ฟุตบอลทีมชาติ ฟุตบอลโลก

เดอะแบกที่แท้ทรู: 8 ทีมชาติที่ฝากความหวังกับผู้เล่นคนเดียวในบอลโลก 2018

ก่อนฟุตบอลโลก 2018 จะเริ่มขึ้น หลายทีมถูดคาดการณ์ว่าจะต้องหวังพึ่งกับผู้เล่นสำคัญเพียงคนเดียว ผ่านไปแล้วครึ่งทางของรอบแบ่งกลุ่มว่าสิ่งที่คาดกันนั้นจริงหรือไม่ ลิสต์ต่อไปนี้จะสรุปผลงานของเหล่า’วันแมน-ทีม’

กดลูกศรขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

อียิปต์ - โมฮัมเหม็ด ซาลาห์

ประเทศแห่งปิระมิดดูโชว์ฟอร์มไม่ออกในเวทีระดับโลกที่ผ่านเข้ามาได้ครั้งแรกในรอบ 28 ปี ในเกมแรกที่ไม่มีนักเตะตัวท็อปอย่าง โม ซาลาห์ อียิปต์พ่ายให้กับอุรุกวัย 1-0 และเมื่อได้ซาลาห์กลับมา ลูกทีมของเฮกตอร์ คูเปร์ก็ยังพ่ายแพ้ 3-1 ต่อเจ้าภาพ 3-1 และเก็บกระเป๋ากลับบ้านจากศึกฟุตบอลโลก 2018 เรียบร้อยแล้ว

โปแลนด์ - โรเบิร์ต เรเวานดอฟสกี

ฟอร์มการเล่นของเลวานดอฟสกีในสีเสื้อบาเยิร์นสุดยอดมากๆ แต่ว่าบทบาทของเขากับทีมชาติโปแลนด์เหมือนไม่มีตัวตนและต้องการคนสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีม ในเกมแรกกับเซเนกัล เลวานแทบไม่ได้ขยับและโปแลนด์แพ้ไป 1-2

อาร์เจนตินา - ลิโอเนล เมสซี

นี่คือทีมที่เจอปัญหามากที่สุดในรอบแบ่งกลุ่ม การหวังพึ่งเมสซีเห็นได้ชัดเจนในเกมกับไอซ์แลนด์ เมื่อจุดโทษของเมสซีไม่เป็นประตู พวกเขาก็ทำได้เพียงผลเสมอ อาร์เจตินาต้องการผู้เล่นที่พึ่งได้มากกว่าอัจฉริยะคนนี้ถ้าอยากไปได้ไกลในฟุตบอลโลก

โปรตุเกส - คริสเตียโน โรนัลโด

นอกเหนือจากโรนัลโด ทีมโปรตุเกสยังเต็มไปด้วยแข้งคุณภาพมากมาย อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถทำประตูได้เลยถ้าไม่มีความอัจฉริยะของโรนัลโด 4 ประตูจาก 2 เกมล้วนมาจากฝีเท้าของปีกวัย 33 ทั้งหมด

เซเนกัล - ซาดิโอ มาเน

มาเน่ผู้วิ่งไม่มีหมดโดดเด่นกับลิเวอร์พูล แต่ในเกมกับโปแลนด์ การหวังพึ่งนักเตะเพียงคนเดียวกลับไม่ได้ผล แม้ว่ามาเน่จะได้รับการปกป้อง แต่นักเตะในทีมเซเนกัลก็ยังพูดถึงเรื่องนี้ว่านักเตะคนอื่นอย่าง เอ็มบาย เนียงก็สามารถฉายแววได้เหมือนกัน

คอสตาริกา - เคย์ลอร์ นาบาส

การสร้างเซอร์ไพรส์เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2014 จะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีความสุดยอดของนาบาสที่หน้าประตู ในบอลโลกสมัยนี้ ทัพกล้วยหอมยังหวังพึ่งประตูผู้คว้าแชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยติดต่อกันกับเรอัล มาดริด ความคาดหวังของคอสตาริก้ายังเห็นได้ชัดในเกมที่ถูกเซอร์เบียเชือดไป 1-0

เปรู - เปาโล เกอเรโร

หลังจากการยื่นอุทธรณ์ของเกอเรโรกับฟีฟ่าแล้ว เปรูยังถูกคาดว่าจะขึ้นกับฟอร์มของตัวรุกจอมเก๋าคนนี้ อย่างไรก็ตาม ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมดูเหมือนจะยังไม่ได้โชว์ฟอร์มอยู่ที่หน้าประตู อย่างน้อยในเกมแรกกับเดนมาร์ก ดาวเตะวัย 34 อดีตแข้งของบาเยิร์นและฮัมบูร์กก็ได้ลงในฐานะตัวสำรอง

เดนมาร์ก - คริสเตียน อิริกเซ่น

มีการอำกันว่าแผนของเดนมาร์กในฟุตบอลโลก 2018 คือ ‘ส่งบอลให้อิริกเซ่น และปล่อยให้เขาตัดสินใจที่เหลือ’ ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในเกมเอาชนะเปรู 1-0 อีริกเซ่นเป็นมันสมองของเกมรุกทีมโคนมจากแดนกลาง ต่อเนื่องไปถึงจังหวะยิงของยุซซุฟ โพลเซน ในเกมที่สอง เจ้าตัวยังยิงประตูสุดสวยใส่ออสเตรเลียด้วย