สี่ปีหน้าเจอกัน: ทีมแข้งความหวังใหม่ญี่ปุ่นสานต่อบอลโลก 2022

ทีมชาติญี่ปุ่นพลาดโอกาสผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2018 หลังโดนทีเด็ดของเบลเยียมแซงชนะ 3-2 ทั้งที่ออกนำไปก่อนถึง 2-0 อย่างไรก็ดี ในทัวร์นาเมนต์ที่รัสเซียหนนี้ ซามูไรบลูมี 23 แข้งผสมผสานระหว่างแกนหลักประสบการณ์สูง กับสตาร์เลือดใหม่ที่รอวันขึ้นเป็นกำลังสำคัญในอนาคต ไม่แน่ว่าหากวันข้างหน้าเหล่าความหวังใหม่จากทีมชุดนี้ หรืออีกหลายคนที่ยังรอโอกาสอาจจะเข้ามาทดแทนขุมกำลังเดิม ร่วมกันผนึกกำลังให้ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จมากกว่าเดิมในฟุตบอลโลก 2022 และนี่คือรวมทีมสตาร์เลือดใหม่ซามูไรบลูลุ้นสานผลงานต่อไปยังเวิลด์คัพในอีก 4 ปีข้างหน้า จากการจัดทีมของฟุตบอลไทรบ์ในระบบ 4-2-3-1

กดลูกศรทางขวาเพื่ออ่าน

ผู้รักษาประตู - โคซุเกะ นาคามูระ

มือกาววัย 23 ปี กลายมาเป็นตัวหลักร่วมกับคาชิวะ เรย์โซล ต้นสังกัดปัจจุบันตั้งแต่ฤดูกาล 2016 เรื่อยมาจนถึงซีซันปัจจุบัน และแม้ว่าปี 2018 เจ้าตัวจะพลาดโอกาสลงสนามไป 3 เกมจากอาการบาดเจ็บ แต่เขาก็มีโอกาสเฝ้าเสาในนามเจ้าชายสุริยะไปแล้วถึง 12 เกม เก็บได้ 2 คลีนชีท สิ่งนี้ได้สานต่อมายังโอกาสติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว และในขณะนี้เจ้าตัวก้าวขึ้นมาเฝ้าเสาให้ชุดใหญ่มาแล้ว 4 แมตช์ รวมถึงได้โอกาสเป็นผู้รักษาประตูมือสามในนามทีมซามูไรบลู แม้จะยังไม่มีโอกาสลงเฝ้าเสา แต่ในยามที่เออิจิ คาวาจิมะ หรือ มาซาอากิ ฮิกาชิงุจิ ตัดสินใจเลิกเล่นทีมชาติในภายหน้า ก็ไม่แน่ว่านาคามูระอาจจะกลายเป็นนายทวารตัวเลือกแรกอย่างยากจะปฏิเสธ

แบ็คขวา - เซอิ มุโรยะ

อดีตแบ็คขวาดีกรีทีมชาติญี่ปุ่นชุดลุยฟุตบอลโลก U17 เมื่อปี 2011 และคว้าแชมป์เอเชียU23 เมื่อ 2 ปีก่อน กลายเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นกำลังสำคัญที่พาต้นสังกัดอย่าง เอฟซี โตเกียว บินสูงถึงขั้นรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงของตารางเจ1ลีก ผ่านสถิติลงสนาม 13 เกม ทำ 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ ไม่แน่ว่าหากเขายังรักษามาตรฐานการเล่นโดดเด่นอยู่เสมอ เจ้าตัวก็มีโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่มากกว่า 1 เกมที่เคยได้โอกาสอยู่ในขณะนี้ หรืออาจขึ้นมาทดแทนตำแหน่งของฮิโรกิ ซากาอิ หรือ โกโตคุ ซากาอิ ในภายหน้าก็เป็นได้

กองหลังตัวกลาง - นาโอมิชิ อุเอดะ

ดาวเตะเจ้าของส่วนสูง 186 เซนติเมตร ก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงร่วมกับต้นสังกัดอย่าง คาชิมา อันท์เลอร์ส มาตั้งแต่ปี 2014 ด้วยวัยขณะนั้นเพียง 19 ปี ขณะที่ผลงานในนามทัพซามูไรบลู อุเอดะถือเป็นอีกหนึ่งดาวเตะกำลังสำคัญที่พาทัพลูกพระอาทิตย์คว้าแชมป์ AFC U23 เมื่อปี 2016 ก่อนจะเริ่มมาติดทีมชาติชุดใหญ่หนแรกและได้ลงเล่นเมื่อปลายปีที่แล้ว กระทั่งมีชื่อติดทีมเรื่อยมาจนกลายเป็น 1 ใน 23 ขุนพลชุดลุยรัสเซีย แม้จะยังไม่มีโอกาสลงสนาม แต่จากการฝึกซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่เคียงข้างบรรดารุ่นพี่ที่ประสบการณ์ลงสนามโชกโชน ก็น่าจะทำให้เจ้าตัวเรียนรู้ และขึ้นมาทดแทนตำแหน่งในอนาคต

