ฟุตบอลโลก เอเชีย

TRIBE XI : ทีมเอเชียยอดเยี่ยมบอลโลก 2018

 

หลังจากที่ทีมชาติญี่ปุ่นพ่ายต่อทีมชาติเบลเยียม 2-3 ในฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นั่นหมายความว่า 5 ชาติตัวแทนจากทวีปเอเชียตกรอบกันครบทุกทีมเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม หลายทีมจากเอเชียก็มีนักเตะหลายคนที่งัดฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นออกมาช่วยทีมทำผลงานต่างกันออกไป และนี่คือรวมสตาร์ทีมยอดเยี่ยมทวีปเอเชียในเวิลด์คัพที่รัสเซีย ที่ฟุตบอลไทรบ์ลองจัดทัพในระบบ 4-3-3

กดลูกศรทางขวามือเพื่อติดตาม

 

ผู้รักษาประตู - โช ยุน วู (เกาหลีใต้)

แม้ว่านายด่านแดกู เอฟซี จะถูกคาดหมายก่อนทัวร์นาเมนต์บอลโลกเริ่มว่าเป็นผู้รักษาประตูมือสามในนามทีมชาติเกาหลีใต้ แถมตลอดเกมอุ่นเครื่องในปี 2018 โกลวัย 26 ปีก็ได้โอกาสลงสนามเพียงเกมเดียวเท่านั้น ทว่าพอเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม โชกลับก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของเกาหลีใต้เหนือ คิม ซึง กิว และ คิม จิน ยอน สองนายทวารที่มีประสบการณ์ติดทีมชาติเยอะกว่า แถมตอบแทนความไว้วางใจทำสถิติเป็นผู้รักษาประตูท็อปทรีหลังผ่านเกมรอบแบ่งกลุ่มที่โชว์เซฟมากถึง 13 ครั้ง (คิดเป็นร้อยละ 81.2) โดยจำนวนเซฟ 7 ครั้ง เกิดขึ้นในเกมโสมขาวชนะเยอรมัน 2-0

 

แบ็คขวา - รอมิน รีฎอเยียน (อิหร่าน)

ในตำแหน่งอื่นของทีมชาติอิหร่าน คาร์ลอส เคยรอซ มักจะให้ผู้เล่นตัวสำรองออกไปงัดศักยภาพแทน 11 ตัวจริง ทว่ากับผู้เล่นในตำแหน่งแบ็คขาวอย่างรอมินนั้น เจ้าตัวคือ 3 จาก 23 ขุนพลนักรบเปอร์เซียที่ไม่เคยถูกเปลี่ยนตัวออกเลย แถมยังลงสนามครบ 270 นาทีตลอด 3 แมตช์ สิ่งนี้กลายเป็นจุดเด่นของทีม ที่แม้จะมีเพื่อนร่วมสายบีทั้ง สเปน และ โปรตุเกส แต่อิหร่านกลับยันสองชาติจากยุโรปอยู่ด้วยการเสียประตูรวมสองนัดแค่สองลูกเท่านั้น เรียกได้ว่าแบ็ควัย 26 กะรัตมีส่วนกับเกมรับอันแข็งแกร่งนี้ไม่น้อย

 

กองหลังตัวกลาง - มายะ โยชิดะ (ญี่ปุ่น)

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแนวรับมากประสบการณ์สังกัดเซาท์แธมป์ตันคือหัวใจสำคัญในแผงเกมรับซามูไรบลูชุดลุยบอลโลกหนนี้ โดยตลอดเวลา 360 นาทีในสนามทั้งรอบแบ่งกลุ่มและรอบ 16 ทีมสุดท้าย กองหลังเจ้าของส่วนสูง 189 เซนติเมตร งัดประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกสกัดเกมรุกคู่แข่งบ่อยครั้ง โดยรวมแล้วโยชิดะมีสถิติเคลียร์บอลสำเร็จถึง 35 ครั้ง ซึ่งมากที่สุดในบรรดากองหลังเอเชีย

 

กองหลังตัวกลาง - จาง ฮยอน โซ (เกาหลีใต้)

ดาวเตะสังกัดเอฟซี โตเกียว ก้าวขึ้นมาเป็นแนวรับตัวเลือกแรกๆในทีมแทกุ๊ก วอริเออร์สชุดปัจจุบัน แม้ในเกมแรกเจ้าตัวจะพลาดทำโสมขาวเสียจุดโทษจนเป็นฝ่ายพ่ายสวีเดน 0-1 แต่พอเกมถัดมา โดยเฉพาะนัดส่งท้ายกับอินทรีเหล็ก เขาถูกดันขึ้นมาเล่นเป็นกองกลางจำเป็นแทนที่ของ กี ซุง-ยอง ที่มีอาการเจ็บและชวดเล่นนัดนี้ได้อย่างไร้ที่ติ เบ็ดเสร็จแล้วจางมีสถิติเคลียร์บอลสูงสุดในทีมเกาหลีใต้ชุดนี้ที่ 16 ครั้ง แถมยังมีสถิติวิ่งระยะทางสูงเป็นลำดับสองของทีมที่ 28.2 กิโลเมตร

 

แบ็คซ้าย - คิม ยอง กวอน (เกาหลีใต้)

กองหลังสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งกองหลังตัวกลางและฟูลแบ็คทั้งสองข้าง มีส่วนสำคัญในการช่วยสกัดเกมรุกไม่แพ้จาง ฮยอน ซู โดยเจ้าตัวก็เป็นหนึ่งในสามกองหลังที่ได้โอกาสจากชิน แต ยอง เฮดโค้ชโสมขาวในการสตาร์ทเป็นปราการหลังตัวกลางครบทั้งทุกเกม ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบแทนโอกาสนี้แบบน่าพอใจ เขามีวินัยเกมรับที่หนักแน่น เข้าสกัดคู่แข่งแบบไม่เสียฟาวล์ถึง 4 ครั้ง แถมยังเป็นกองหลังตัวกลางรายเดียวของทีมที่ได้โอกาสขึ้นไปเติมเกมรุก และเปลี่ยนเป็นสกอร์ให้โสมขาวได้ในนัดส่งท้ายที่ทีมชนะเยอรมัน 2-0

 

กองกลางตัวตัดเกม - มาโกโตะ ฮาเซเบะ (ญี่ปุ่น)

ในวัย 34 กะรัต พร้อมกับประสบการณ์ค้าแข้งในยุโรปไม่น้อยกว่า 10 ปี ฮาเซเบะเป็นทั้งรุ่นพี่คอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมชาติและคอยสกรีนเกมรุกคู่แข่งก่อนถึงพื้นที่สุดท้ายซามูไรบลูแบบไว้ใจได้ โดยตลอดผลงาน 4 นัดร่วมกับญี่ปุ่นในบอลโลกหนนี้ ฮาเซเบะเคลียร์บอลทิ้งได้ 6 ครั้ง ตัดฟาวล์คู่แข่งแบบไม่โดนใบเหลือง 5 จาก 6 ครั้ง แถมยังมีสถิติวิ่งระยะทางจากการขึ้นไล่บอลและลงตัดเกมติดท็อป 5 ของทีมอีกด้วย (32.4 กิโลเมตร)

 

กองกลาง - กาคุ ชิบาซากิ (ญี่ปุ่น)

ดาวเตะสังกัดเกตาเฟ พิสูจน์ตัวเองในนามทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ กับทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกหนนี้ได้อย่างเต็มตัว โดยตลอดผลงาน 4 เกมร่วมกับซามูไรบลู บทบาทหลักของชิบาซากิคือการจ่ายบอล และถอยไปช่วยเกมรับในบางโอกาส สิ่งนี้แสดงออกมาเป็นสถิติที่ชิบาซากิผ่านบอลสำเร็จถึง 201 จาก 238 ครั้ง หนึ่งในนั้นคือการแอสซิสต์ให้เก็งกิ ฮารางุจิ ทำประตูในเกมพ่ายเบลเยียม 2-3 นอกจากนี้ สตาร์วัย 26 ปียังมีสถิติสกัดบอลสำเร็จมากถึง 6 ครั้ง

 

กองกลาง - อารอน มอย (ออสเตรเลีย)

เขาคือหัวใจสำคัญของออสเตรเลียในฟุตบอลโลกหนนี้ แม้จะไม่มีส่วนโดยตรงกับ 2 ประตูที่ทีมได้ในทัวร์นาเมนต์ แต่หากนับสถิติเรื่องการผ่านบอล ถอยไปเล่นเกมรับ กองกลางฮัดเดิลสฟิลด์ดูโดดเด่นกับการเล่นลักษณะนี้ร่วมกับทีมมากกว่า ไล่มาตั้งแต่สถิติจ่ายบอลเสียเพียง 28 ครั้งจาก 197 ครั้ง สถิติการเข้าปะทะ 6 ครั้ง เปลี่ยนเป็นการถูกเป่าฟาวล์ 4 ครั้ง แต่ก็เป็นการฟาวล์ฉลาดแบบเข้าที่บอล ซึ่งทำให้มอยไม่โดนใบเหลืองเลย และยังเป็นแข้งออสซีที่มีสถิติวิ่งระยะทางสูงสุดของทีมที่ 33.7 กิโลเมตรตลอดเวลา 270 นาทีในสนาม

 

กองหน้าด้านขวา - ซน ฮึง มิน (เกาหลีใต้)

แม้ฟอร์มส่วนตัวดร็อปลงไปเล็กน้อย แถมยังเล่นไม่เข้าขากับเพื่อนร่วมทีมในเกมแรกกับสวีเดน ทว่าพอเข้าสู่เกมที่เหลือของรอบแบ่งกลุ่ม กองหน้าสังกัดท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์เริ่มแสดงให้เห็นถึงความสามารถเฉพาะตัว และเล่นกับเพื่อนร่วมทีมชนิดที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ โดยรวมแล้วซนร้อนแรงถึงขั้นยิง 2 จาก 3 ประตูให้โสมขาวในบอลโลกหนนี้ โดยหนึ่งในนั้นคือประตูย้ำชัยชนะเหนือเยอรมัน แชมป์เก่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลังของแมตช์ส่งท้ายไป 2-0 นอกจากนี้ เขายังมีสถิติเป็นผู้เล่นที่มีโอกาสทำประตู ตลอด 3 เกมในอันดับ 4 ร่วมที่จำนวน 14 ครั้ง

 

กองหน้าตัวเป้า - ยูยะ โอซาโกะ (ญี่ปุ่น)

ดาวยิงป้ายแดงของแวร์เดอร์ เบรเมน ได้รับเลือกให้เป็นศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของทัพซามูไรบลูเหนือ ชินจิ โอคาซากิ แข้งจอมเก๋าที่มีอาการเจ็บก่อนเริ่มฟุตบอลโลก รวมถึง โยชิโนริ มุโตะ กองหน้ารุ่นน้อง และตลอดผลงาน 4 เกมในเวิลด์คัพครั้งนี้ โอซาโกะกลายเป็นฮีโรของญี่ปุ่นตั้งแต่เกมแรก หลังโขกประตูชัยพาทีมเฉือนโคลอมเบีย 2-1 และแม้จะยิงได้แค่ประตูเดียว แต่หากดูสถิติรวม กองหน้าวัย 28 ปีมีสัญชาตญาณดาวยิงในกรอบเขตโทษจากโอกาสได้จบสกอร์ 7 ครั้ง เขายิงตรงกรอบได้ถึง 4 หน แถมยังมีส่วนเชื่อมเกมรุกผ่านการจ่ายบอลสำเร็จไป 55 จาก 72 ครั้งที่ทำได้ตลอดเวลา 308 นาทีในสนาม

 

กองหน้าด้านซ้าย - ทาคาชิ อินุอิ (ญี่ปุ่น)

กับโอกาสในทีมชาติญี่ปุ่นครั้งที่ผ่านๆมา อินุอิมักจะตกเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง ทว่าในฟุตบอลโลก 2018 ภายใต้การคุมทีมของอะกิระ นิชิโนะ ตัวรุกสังกัดเรอัล เบติส กลายมาเป็นตัวเลือกแรกทางริมเส้นด้านซ้ายของทีมลูกพระอาทิตย์ ซึ่งดาวเตะวัย 30 กะรัต ตอบแทนการลงสนามครบทั้ง 4 แมตช์ด้วยการทำ 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ โดยหนึ่งในนั้นคือประตูนำเบลเยียมในรอบ 16 ทีมสุดท้าย 2-0 ก่อนจะพลาดท่าโดนคู่แข่งรัวแซงท้ายเกม 3-2