เอเชีย TRB FEATURE

5 เมสซี่ ทั่วโลกที่น่าจับตามองมากที่สุดในซีซั่น 2018/19

ว่ากันว่า “การเลียนแบบคือการยกย่องที่สูงที่สุด” หนึ่งในการเลียนแบบที่พบเห็นได้บ่อยครั้งในวงการฟุตบอลได้แก่การตั้งฉายานักเตะดาวรุ่งตามผู้เล่นที่มีชื่อเสียงอยู่ก่อนแล้ว ตัวอย่างเช่น “นิว เมสซี่” หรือ “เมสซี่ แห่ง …” (ใส่ชื่อประเทศที่คุณนึกออกได้เลย การันตีได้ว่า 90% ของประเทศเหล่านั้นจะต้องมี เมสซี่ เป็นของตัวเองแน่นอน)

และเนื่องในโอกาสที่ ลี ซึง วู หรือ เมสซี่ แห่ง เกาหลีใต้ เพิ่งคว้าเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ ได้สำเร็จ เราจึงขอพาทุกท่านไปดูสิว่า 5 เมสซี่ ทั่วโลกที่น่าจับตามองมากที่สุดในซีซั่น 2018/19 นั้นมีใครกันบ้าง

*ขออนุญาตไม่ใส่ชื่อ เมสซี่ เจ ในลิสต์นี้เนื่องจากรู้ๆ กันอยู่ว่าสำหรับแฟนบอลชาวไทยแล้ว ยังไง ชนาธิป ก็คือ เมสซี่ ขวัญใจทุกคนอยู่แล้วนะครับ

อันดับ 5: ทาเคฟุสะ คุโบะ - เมสซี่ ญี่ปุ่น

อายุ: 17 ปี

สโมสรปัจจุบัน: โยโกฮาม่า เอฟ มาร์รินอส

ในปี 2009 เด็กน้อยอายุเพียง 8 ขวบจากเมือง คาวาซากิ ได้เดินทางไปร่วมฝึกฟุตบอลที่คลีนิคลูกหลังซึ่งจัดขึ้นโดย บาร์เซโลน่า (FC Barcelona Soccer Camp) เหล่าผู้ฝึกสอนต่างตะลึงในพรสวรรค์ของเจ้าหนูรายนี้จนเขาได้รับเลือกเป็นตัวแทนทีมต่างดาวไปลุยรายการฟุตบอลเยาวชนที่ประเทศเบลเยียมแถมยังฉกรางวัล MVP ติดมือกลับบ้านมาได้อีกต่างหาก

2 ปีต่อมา ทาเคฟุสะ คุโบะ ได้กลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกที่เซ็นสัญญากับ บาร์เซโลน่า และบินตรงเข้าศูนย์ฝึกชื่อดังของสโมสรอย่าง ‘ลา มาเซีย’ ทันที โดยตลอดระยะ 4 ปีในถิ่นอาซูลกรานา คุโบะ ได้แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขาคือหนึ่งในดาวรุ่งที่ร้ายกาจที่สุดของสโมสรด้วยการคว้ารางวัลดาวซัลโวชุด ยู11 ตั้งแต่ปีแรกของเขากับ บาร์ซ่า อีกทั้งยังเป็น MVP รายการ เมดิเตอร์เรเนียน คัพ ยู12 พร้อมกวาดทุกแชมป์ในระดับเยาวชนฤดูกาล 2013/14

แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้สวยงามไปเสมอหลัง บาร์ซ่า มีปัญหากรณีการสัญญากับนักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งส่งผลให้ คุโบะ ไม่สามารถลงสนามให้ต้นสังกัดได้และจำใจต้องย้ายกลับแดนอาทิตย์อุทัยไปร่วมทัพ เอฟซี โตเกียว ในปี 2015

คุโบะ ลงสนาม เจ ลีก ด้วยวัยเพียง 15 ปีและทำประตูแรกในอาชีพได้ในปี 2017 กลายเป็นผู้ถือสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดใน เจ ลีก และผู้ทำประตูอายุน้อยที่สุดใน เจ ลีก

