วันพุธที่ 14 มีนาคมนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากไทย จะบุกไปเยือน เซเรโซ โอซาก้า ทีมแกร่งจากเจลีก หลังจากที่เจอกันมานัดก่อน พวกเขาเอาชนะมาได้ก่อน 2-0 ทำให้สถานการณ์การลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายยังคงต้องลุ้นกันไปอย่างสนุกสำหรับทุกทีมในสาย และนี่คือ 5 สิ่งที่ปราสาทสายฟ้าจะต้องระหวัง
กด NEXT เพื่อร่วมติดตามไปกับเรา
ตัวจริงของเซเรโซจะกลับมา
ในเกมนัดที่แล้ว เซเรโซ โอซาก้า สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอลเมื่อกุนซืออย่าง ยุน จอง ฮวาน ตัดสินใจไม่เอานักเตะ 11 ตัวจริงในเกมที่เสมอกับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ในเกมเจลีก ร่วมเดินทางมาด้วยแม้แต่คนเดียว ซึ่งผู้เล่นชุดสองของพวกเขาพ่ายให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 2-0 แต่ในเกมนี้ บรรดานักเตะตัวหลักๆของทีม อย่างเช่น คิม จิน ฮยอน ผู้รักษาประตูมือหนึ่งหรือว่า โฮตารุ ยามางุจิ กองกลางทีมชาติญี่ปุ่น และ สองแนวรุกอย่าง เคนยู ซุกิโมโตะ และ โยอิจิโร คาคิตานิ มีลุ้นที่จะกลับมาลงสนามอีกครั้ง จะขาดก็แต่ ฮิโรชิ คิโยตาเกะ ที่มีอาการบาดเจ็บเท่านั้น หรือพูดง่ายๆว่า เซเรโซ มีสิทธิ์ ที่จะส่งนักเตะชุดใหญ่ลงสนาเพราะการจัดตัวอย่างในเกมแรก แสดงให้เห็นแล้วว่าตัวสำรองของพวกเขาไม่ดีพอที่จะเอาชนะบุรีรัมย์ ได้ ส่วนทีมเยือนเกมนี้จะขาดสองคีย์แมนในแดนกลางอย่าง จักรพันธ์ แก้วพรม ที่ติดโทษแบน จากการได้ใบแดงในเกมที่แล้ว ส่วน สุเชาว์ นุชนุ่ม ก็ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่
ทีมจากไทยไร้ชัยเมื่อบุกแดนซามูไร
นับตั้งแต่รายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ทำการเปลี่ยนแปลงมาแข่งขันในระบบเหย้าเยือน ประเทศญี่ปุ่นเหมือนเป็นแดนสนธยาสำหรับทีมจากไทย เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีทีมจากไทย ทีมไหนที่สามารถบุกไปเอาชนะตัวแทนจากเจลีกได้เลยแม้แต่ทีมเดียว ดีที่สุดที่ทำได้คือการแบ่งแต้มกลับมา ซึ่งเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เคยทำได้ 2 เกมคือการบุกไปเสมอกับ เวกัลตะ เซนได ในปี 2013 และบุกไปเสมอกับ กัมบะ โอซาก้า คู่ปรับร่วมเมืองของ เซเรโซ โอซาก้า จากฟรีคิกของธีราทร บุญมาทัน หากว่าใครยังจำกันได้ และก่อนหน้านี้พวกเขาเคยบุกมาเยือน เซเรโซ โอซาก้า มาแล้ว และพ่ายไปด้วยสกอร์ 4-0 ถือว่าสถิติตรงนี้ ตัวแทนจากไทยเป็นรองตัวแทนจากญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
3 แต้มสำคัญ
การแพ้ในนัดที่ผ่านมาของ เซเรโซ โอซาก้า ที่บุกไปถูกบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะมาได้ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายนัก เพราะว่าคะแนนในแต่ละทีมยังคงบี้กันอยู่ แต่ว่า 3 แต้มจากเกมนี้ อาจจะพลิกโฉมทีมที่จะผ่านเข้ารอบในกลุ่มนี้ได้เลย และแน่นอนว่าเจ้าบ้านอย่า เซเรโซ นั้น รู้ดีเต็มอกว่าเกมนี้คือเกมที่สำคัญของพวกเขาที่จะพลิกสถานการณ์ให้กลับมาได้เปรียบได้ และอาจจะทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั้นต้องตกที่นั่งลำบากใน 2 เกมสุดท้ายถือว่าเป็นการตัดแข้งตัดขาคู่แข่งไปในตัว นอกจากนี้ผลเสมอก็ไม่ดีกับทั้งสองทีม เพราะว่าคะแนนของทั้ง 4 ทีมในสายค่อนข้างที่จะเบียดกัน หากว่าจบลงที่ผลเสมอ จะทำให้อีก 2 ทีมเป็นฝ่ายได้เปรียบ
อากาศที่ไม่คุ้นเคย
เหมือนกับเกมแรกที่เซเรโซ โอซาก้า มาเยือนประเทศไทย ซึ่งกุนซือของพวกเขาอย่าง ยุน จอง ฮวาน ยอมรับในการแถลงข่าวหลังเกมว่า พวกเขาโชคไม่ดีที่เจอกับสภาพอากาศที่ไม่ค่อยดีนักที่บุรีรัมย์ ซึ่งอากาศที่ร้อนและชื้นนั้นเข้าทางนักเตะชาวไทยมากกว่า เพราะเจอกับสภาพอากาศเช่นนั้นมาเกือบตลอดทั้งชีวิต ซึ่งกลับกันในเกมที่ ปราสาทสายฟ้าจะต้องออกไปเยือน คินโช สเตเดี้ยม รังเหย้าของ เซเรโซ ที่อากาศคาดว่าน่าจะต่ำกว่า 10 องศา ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้หนาวจนถึงขั้นติดลบ แต่ว่าก็น่าจะเป็นปัญหาสำหรับนักเตะไทยไม่น้อย กับอากาศที่พวกเขาไม่ค่อยคุ้นเคย และเจ้าบ้านก็จะกุมความได้เปรียบตรงจุดนี้เอาไว้ได้ เป็นอย่างน้อย
ฟอร์มที่ย่ำแย่ของเซเรโซ
สถานการณ์ของแชมป์ฟุตบอลถ้วยของญี่ปุ่นในฤดูกาลที่แล้วอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานอยู่พอสมควร เพราะว่าพวกเขาสะกดคำว่าชัยชนะไม่เป็นเลยใน 3 เกมแรกสุดของเจลีกซึ่งนั้นน่าจะทำให้ ทั้งนักเตะและสต๊าฟฟ์โค้ชค่อนข้างที่จะกดดันเป็นพิเศษ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงว่าพวกเขาจะใช้เกมนี้ ที่เจอกับตัวแทนจากไทยอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นจุดเปลี่ยนเพื่อเรียกความมั่นอกมั่นใจกลับมาอีกครั้ง ซึ่งหากถล่มเอาชนะได้นอกจากความมั่นใจที่จะกลับมาก่อนเกมไปเยือน วิสเซล โกเบ ในสุดสัปดาห์นี้ ก่อนพักเบรกทีมชาติ ยังส่งผลไปถึงการลุ้นเข้ารอบต่อไปในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกของพวกเขาอีกด้วย