กองหลังตัวกลาง - เกน โชจิ

แข้งวัยเบญจเพสได้รับเซอร์ไพรส์จากอะกิระ นิชิโนะ สำหรับการลงตัวแทนในตำแหน่งกองหลังตัวกลางคู่กับ มายะ โยชิดะ แทนที่โทโมอากิ มาคิโนะ และทดแทนโอกาสล้ำค่านี้ได้อย่างไร้ที่ติ โดยเจ้าตัวเริ่มได้โอกาสติดทีมชาติญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อนเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่พาซามูไรบลูทะลุสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก จากโอกาสที่ได้ลงเล่นเกมรอบคัดเลือกสามนัดสุดท้ายแบบ 270 นาทีเต็ม แถมผลงานในระดับสโมสรร่วมกับคาชิมา อันท์เลอร์ส ก็เด่นถึงขั้นได้รับโอกาสติดทีมยอดเยี่ยมเมื่อปีที่แล้ว แน่นอนว่าในยามที่แกนหลักในแดนหลังหลายคนเริ่มโรยรา โชจิก็พร้อมจะเข้ามาทดแทนเหล่าแนวรับรุ่นพี่ได้อย่างไม่มีปัญหา

แบ็คซ้าย - วาตารุ เอนโด

สตาร์สารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งกองหลังตัวกลาง แบ็คทั้งซ้ายและขวา หรือแม้แต่ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวตัดเกม ซึ่งจากสิ่งนี้เองทำให้อีกหนึ่งดาวเตะชุดแชมป์ AFC U23 เมื่อปี 2016 ได้โอกาสสำคัญกับการเป็น 1 ใน 23 ขุนพลแดนปลาดิบลุยเวิลด์คัพที่รัสเซีย และแม้จะยังไม่มีชื่อลงสนามตลอด 4 นัด ทว่าจากการอยู่ซ้อมและดำเนินชีวิตร่วมกับเหล่าแข้งรุ่นพี่มากประสบการณ์ บวกกับฟอร์มส่วนตัวของเขาในระดับสโมสรก็ยังพร้อมจะพัฒนาอยู่เรื่อยๆ ก็น่าจะทำให้ดาวเตะจากอุราวะ เรดส์ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวหลักของญี่ปุ่นในภายหน้าได้ไม่ยาก

กองกลาง - เรียวตะ โอชิมะ

มิดฟิลด์วัยเบญจเพสกลับมามีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่อีกครั้งใน 1 ปีกว่าเมื่อปลายปีที่แล้วในรายการชิงแชมป์เอเชียตะวันออก ภายหลังที่พาคาวาซากิ ฟรอนทาเล ต้นสังกัดที่ค้าแข้งด้วยมาตั้งแต่ฤดูกาล 2011 ไปไกลถึงการเป็นแชมป์เจลีก ก่อนจะได้โอกาสติดทีมต่อเนื่องในชุดเตรียมลุยเวิลด์คัพเมื่อต้นปี 2018 นี้ และกลายมาเป็นอีกหนึ่งขุมกำลังแดนกลางชุดลุยบอลโลกที่รัสเซียได้สำเร็จ แม้จะไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลย ทว่าจากประสบการณ์ครั้งหนึ่งกับทีมชาติชุดใหญ่ในบอลโลก ก็น่าจะเติมเต็มฝันให้เจ้าตัวกลับมไปทำผลงานดีในระดับสโมสร และลุ้นพาญี่ปุ่นลุยทัวร์นาเมนต์นี้ในอีก 4 ปีข้างหน้าก็เป็นได้

กองกลาง - โยซุเกะ อิเดงุจิ

อดีตเด็กสร้างกัมบะ โอซาก้า ที่ปัจจุบันค้าไปค้าแข้งกับลีโอเนซา ด้วยสัญญายืมจากลีดส์ ยูไนเต็ดถูกหั่นชื่อจาก 23 แข้งลุยเวิลด์คัพที่รัสเซีย จนช่วงหนึ่งอะกิระ นิชิโนะได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำไมจึงไม่เลือกเจ้าตัวมาติดทีม ทั้งที่ทำผลงานเด่นร่วมกับทีมซามูไรบลูมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ทั้งการพาทีมการันตีสู่รอบสุดท้ายจากการลงสนามช่วงโค้งสุดท้ายของรอบคัดเลือก แถมช่วงอุ่นเครื่องเมื่อต้นปีนี้ อิเดงุจิในวัย 21 กะรัต ก็แทบจะเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางมาโดยตลอด

แม้จะพลาดโอกาสไปรัสเซีย แต่เนื่องจากวัยของเจ้าตัวที่เพิ่งจะอายุไม่มาก หากช่วงเวลาต่อจากนี้เขาเก็บประสบการณ์ในการค้าแข้งในยุโรปต่อไปเฉกเช่นกับบรรดานักเตะรุ่นพี่ในทีมชาติ ก็มีโอกาสไม่น้อยกลับมาติดทีมชาติชุดใหญ่จนกลายเป็นแกนหลักช่วยทีมลุยบอลโลกหนต่อไป

กองกลาง - กาคุ ชิบาซากิ

มิดฟิลด์วัย 26 ปีกลายมาเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของญี่ปุ่นอย่างเต็มตัวไปแล้ว หลังได้โอกาสลงสนามครบทั้ง 4 เกม ทั้งยังเป็นโอกาสลงเป็นตัวจริงครบทุกนัด และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตัวเองที่ลงเล่นเคียงข้างเหล่าสตาร์ประสบการณ์สูงได้อย่างรู้ใจ แถมเส้นทางค้าแข้งในปัจจุบันของเจ้าตัวก็ยืนหยัดอยู่ในลียุโรปกับศึกลาลีกา แน่นอนว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด กาคุยังคงรักษามาตรฐานการเล่นระดับนี้ต่อไปเรื่อยๆ ในวัย 30 ปีกับฟุตบอลโลก 2022 ก็คงจะไม่หนีเขาไปไหน

ปีกขวา - ทาคุมะ อาซาโนะ

แนวรุกเจ้าของฉายา “เดอะ จากัวส์” เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่อะริกะ นิชิโนะ ไม่เลือกติดทีมชาติชุดลุยฟุตบอลโลก 2018 ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้เล่นขาประจำที่ถูกเรียกติดทีมชาติมาแล้วถึง 17 เกม อย่างไรก็ดี ในวัยแค่ 23 กะรัต อาซาโนะยังมีเวลาที่จะพัฒนาฝีเท้าของตนเองต่อไป โดยเฉพาะกับบทพิสูจน์ใหม่ร่วมกับฮันโนเวอร์ ที่เขาเพิ่งจะย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาล 2018-19 นี้ และอาจเป็นใบเบิกทางสำคัญที่ทำให้อดีตแข้งซานเฟรชเช ฮิโรชิมา กลับไปติดทีมชาติอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงเส้นทางสู่ฟุตบอลโลกในอีก 4 ปีข้างหน้า

ปีกซ้าย - โชยะ นาคาจิมา

แม้จะทำผลงานเด่นในการค้าแข้งที่ลีกยุโรปหนแรกของอดีตตัวรุกดีกรีซามูไรชุดแชมป์เอเชีย U23 ร่วมกับปอร์ติโมเนนเซ ทีมในลีกสูงสุดแดนฝอยทองเมื่อซีซัน 2017-18 ที่ผ่านมา จากสถิติลงสนาม 29 แมตช์ ยิงไป 10 ประตูกับ 10 แอสซิสต์ ก้าวมามีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของลีก แต่นาคาจิมาก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ไม่ถูกเรียกติดทีมเป็น 23 คนสุดท้าย อย่างไรก็ตาม จากฟอร์มเด่นในลีกยุโรปตั้งแต่ซีซันแรก ก็น่าจะเป็นโอกาสสำคัญที่แข้งวัย 23 ปีเรียนรู้ที่จะรักษามาตรฐานนี้ไว้ เพื่อเพิ่มโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่ต่อไปในภายหน้า

กองหน้า - โยชิโนริ มุโตะ

แนวรุกสังกัดไมนซ์05 ถูกเรียกติดทีมชาติญี่ปุ่นลุยบอลโลก 2018 ในฐานะ 1 ใน 3 กองหน้าร่วมกับชินจิ โอคาซากิ และ ยูยะ โอซาโกะ แต่พอถึงการแข่งขันจริงดูเหมือนว่าบทบาทของเจ้าตัวจะเป็นแค่ตัวเลือกอันดับสามเท่านั้น ทว่าจากเส้นทางในอาชีพค้าแข้งที่ยังไปได้อีกไกล (ปัจจุบันอายุ 25 ปี) น่าจะทำให้มุโตะ ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเชลซีเสริมคว้าตัวไปเสริมทีมมีเวลาพัฒนาศักยภาพ โดยเฉพาะการจบสกอร์ เพราะไม่แน่ว่าในเส้นทางอีก 4 ปีข้างหน้าที่กาตาร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชินจิ โอคาซากิน่าจะหันหลังให้ทีมชาติไปแล้ว ส่วนโอซาโกะ ก็จะมีอายุสูงถึง 32 ปี มุโตะอาจกลายเป็นศูนย์หน้าคนสำคัญของญี่ปุ่นก็เป็นได้

ระบบการเล่น 4-2-3-1