ล่าสุด คุโบะ มีข่าวลือกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แต่ตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพ โยโกฮามา มาร์รินอส ด้วยสัญญายืมตัวแล้วก็เบิกสกอร์แรกให้กับทีมใหม่ได้ทันทีด้วยลูกยิงไกลสุดคมใส่ วิสเซล โกเบ ต้นสังกัดของอดีตรุ่นพี่ที่ คัมป์นู อย่าง อันเดรส อิเนียสต้า

 

อันดับ 4: แพทริค โรเบิร์ตส์ - เมสซี่ อังกฤษ

อายุ: 21 ปี

สโมสรปัจจุบัน: คิโรน่า

“เด็กคนนี้มีพรสวรรค์พิเศษ” คือคำพูดของ เฟลิกซ์ มากัธ กุนซือ ฟูแล่ม ที่ให้โอกาสแจ้งเกิด แพทริค โรเบิร์ตส์ เด็กหนุ่มร่างเล็กจาก ลอนดอน ผู้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความเร็วและเท้าซ้ายสุดฉมัง

โดย โรเบิร์ตส์ ลงเล่นในถิ่น “คราเวน คอทเทจ” เพียงซีซั่นเดียวเท่านั้นก่อน แมนฯ ซิตี้ จะทุ่มเงินซื้อไปในราคาราวๆ 12 ล้านปอนด์ และปล่อยให้ กลาสโกว์ เซลติก เลี้ยงดูถึง 3 ฤดูกาลเลยทีเดียว

โรเบิร์ตส์ กลายเป็นอาวุธสำคัญทางริมเส้นของ เซลติก ที่สามารถคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ถึง 3 สมัยติดและถ้วยฟุตบอล สก็อตติช คัพ อีก 2 ใบภายใต้การนำทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์  

หลังจากอิ่มตัวกับฟุตบอลสก๊อตฯ ซีซั่น 2018/19 นี้ โรเบิร์ตส์ จึงเลือกเปลี่ยนบรรยากาศมาหาความท้าทายใหม่ๆ กับ คิโรน่า สโมสรใน ลา ลีกา สเปน ซึ่งมีเจ้าของเดียวกับ ซิตี้

จริงอยู่ที่หลายครั้งการฝืนส่งนักเตะไปให้ทีมลูกใช้มักลงเอยด้วยความล้มเหลวและ ซิตี้ ก็มีตัวอย่างกับ คิโรน่า ให้เห็นแล้วเมื่อฤดูกาลก่อน แต่ดีลนี้ไม่ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นเนื่องจากทาง คิโรน่า เองมีการติดตามฟอร์มของ โรเบิร์ตส์ อยู่เรื่อยๆ

“ปีที่แล้วเราดูเขามาหลายเกม” กีเก้ คาเซลล์ ผู้อำนวยการกีฬาของ คิโรน่า กล่าวกับ เดอะ การ์เดียน “ความสารถในการเลี้ยงหลบคู่แข่งของเขาจะมาเสริมความอันตรายในเกมริมเส้นของเรา”

ความสำเร็จของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่เลือกใช้นักเตะดาวรุ่งในฟุตบอลโลกที่ผ่านมา บวกกับความสัมพันธ์ระหว่าง กวาร์ดิโอลา และ ลีรอย ซาเน่ ที่ดูจะมีปัญหาหลังปีก ทีมชาติเยอรมัน ถูกตัดชื่อออกจากเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด หมายความว่าหาก โรเบิร์ตส์ ทำผลงานได้ดีใน ลา ลีกา สเปน มันก็อาจเป็นประตูสู่ทัพ “สิงโตคำราม” หรือทีมชุดใหญ่ของ ซิตี้ ในอนาคตอันใกล้ก็เป็นได้

 

 

อันดับ 3: อเลน ฮาลิโลวิช - เมสซี่ โครเอเชีย

อายุ: 22 ปี

สโมสรปัจจุบัน: เอซี มิลาน

อเลน ฮาลิโลวิช ย้ายซบ “ปีศาจแดงดํา” เอซี มิลาน แบบฟรีๆ ด้วยสัญญา 3 ปีจาก ฮัมบูร์ก เอสวี ทีมดังเมืองเบียร์ ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะที่ผ่านมา

