ทีมชาติเมสซี่: 5 ปัญหาสำคัญที่อาร์เจนตินาต้องแก้ในฟุตบอลโลก

ฟุตบอลโลก 2018 นัดแรกในหลายกลุ่มได้ทยอยเปิดฉากกันไปแล้ว ที่น่าสนใจของปีนี้คือทีมเต็งหลายทีมกลับประเดิมสนามได้ไม่สวยซักเท่าไหร่ หนึ่งในนั้นคืออาร์เจนตินา ที่เรียกได้ว่ามีนักเตะระดับโลกมากมายรวมถึง ลิโอเนล เมสซี ผู้คาดหวังจะได้ชูถ้วยฟุตบอลโลกซักที แต่อะไรคือสาเหตุที่พวกเขาจะต้อแก้ไขในนัดต่อไป

กดลูกศรทางขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

1. หยุดให้เมสซี่แบกทีม

ลิโอเนล เมสซี่พลาดจุดโทษ 4 จาก 7 ครั้งหลังสุดที่ตัวเองรับผิดชอบกับบาร์เซโลนาและอาร์เจนตินารวมกัน (57%) อย่างไรก็ตาม เมสซีก็ยังถูกวางเป็นคนแบกทีมชาติอาร์เจนตินาในฟุตบอลโลก 2018

การพึ่งพาเมสซีของอาร์เจนตินาจะกลายเป็นหายนะต่างกับบาร์เซโลนาที่หลายครั้งเขาจะต้องอยู่ในจุดตัดสินสำคัญในสนาม ทีมอาร์เจนไตน์จะต้องให้อิสระและไม่กดดันแบบที่เขาเล่นกับบาร์ซา และผู้เล่นอย่างดิ มาเรียหรือ อาเกวโร่ก็รับผิดชอบในส่วนของลูกตั้งเตะได้

ฟุตบอลโลกนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของเมสซี ฮอร์เก ซามเปาลีควรปล่อยให้เมสซีเล่นโดยปราศจากภาระของประเทศหรือความคาดหวังของทีมอยู่บนบ่าของเขา

2. 11 ตัวจริงที่น่ากังขา

ชุดตัวจริงของอาร์เจนตินาดูแย่มาก คู่มิดฟิลด์บีย่า-มาสเคราโนดูเฉื่อยและไม่มีแรงขับเคลื่อน โรโฮที่ได้ลงตัวจริงทั้งๆที่ได้เล่นไม่ถึง 10 เกมกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดฤดูกาลก่อน เมซา น่าจับตามองที่่ได้ลงแต่จะน่าสนใจกว่าหรือเปล่าถ้าเป็นคริสเตียน ปาบอนหรือเปาโล ดิบาลา ปาบอนมีความเร็วและวิ่งเข้าหาประตูได้ดี ซึ่งน่าจะเพิ่มมิติเกมรุกด้านข้างได้ อย่างน้อยก็ให้ไอซ์แลนด์ต้องรับมือผู้เล่นที่แตกต่างและยากขึ้น ทักษะสำคัญของเขาคือการเลี้ยงในพื้นที่แคบอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสเอาชนะจังหวะดวลตัวต่อตัว ถ้าซามเปาลีให้โอกาส เขาอาจจะเฉิดฉายในฟุตบอลโลกครั้งนี้

3. ปัญหาแผงมิดฟิลด์: อายุ ความเร็ว ความแม่นยำ

อังเคล ดิ มาเรียสร้างโอกาสทำประตูแล้ว 23 ครั้งให้อาร์เจนตินาในเวิลด์คัพสามครั้ง แต่ไม่มีซักครั้งที่กลายเป็นแอสซิสต์ ปีกจากปารีสยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเหมือนตอนอยู่เรอัล มาดริด เช่นเดียวกับคู่บีญา-มาสเคราโนที่ไม่สามารถรักษาความสม่ำเสมอในการเล่นเป็นมิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ หรือเพิ่มมิติเกมรุกในแดนสุดท้ายได้ ซึ่งเหมือนจะดูจับทางได้ทุกอย่างเมื่ออยู่รอบข้างเมสซี การใช้ดิบาลาผู้มีฟอร์มที่ดีกับยูเวนตุสแทนดิมาเรีย น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ การมีปาบอนและดิบาลาวิ่งทะลุช่อง และเมสซีเล่นตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ที่ถนัดหลังกุน อเกวโรจะช่วยเพิ่มความดุดันในแดนสุดท้ายของอาร์เจนตินาได้

