแดงคาดอกมีความหมายแทนผู้เล่นคนที่ 12 หรือแฟนบอลนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีการซ่อนขน “อีกายาตะ” ไว้ที่หลังคอเสื้อด้านในอีกด้วย โดยชุดแข่งดังกล่าว ซามูไรบลูใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2018 เป็นหลัก

ปี 2018

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทีมชาติญี่ปุ่นได้เปิดตัวชุดแข่งขันใหม่ที่จะใช้ในฟุตบอลโลก 2018 ที่ภายใต้คอนเซปต์ “สปิริตแห่งชัยชนะ” โดยชุดแข่งถูกปรับให้มีสีเข้มขึ้น เป็นสีคราม เหมือนที่ “ซามูไร” ในสมัยโบราณสวมใส่ชุดกิโมโนลักษณะนี้ภายใต้ชุดเกราะเพื่อออกรบ

ซึ่งจะมีการพิมพ์กราฟิกรอบคลุมเฉพาะด้านหน้าของเสื้อประกอบด้วยลายเส้นสีดำและสีฟ้าอ่อน ส่วนคอเสื้อเป็นคอวีตัดตรงพร้อมมีคลิปสีแดง นอกจากนี้กางเกง และถุงเท้ามีการเพิ่มมิติที่ปรับโทนสีให้เข้มขึ้นจากเสื้อ พร้อมกันนี้ยังปรากฏโลโก้ใหม่ของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นอยู่บนออกเสื้อด้านซ้ายด้วย