สำหรับแข้งเจ้าของฉายา “เมสซี่ แห่ง บัลคัน” สร้างชื่อด้วยการทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงสนามให้ ดินาโม ซาเกร็บ ด้วยวัยเพียง 16 ปี 101 วันในเกม “อีเทอนอล ดาร์บี้” ระหว่าง ดินาโม ซาเกร็บ และ ไฮจ์ดุ๊ก สปลิต ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นดาร์บี้แมตช์ที่โหดที่สุดเกมหนึ่งในโลก

ฮาลิโลวิช ลงสนามไปมากกว่า 60 ในทุกรายการตลอด 2 ฤดูกาลกับ ดินาโม ซาเกร็บ แถมในปี 2012 ยังทำสถิติเป็นนักเตะที่เด็กที่สุดของสโมสรที่ลงเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเขาสนามเป็นตัวสำรองแทนที่ มาเตโอ โควาซิช ในเกมกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

ลีลาการลากเลื้อยด้วยศูนย์ถ่วงร่างกายที่ตำ่และเท้าซ้ายที่เกี่ยวบอลได้ราวกับตะขอทำให้ใครๆ ที่ได้ชมเขาเล่นต่างต้องนึกถึง เมสซี่ และไม่นานนัก เจ้าบุญทุ่ม จาก สเปน ก็ดึงเด็กน้อยคนนี้ไปร่วมทีมในฤดูกาล 2014/15

ฮาลิโลวิช ได้ลงสนามกับทีมชุดบีอย่างต่อแต่กลับได้สัมผัสเกมชุดใหญ่เพียง 28 นาทีเท่านั้น หลังลงสนามเป็นตัวสำรองในศึก โกปา เดล เรย์ ก่อนที่ปีต่อมาจะถูกส่งตัวไปเสริมกระดูกกับ สปอร์ติ้ง กิฆอน

ในงานเปิดตัวของเขา กับ มิลาน ฮาลิโลวิช ตอบคำถามถึงช่วงเวลา 2 ปีที่ยากลำบากในถิ่น คัมป์นู ว่า

“เมื่อ 2 ปีที่แล้วผมยังเด็กมาก ผมย้ายไป บาร์เซโลน่า ตอนอายุแค่ 19 ปี” อเลน อธิบาย “มันยากสำหรับเด็กและยิ่งยากขึ้นไปอีกเมื่อคุณไม่ได้โอกาศลงสนาม ตอนนี้ผมอายุ 22 และมีประสบการณ์บนลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลกกว่า 90 เกม ผมคิดว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับก้าวต่อไปของผมแล้วละ”

แม้ ฮาลิโลวิช จะล้มเหลวกับ ฮัมบูร์ก และถูกส่งยืมตัวกลับไปที่ ลา ลีกา อีกครั้งแต่ผลงานการลงสนาม 30+ ใน 2 ฤดูกาลกับ สปอร์ติ้ง กิฆอน และ ลาส พัลมาส ก็น่าจะยืนยันว่าแข้งวัย 22 ปีรายนี้พอมีของอยู่บ้างหากได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง

คงต้องรอลุ้นกันว่า ฮาลิโลวิช จะเรียกศักยภาพของตัวเองออกมาได้ขนาดไหนภายใต้การดูแลของกุนซือจอมโหดอย่าง เจนนาโร กัตตูโซ

“ผมประทับใจมากหลังได้คุยกับโค้ชกัตตูโซ เขาอธิบายทุกอย่างให้ผมเข้าใจและผมก็สามารถปรึกษาเขาได้ทุกเมื่อ นับเป็นความประทับใจแรกที่ดีเลย”

“สิ่งสำคัญสำหรับผมตอนนี้คือการหาโอกาสลงเล่นและด้วยอายุ 22 ผมเลือก มิลาน เพราะที่นี่คือความก้าวหน้าของผม”

