ศึกบิ๊กแมตช์ของฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก จบลงที่ชัยชนะของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงที่มีเหนือ แบงค็อก ยูไนเต็ด แม้ว่าทีมเยือนจะได้ประตูออกนำก่อนจาก ร็อบสัน แฟร์นานเดส แต่เจ้าบ้านมาได้ประตูตามตีเสมอจาก กรกช วิริยอุดมศิริ และประตูชัยจาก ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่ยิงประตูใส่ทีมเก่าในช่วงท้ายเกม ทำให้ ปราสาทสายฟ้า นำห่าง 4 แต้มพร้อมเฮดทูเฮดที่เหนือกว่าทีมแข้งเทพ ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในการลุ้นแชมป์เข้าทางพวกเขา และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจหลังเกมนี้
กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา
ลูกทีมของมาโน่ โพลกิ้ง โยนชัยชนะทิ้งไปเอง
หากจะพูดว่า แบงค็อก ยูไนเต็ด ทำชัยชนะเกมสำคัญเกมนี้หล่นแตกจากน้ำมือของตัวเองก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่เกินเลยไปนัก จากเกมที่พวกเขาออกสตาร์ทได้ดีกว่า และได้ประตูออกนำไปก่อน แต่แล้ว แนวรับพวกเขาก็ฉายแววความผิดพลาด จากจังหวะที่ พุทธินันท์ วรรณศรี ปล่อยให้ กรกช วิริยอุดมศิริ เข้าถึงบอลก่อนยิงเข้าไปง่ายๆ เป็นประตูตีเสมอ บวกกับความผิดพลาดในการจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคมครั้งแล้วครั้งเล่าของ ร็อบสัน แฟร์นานเดส กองหน้าชาวแซมบ้า ที่พลาดโอกาสทองเห็นๆ อย่างน้อย 3 ครั้งที่ควรจะแปลเปลี่ยนให้เป็นประตูได้ แต่พวกเขาก็ทำไม่สำเร็จ และมาเจอทีเด็ดของอดีตเด็กเก่า ที่ซัดประตูในช่วงท้ายเกมแบบไม่ให้พวกเขาได้โอกาสในการแก้ตัว
โบซิดาร์ บันโดวิช ไม่มีตัวเลือกในม้านั่งสำรอง
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าบ้านส่งรายชื่อนักเตะสำรองในเกมนี้เพียงแค่ 5 คนเท่านั้นในเกมนี้ โดยมีผู้รักษาประตูสำรองอย่าง ยศพล เทียงดาห์ นายทวารสำรอง 1 คนและที่เหลือล้วนแต่เป็นผู้เล่นในแนวรับอย่าง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ ชิติพัทธ์ แทนกลาง และเป็นนักเตะดาวรุ่งอย่าง ศิวรุต ผลหิรัญ และนักเตะเยาวชนวัยแค่ 17 ปี โดยที่ไม่มีแนวรุกที่ไว้ใจได้ นั่งคอยอยู่บนม้านั่งสำรองของพวกเขาแม้แต่คนเดียว ทำให้ทางเลือกในการแก้เกมของกุนซือชาวเซอร์เบียมีไม่มากนัก แต่โชคยังดีที่พวกเขามาได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกมจาก ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่ซัดใส่ทีมเก่า ช่วยให้ทีมคว้าสามแต้มที่ล้ำค่าเอาไว้ได้
3 แต้มที่มากกว่า 3 แต้มของบุรีรัมย์
ชัยชนะในเกมนี้ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีค่ามากกว่า 3แต้มธรรมดา เพราะในเกมนี้ทำให้พวกเขาสามารถฉีกช่องว่างหนีห่างทีมที่พยายามไล่ตามพวกเขามาติดๆ และบางสัปดาห์ก็แอบขยับขึ้นไปนั่งตำแหน่งจ่าฝูงแบบชั่วคราว แบบ แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ทำให้ตอนนี้พวกเขานำอยู่ 4 คะแนน
นอกจากนี้แล้ว ยังฉกฉวยความได้เปรียบของกฏเฮดทูเฮดเอาไว้ได้อีก เพราะเกมแรกที่พบกัน พวกเขาเสมอกันมาด้วยสกอร์ 2-2 และผลชัยชนะในนัดนี้ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีเฮดทูเฮดที่ดีกว่า ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะได้งัดเอามาใช้ ในบั้นปลายของฤดูกาลหากว่าทั้งสองทีมเกิดทำคะแนนเท่ากันก็จะเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จะได้แชมป์ไปครอง
ศศลักษณ์ ได้พิสูจน์ตัวเอง
หนึ่งในนักเตะที่ต้องการเล่นเพื่อพิสูจน์มากกว่าใครในเกมนี้คงหนีไม่พ้น ศศลักษณ์ ไหประโคน อดีตนักเตะเก่าของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เพิ่งย้ายมาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมบ้านเกิดของเขาด้วยสัญญายืมตัวเมื่อเลกที่สองของซีซั่นที่แล้ว ก่อนที่ปราสาทสายฟ้าจะตัดสินใจซื้อตัวเขามาร่วมทีมแบบถาวร
ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นการตัดสินใจที่ผิด เพราะอดีตแข้งเทพ เริ่มยึดตำแหน่งได้ต่อเนื่องและก้าวไปติดทีมชาติชุดใหญ่มาแล้ว และนี่คือเกมที่สองที่เขาได้ลงสนามพบกับสังกัดเก่า ซึ่งตลอดทั้งเกมเจ้าตัวแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ มุ่งมั่นจนสุดท้ายได้รางวัลเป็นประตูชัยท้ายเกม และอย่างน้อยอาจจะทำให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด ยอมรับว่าคิดผิดที่ปล่อยตัวเขาออกจากทีม
ตัดสินแชมป์แบบกลายๆ
แม้ว่าจะเพิ่งเป็นเกมที่ 21 ของไทยลีก ฤดูกาลนี้ แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ทุกๆอย่างค่อยๆเข้าทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีละเล็กละน้อย โดยเฉพาะสามแต้มในเกมนี้ที่ทำให้พวกเขาฉีกหนีทีมที่ตามหลังมาได้ ไม่แน่ว่าเกมนี้อาจจะเป็นเกมที่ตัดสินแชมป์
จากสถิติเก่าๆ หากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำได้แล้วพวกเขามักจะไม่ค่อยพลาด ในการรักษาระยะห่าง เข้าป้ายคว้าแชมป์ ไปในที่สุด ตอนนี้ ทีมที่ตามหลังอย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด นอกจากจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดในการไล่ตามในระยะทางที่เหลือ ยังต้องคอยแช่งให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พลาดอย่างน้อย 2 เกมถึงจะทำให้พวกเขากลับมามีลุ้นอีกครั้ง อาจจะพูดได้ว่าความพ่ายแพ้ของพวกเขาในเกมนี้อาจจะเป็นการปล่อยเสือเข้าป่า และเป็นการทำให้ความหวังในการลุ้นแชมป์ ห่างออกไปอีกรายการในรอบสัปดาห์ หลังจากเพิ่ง เสียท่าให้ปราสาทสายฟ้ามาเมื่อกลางสัปดาห์ในฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพ