มหกรรมฟุตบอลโลก 2018 จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ซึ่งในทัวนาเมนต์รอบสุดท้ายบนดินแดนรัสเซียคราวนี้มี อิหร่าน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซาอุดิอาระเบีย และ ออสเตรเลีย เป็น 5 ชาติตัวแทนจากทวีปเอเชียร่วมชิงชัยในการแข่งขัน โดยแต่ละชาติต่างก็มีผู้เล่นแกนหลักที่มีดีกรีผ่านการค้าแข้งในยุโรป บ้างก็ติดทีมชาติมานานชนิดที่ทีมจะขาดไปไม่ได้ และนี่คือ 10 นักเตะชาวเอเชียน่าจับตาในบอลโลกหนนี้
เลื่อนลูกศรทางขวาเพื่ออ่าน
คาริม อันซาริฟาร์ด - อิหร่าน
ศูนย์หน้าวัย 28 กะรัต เพิ่งทำผลงานร้อนแรงจากสถิติยิง 17 ประตูให้โอลิมเปียกอสในเกมซูเปอร์ลีก กรีซ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และก้าวขึ้นมาเป็นรองดาวยิงสูงสุดประจำลีกได้ นับเป็นผลงานเด่นหนที่สองของเจ้าตัวหลังคว้ารางวัลประตูแห่งฤดูกาลลีกกรีซเมื่อซีซัน 2015-16 เมื่อครั้งที่อยู่เล่นกับพานิโอนิออส แน่นอนว่าจากสถิติและผลงานเด่นของคาริมกับทีมยักษ์ใหญ่แดนเทพนิยาย ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในแนวรุกน่าจับตาลุ้นพาอิหร่านประสบความสำเร็จในเวิลด์คัพอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับอันซาริฟาร์ดถูกเรียกติดทีมชาติอิหร่านมาตั้งแต่ปี 2009 ถึงตอนนี้เขามีชื่อลงสนามให้ทีมแล้วกว่า 60 แมตช์กับอีก 16 ประตู
อารอน มอย - ออสเตรเลีย
นับตั้งแต่ที่ฉายแววเด่นกับสโมสรเมลเบิร์น ซิตี้จนถูกทีมพันธมิตรอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าไปร่วมทีมก่อนจะปล่อยให้ฮัดเดิลสฟิลด์ยืมไปใช้งานในฤดูกาล 2016-17 ดาวเตะวัย 27 ปีเริ่มฉายแววเด่นในการค้าแข้งบนเกาะอังกฤษ จากผลงานพาเดอะ เทอร์เรียส์ ขึ้นชั้นสู่ลีกสูงสุดในปีถัดมา และยังคงยืนหยัดเป็นแกนหลักให้ทีมในเกมลีกหนแรกในชีวิตค้าแข้ง จากสถิติลงสนามมากถึง 38 เกม รวมทุกรายการ ยิงและแอสซิสต์รวมกัน 8 ครั้ง พาทีมอยู่รอดปลอดภัยจากลีกสูงสุด
ขณะที่ผลงานในนามทีมชาติ มอยมีส่วนสำคัญในการพาทีมจิงโจ้ทะลุสู่บอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซีย เห็นได้ชัดจากการที่เขาพลาดช่วยออสซีเตะเกมรอบคัดเลือกเพียง 4 แมตช์เท่านั้น ถึงตอนนี้มิดฟิลด์จอมขยันจากซิดนีย์มีสถิติช่วยชาติ 33 เกม ยิงได้ 5 ประตู แน่นอนว่าในแผงแดนกลางของซอคเกอร์รูส์ในหนนี้จะมีสตาร์จากพรีเมียร์ลีกรายนี้คุมทัพลุ้นทะลุรอบลึกๆแน่นอน
อุมัร ฮาวซาวี - ซาอุดิอาระเบีย
นี่ถือเป็นการลุยฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายหนแรกของกองหลังกัปตันทีมเหยี่ยวมรกตในวัย 34 ปี หลังจากที่เขาก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2007 ทำให้พลาดลงเล่นเวิลด์คัพ 2006 ที่เยอรมันเพียง 1 ปีเท่านั้น โดยในขณะนี้ปราการหลังเจ้าของส่วนสูง 187 เซนติเมตรมีสถิติติดทีมชาติมากเป็นอันดับ 5 ร่วมที่ 134 แมตช์ และมีส่วนสำคัญในการพาซาอุฯทะลุมายังรอบสุดท้ายที่รัสเซียจากการได้โอกาสลงเล่น 16 จาก 18 แมตช์ในรอบคัดเลือก
และการที่ซาอุดิอาระเบียถูกจับมาอยู่ในกลุ่มเอ ที่มีทีมแข็งทั้งรัสเซีย เจ้าภาพ, อุรุกวัย ที่มีสองกองหน้าชื่อดังอย่างหลุยส์ ซัวเรซและเอดิสัน คาวานี รวมถึงโมฮาเหม็ด ซาลาห์ของอียิปต์ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมรับของซาอุฯคงเลี่ยงการโดนเกมบุกกดดันใส่ไม่ได้ แต่ก็น่าจับตาว่ากัปตันฮาวซาวีจะกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม และงัดฟอร์มเด่นช่วยทีมได้มากน้อยแค่ไหน
อี ซึง วู - เกาหลีใต้
หลังจากที่ดาวเตะเจ้าของฉายาเมสซีเกาหลีพัฒนาฝีเท้าจนมีโอกาสโยกจากบาร์เซโลนา เบ มาค้าแข้งในลีกยักษ์ใหญ่ของยุโรปในกัลโช เซเรียอากับ เฮลลาส เวโรนา เจ้าตัวก็ค่อยๆพิสูจน์ให้เห็นในเรื่องของฝีเท้าและบทพิสูจน์เล็กๆของการก้าวมาเป็นนักเตะอาชีพในยุโรปในฐานะแข้งเอเชียวัยเพียง 20 กะรัต จากการเป็นผู้เล่นเกาหลีใต้คนล่าสุดที่มาเล่นในลีกอิตาลีในรอบ 10 กว่าปี แถมยังมีดีกรีส่วนตัวทั้งเจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชียเมื่อปี 2017 และมีประสบการณ์ติดทีมชาติเกาหลีใต้ชุดเล็กภายใต้การร่วมงานกับชิน แท ยอง โค้ชทีมชุดใหญ่ในปัจจุบันมาก่อน สิ่งนี้ดีพอกับการตอบโจทย์ให้เทรนเนอร์โสมขาวตัดสินใจดึง ซึง วู เข้ามาติดทีมชุดใหญ่ของแทกุ๊ก วอริเออร์สเป็นครั้งแรก แถมยังให้สวมเสื้อเบอร์ 10 ลุ้นลงโชว์ฝีเท้าบนดินแดนหมีขาวเสียด้วย
โยชิโนริ มุโตะ - ญี่ปุ่น
แม้บทบาทของดาวยิงไมนซ์กับการเล่นให้ทีมชาติญี่ปุ่นในเกมรอบคัดเลือกจะมีให้เห็นเพียงแค่ 8 แมตช์ แถมไม่ได้ลงเล่นครบ 90 นาทีเลย ทว่าจากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นร่วมกับทีมในบุนเดสลีกาเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา มุโตะได้รับบทบาทจับไปยืนเป็นกองหน้าอีกครั้ง และตอบแทนโอกาสลงสนามรวมทุกรายการ 30 นัด เขาทำไป 10 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ด้วยกัน และถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ในฐานะ 1 ใน 3 กองหน้าร่วมกับชินจิ โอคาซากิ แะล ยูยะ โอซาโกะ แน่นอนว่าจากผลงานเด่นในลีกเยอรมัน ทำให้อดีตนักเตะที่เชลซีเคยตกเป็นข่าวให้ความสนใจเป็นอีกตัวเลือกน่าสนใจในแดนหน้าของทีมซามูไรบลูชุดนี้
มุฮัมเหม็ด อัล-ชาห์ราวี - ซาอุดิอาระเบีย
กองหน้าเบอร์หนึ่งในนามทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ที่แม้ในรายชื่อ 23 คนลุยบอลโลกหนนี้ ซาอุฯจะหนีบแข้งกองหน้าติดทีมเพียง 2 ราย บ่งบอกได้ดีว่าทีมชุดนี้เลือกที่จะเล่นเกมรับให้แน่นหาโอกาสสวนกลับ ซึ่งจากประสบการณ์ที่อัล ชาลาวีติดทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2009 (ได้ลงเล่นปี 2010) ไปแล้วถึง 38 เกม ทำไป 28 ประตู แถมยังมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเกมรุกเหยี่ยวมรกตในรอบคัดเลือก ที่เคยรั้งถึงอันดับดาวซัลโวสมัยรอบแบ่งกลุ่มที่ 14 ประตู จากทีมแข่งขัน 40 ทีม สิ่งนี้ก็นับว่าเป็นที่เด็ดที่บรรดาทีมร่วมสายเอทั้งเจ้าภาพรัสเซีย อุรุกวัย และอียิปต์จะประมาทสัญชาตญาณดาวยิงวัย 31 ปีรายนี้ไปไม่ได้หากฮวน อันโตนิโอ ปิซซี เฮดโค้ชจะตัดสินใจใช้แท็คติกสวนกลับเร็ว โดยมีอัล ชาลาวีเป็นทีเด็ด
แมทธิว ไรอัน - ออสเตรเลีย
จอมหนึบดีกรีค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกกับไบร์ทตัน ก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชาติออสเตรเลียมาตั้งแต่ปี 2013 เรื่อยมา และยังมีคว้าแชมป์เอเชียน คัพ ร่วมกับทีมเมื่อปี 2015 มาแล้ว ซึ่งกับโอกาสในฟุตบอลโลกหนที่สองของตัวเอง ไรอันพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะน่าจับตาของเวิลด์คัพคราวนี้อย่างไม่ต้องสงสัย จากสถิติหรูระดับสโมสรร่วมกับนกนางนวลแดนใต้ในฐานะทีมน้องใหม่อยู่รอดปลอดภัยก่อนเกมช่วงโค้งสุดท้ายของซีซัน แถมยังมีสถิติเก็บคลีนชีทให้ทีมได้ถึง 10 นัด ส่งให้ไบร์ทตันเสียประตูน้อยที่สุดในบรรดาทีมค่อนล่างตารางตั้งแต่อันดับที่ 11 ลงไป (เสียเพียง 54 ประตู) แน่นอนว่าตลอด 3 เกมในรอบสุดท้าย ทีมอย่างฝรั่งเศส, เดนมาร์ก และเปรู ซึ่งเป็นชาติร่วมสายคงจะเจอกับความเหนียวหนึบของเจ้าตัวอยู่ไม่มากก็น้อย
อาลีรีฎอ ญาฮันบัคช์ - อิหร่าน
ส่วนหนึ่งของฟอร์มอันแข็งแกร่งของอิหร่านที่กลายเป็นชาติที่ 3 ที่ได้มาลุยฟุตบอลโลก 2018 ต้องยกให้ความโดดเด่นและความสามารถของดาวยิงอิมพอร์ตจากลีกดัตช์อย่าง ญาฮันบัคซ์ เพราะในเกมการแข่งขันรอบคัดเลือก เขาทำสถิติ 2 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ แถมผลงานร่วมกับสโมสรที่สังกัดเมื่อซีซัน 2017-18 ดาวยิงวัย 24 ปี ก็โดดเด่นจากผลงานปิดซีซันลีกฮอลแลนด์ด้วยการทำไป 21 ประตู กับอีก 12 แอสซิสต์ รั้งตำแหน่งดาวซัลโวประจำลีกไปครอง ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลดาวซัลโวของลีกสูงสุดแดนกังหันลม และยังทำสถิติเป็นนักเตะจากอาแซดรายที่ 3 ที่คว้าตำแหน่งดังกล่าวในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย
ถึงแม้ว่าคู่แข่งของอิหร่านในบอลโลกหนนี้จะมีทั้ง สเปน โปรตุเกส และโมร็อคโค ร่วมสาย ทว่าจากฟอร์มเด่นที่พุ่งขึ้นมาของอาลีรีฏอในช่วงหลังนี้ เหล่าบรรดาเกมรับของสามชาติก็จะประมาทเจ้าตัวไปไม่ได้เช่นกัน
ซน ฮึง มิน - เกาหลีใต้
หากจะเอ่ยชื่อซูเปอร์สตาร์ระดับแถวหน้าของเอเชียที่ออกไประสบความสำเร็จในการค้าแข้งที่ต่างแดน เชื่อว่าชื่อของดาวยิงท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์คงอยู่ในใจของแฟนบอลหลายคนเป็นอันดับต้นๆ เห็นได้ชัดจากฤดูกาล 2017-18 ที่เพิ่งจบไป ดาวยิงไก่เดือยทอง ได้โอกาสจากเมาริซิโอ โปเช็ตติโน ลงสนามเป็นหัวใจสำคัญสนับสนุนเกมรุกพาสเปอร์สจบอันดับ 3 ในตารางลีก พาทีมทะลุถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูฟาแชมปเปี้ยนส์ลีก
โดยรวมแล้วซนฝากผลงานในสนามรวมทุกรายการ 53 เกม ยิงไป 18 ประตูกับ 11 แอสซิสต์ และทำลายสถิติแข้งเอเชียทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีกของพาร์ค จี ซอง แข้งรุ่นพี่ร่วมชาติที่เคยทำไว้ 18 ประตู (ซนยิงรวม 30 ลูก) จากฟอร์มเด่นของศูนย์หน้าวัยเบญจเพสในฤดูกาลที่เพิ่งจบไป ส่งผลให้เขากลายเป็นดาวยิงตัวความหวังของทัพแทกุ๊ก วอริเออร์สลุ้นสร้างเซอไพรส์ในบอลโลกคราวนี้เช่นกัน
เคซุเกะ ฮอนดะ - ญี่ปุ่น
ทำท่าว่าจะไม่ติดทีมชาติชุดลุยฟุตบอลโลกอยู่แล้ว สำหรับฮอนดะ ภายหลังที่เขาห่างหายไปจากสารบบทีมชาติตั้งแต่เดือนตุลาคม 2017 กระทั่งกลับมาติดทีมอีกครั้งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็เพราะเจ้าตัวมีโอกาสเรียกความมั่นใจกับการค้าแข้งอาชีพอีกครั้งร่วมกับทีมปาชูก้า ในลีกเม็กซิโก ภายหลังที่ไม่มีโอกาสลงเล่นในทีมเอซี มิลาน จนต้องย้ายออกจากทีมไป โดยการกลับมาเรียกความมั่นใจหนนี้ ด้วยสถิติลงเล่นให้ทีมแดนจังโกรวมทุกรายการ 32 แมตช์ พร้อมทำ 10 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ ทำให้เขากลับมามีชื่อติดทีมอีกครั้ง ก่อนจะถูกเรียกเป็น 23 ขุนพลซามูไรบลูเตรียมลุยฟุตบอลโลก และน่าจับตามองว่าจากประสบการณ์ที่เจ้าตัวติดทีมชาติมาแล้วถึง 94 นัด กอปรกับการผ่านเวทีค้าแข้งมาโชกโชนจะช่วยให้ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จลุ้นผ่านเข้ารอบลึกๆได้หรือไม่