อันดับ 2: ลี ซึง วู - เมสซี่ เกาหลีใต้

อายุ: 20 ปี

สโมสรปัจจุบัน: เฮลลาส เวโรน่า

เด็กหนุ่มผู้อยู่ในการดูแลของ บาร์ซ่า ตั้งแต่อายุ 12 ปีคืออีกหนึ่งผลผลิตของ ‘ลา มาเซีย’ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเซ็นสัญญานักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปีของทีมต่าวดาวจนต้องเก็บข้าวของออกไปล่าฝันที่อื่นแทน

ลี ซึง วู เป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกของ เกาหลีใต้ ยู16 ชุดรองแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศไทย โดยแข้งมหัศจรรย์รายนี้เป็นเจ้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมและดาวยิงสูงสุดด้วยการยิงคนเดียว 5 ประตูและอีก 4 แอสซิสต์จาก 5 นัด ช่วยตีตั๋วให้ทัพ “โสมขาว” ไปเล่นฟุตบอลโลก ยู17 ชิลี ได้อย่างที่หวัง

ในปี 2017 ทุกสายตาหันมาจับจ้องที่ ลี ซึง วู อีกครั้งเมื่อเขามีชื่อลุยศึกฟุตบอลโลก ยู20 ซึ่ง เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพและ ซึง วู ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวังด้วยการซัด 2 ประตูในรอบแบ่งกลุ่ม โดยที่น่าจดจำเป็นอย่างยิ่งคือลูกยิงในเกมกับ อาเจนติน่า ที่เจ้าตัวลากหลบผู้เล่นแนวรับ “ฟ้าขาว” จากครึ่งสนามไปจบสกอร์แบบเนียนๆ ด้วยตัวคนเดียว

เมื่อฤดูกาล 2017/18 ที่ผ่านมา ซึง วู ลงสนามให้ เฮลลาส เวโรน่า ต้นสังกัดใหม่ในศึก กัลโช่ เซเรีย อา ไป 14 เกม ทำได้ 1 ประตู นี่อาจไม่ใช่ตัวเลขที่หวือหวาสำหรับนักเตะอายุ 20 ปี แต่ ซึง วู มีสถิติการเลี้ยงหลบคู่แข่งสำเร็จถึง 2.1 ครั้งทุก 90 นาที สูงเป็นอันดับ 3 ของ เซเรีย อา หากเทียบเฉพาะดาวรุ่งอายุต่ำกว่า 21 ด้วยกันเองเท่านั้น

ไม่มีใครสงสัยเรื่องทักษะ ความเร็วหรือความสามรถด้านฟุตบอลของเขา แต่ที่ผ่านมา ซึง วู ถูกวิจารณ์อย่างหลักเรื่องบุคลิกที่อาจดูหยิ่งยโสกว่านักเตะ เกาหลีใต้ คนอื่นๆ อย่างไรก็ตามประสบการณ์ที่ อิตาลี และการได้เป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลโลก 2018 ก็ดูเหมือนจะช่วยหล่อหลอมให้ ซึง วู มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

ปัจจุบัน บาร์ซ่า ยังมีข้อตกลงซื้อกลับในสัญญาของ ซึง วู กับ เฮลลาส เวโรน่า ที่เพิ่งตกลงไปเล่นใน เซเรีย บี จึงน่าจะสนใจว่าอนาคตของ “เมสซี่พลังโสม” รายนี้จะเปลี่ยนไปในทิศทางใดในลีกรองของ อิตาลี

แต่ที่มั่นใจได้เลยคือเขาคงไม่ต้องกังวลเรื่องการรับใช้ชาติในฐานะทหารอีกแล้วหลังคว้าเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ มาได้ตามเป้าหมาย

 

พิเศษ! ลิเก้ มาร์เท่นส์ - เมสซี่ เนเธอร์แลนด์

อายุ: 25 ปี

สโมสรปัจจุบัน: บาร์เซโลน่า (ทีมหญิง)

หากถามว่าใครในลิสต์นี้มีความใกล้เคียงกับ เมสซี่ มากที่สุด คงต้องยกให้ดาวยิงสุดสวยทีมชาติเนเธอร์แลนด์รายนี้

สำหรับ ลิเก้ มาร์เท่นส์ ย้ายขึ้นยานแม่ในปี 2017 และสามารถพา บาร์ซ่า ทีมหญิงคว้าฟุตบอลถ้วยในประเทศมาได้แล้ว 2 รายการ พร้อมรับตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมและติดทีมยอดเยี่ยมของ ยูฟ่า ใน 2017 อีกด้วย

เจ้าของรางวัลนักเตะหญิงยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า (2017) ยิงในระดับทีมชาติไปแล้วกว่า 39 ประตูจากการลงสนาม 92 และเป็นตัวหลักของ เนเธอร์แลนด์ ชุดแชมป์ ยูฟ่า วีเมนส์ แชมเปี้ยนชิพ 2017 และ อัลการ์ฟ คัพ 2018 ซึ่งเปรียบได้กับฟุตบอลโลกหญิงเวอร์ชั่นจำลอง

 

อันดับ 1: ปิเอโตร เปลเลกรี - เมสซี่ อิตาลี

อายุ: 17 ปี

สโมสรปัจจุบัน: เอเอส โมนาโก

“เราค้นพบ เมสซี่ คนใหม่แล้ว” เอ็นริโก้ เปรซิโอซี่ เจ้าของสโมสร เจนัว ประกาศอย่างภูมิใจในปี 2015 “เขาชื่อ เปลเลกรี”

ในปีเดียวกันนั้นฟอร์มของเจ้าหนู ปิเอโตร เปลเลกรี ได้เตะตาแมวมองของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังเขาสามารถพา เจนัว ชุดเล็กเข้าชิงรายการ แมนเชสเตอร์ พรีเมียคัพ ด้วยการเขี่ย เรอัล มาดริด ตกรอบได้สำเร็จ

ทีมปีศาจแดงไม่รอช้า รีบพยายามมัดใจ ปิเอโตร และครอบครัวด้วยการพาทัวร์สนามซ้อมแคร์ริงตันและชมเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดนทัน

อย่างไรก็ตามครอบครัว เปเลกรี ซึ่งเป็นแฟนบอล “กริโฟเน่” พันธุ์แท้ทั้งบ้านไม่อยากซ้ำรอยความผิดพลาดของ เฟเดริโก้ มาเคด้า และ ดาวิเด เปตรุชชี่ เชื่อว่า ปิเอโตร ยังเรียนรู้ได้อีกเยอะและตัดสินใจอยู่กับ เจนัว ต่อไป

ปิเอโตร เปลเลกรี พัฒนาฝีเท้าอย่างก้าวกระโดดในถิ่น สตาดิโอ ลุยจิ แฟร์ราริส และได้ประเดิมสนาม กัลโช่ เซเรีย อา ในวัยเพียง 15 ปี 280 วัน ถือเป็นสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดในลีกเทียบเท่ากับ อาเมเดโอ อามาเดอิ ตำนานนักเตะ โรม่า เด๊ะๆ แถมต่อมายังทำสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดของ กัลโช่ เซเรีย อา ที่สามารถยิง 2 ประตูใน 1 นัดอีกด้วย

เจนัว ได้รับข้อเสนอจากยักษ์ใหญ่ใน อิตาลี มากมายทั้ง ยูเว่, เอซี มิลาน และ โรม่า แต่ ปิเอโตร ก็ปฏิเสธพวกเขาไปหมดก่อนจะเลือกย้ายมาร่วมทัพ เอเอส โมนาโก ในฤดูกาลนี้

เจ้าหนูมหัศจรรย์ลงสนามนัดแรกเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 59 และใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้นก่อนที่พังประตูแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ได้อย่างสวยงาม กลายเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ที่สามารถยิงได้ใน ลีกเอิง ฝรั่งเศส รองจากจาก คีเลียน เอ็มบัปเป้

แถมล่าสุด ปิเอโตร เปลเลกรี ยังมีชื่อติด ทีมชาติอิตาลี ของ โรแบร์โต มันชินี ซึ่งเตรียมอุ่นเครื่องกับโปแลนด์ และ โปรตุเกส ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก อีกด้วย