สถิติจริง: ลิโอเนล เมสซี(11) มีโอกาสยิงมากกว่าคริสเตียโน โรนัลโด(4) ถึง 7 ครั้งในเกมฟุตบอลโลกนัดแรก แต่ดาวเตะโปรตุกีสยิงได้ 3 ลูกขณะที่เมสซียิงไม่ได้เลย

4. ตัวซัพพอร์ทเมสซี: ปาบอน ดีบาลา โจวานนี โล เซลโซ ไม่ได้ลงตัวจริง

ลิโอเนล เมสซีมีโอกาสยิง 11 ครั้งในเกมกับไอซ์แลนด์(มากที่สุดที่เจ้าตัวทำได้ในฟุตบอลโลก) แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ นับแต่ปี 1966 มีเพียงลุยจิ ริวาที่มีโอกาสยิงมากกว่า (13 ครั้งในเกมสวีเดนเจออิสราเอล ปี 1970) อเกวโรและอิกวาอิน จะต้องแบ่งเบาหน้าที่การทำประตูและเกมรุกด้วย

อร์เจนตินาทำสถิติครองบอล 78% เมสซีจ่ายบอลสำเร็จ 352 ครั้ง (92%) อาร์เจนตินาต้องมีตัวประสานงานกับเมสซีที่ดี ดีบาลาถูกเมินจากการลงตัวจริงเพราะถูกมองว่ามีสไตล์และตำแหน่งคล้ายเมสซี แต่หลังจากผลเกมกับไอซ์แลนด์ ซามเปาลีควรพิจารณาการส่งดิบาลาและ โล เซลโซลงเล่นในแดนกลางเพื่มเพิ่มความสร้างสรรค์และความเร็วที่มากขึ้นจากชุดเดิม

สถิติจริง: ครั้งสุดท้ายที่เมสซีมีโอกาสมากแต่ทำประตูไม่ได้ (11 ครั้ง) คือเมื่อเดือนธันวาคม 2017 เกมบาร์เซโลนาพบกับเดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า

5. เกมรับที่ไม่แน่นอน: ซัลบิโอ โอตาเมนดี โรโฮ ทายาฟิโก

แบ็กโฟร์ของอาร์เจนตินาอย่างซัลบิโอ, โอตาเมนดี, โรโฮ, ทายาฟิโกไม่ได้มอบความมั่นใจซักเท่าไหร่ โอตาเมนดีที่มาจากสโมสรสีฟ้าจับคู่กับโรโฮที่มาจากฟากสีแดงดูขาดๆเกินๆเมื่อเจอกับผู้เล่นโลว์โปรไฟล์เช่น กุนนาร์สัน กุดมุนด์สัน ฟินโบกาสัน ทำเอาแฟนอาร์เจนตินาต้องเสียวสันหลังหากต้องไปเจอกับทีมใหญ่ๆในรอบต่อไป ด้านเกมรับ อาร์เจนตินาดูไร้ระเบียบหลายครั้ง ทั้งๆที่ต้องช่วยกันจัดการในแนวลึก ช่วงแถลงข่าวก่อนเกมส์ โค้ชของทีม ซามเปาลีกล่าวว่าจะเลือก โรโฮและโอตาเมนดีในแนวรับ และมาสเคราโนกับบียาในแผงกองกลาง เพราะว่าคุณภาพการจ่ายบอลของพวกเขา แต่โรโฮดูน่ากังขากับการออกบอลในแดนตัวเอง ความผิดพลาดของเขาเกือบมอบประตูให้ไอซ์แลนด์ เพียงแต่บานาสันพลาดโอกาสไป โรโฮและโอตาเมนดียังมีปัญหาหลายครั้งในการรับมือกับบอลยาวของไอซ์แลนด์ และผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือไอซ์แลนด์สามารถสร้างโอกาสได้หลายครั้ง