TRB FEATURE TRB TALK

TRIBE TALK : “โค้ชโย่ง รีเทิร์น” ตอนมหากาพย์เอเชียนเกมส์

ไทรบ์ : พูดถึงเอเชียนเกมส์ในเดือนสิงหาคมมีการวางแผนล่วงหน้าไปถึงไหนแล้ว

โค้ชโย่ง : ตอนนี้มีนักเตะอยู่ในใจพอสมควรแล้ว และก็อาจจะมีเรียกเสริมแต่อาจจะเรียกมาไม่หมดเพราะบางคนอาจจะเล่นในลีกธรรมดา แต่กับทีมชาติทำผลงานได้ดี

ทีมชาติตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เราจะมีแมตช์ลองฝีเท้าได้เดือนละครั้ง แต่เดียวนี้มีน้อย ซึงคนจะมาเล่นทีมชาติต้องมีความกระหาย นิ่ง และสามารถลงไปตอบโจทย์ทันทีเมื่อเลือกใช้งานในสนาม

สังเกตง่ายๆ ทีมทั่วโลกจะมีนักเตะหลักอยู่หนึ่งกลุ่ม และก็เป็นตัวเสริมอีกกลุ่ม จะไม่ได้เรีกใหม่มาหมด บางคนผลงานในสโมสรไม่ดี แต่ตอบโจทย์กับทีมชาติ ซึ่งมันมีแบบนี้จริงๆ

ไทรบ์ : แสดงว่าก่อนไปเอเชียนเกมส์อาจจะมีการปรับเปลี่ยนทีมในช่วงโค้งสุดท้าย

โค้ชโย่ง : ใช่ๆ เราคาดการณ์ไว้ว่านักเตะกลุ่มนี้จะอยู่ในชุดลุยเอเชียนเกมส์อยู่แล้ว แต่เราก็ต้องแพลนว่าจะให้นักเตะได้อุ่นเครื่องสักเกม จากการเตรียมตัวทีม 7 วันก่อนบินไปอินโดซึ่งตามกฎสามารถเอานักเตะที่มีอายุเกินไปได้ แต่นักเตะที่มีอายุเกินและดีที่สุดดันเล่นในเจลีก เขามีโอกาสดีกว่าแล้ว เราเลยตัดสินใจเอาพวกเด็กนี่แหละโชว์ผลงานผ่านเข้ารอบให้ลึกที่สุด แต่มันก็ขึ้นอยู่กับสลากบวกกับอศัยโชคอีกด้วย

ไทรบ์ : และมีนักเตะที่อยากจะดึงมาร่วมทีมแต่ยังไม่ได้เรียกมาติดบ้างไหม

โค้ชโย่ง : มพอมีหลายคน อย่างเช่น นิรันด์ มีมาก ของเทโร หรือแม้กระทั่ง มีโชค และ อรรถวิทย์ ที่เพิ่งย้ายสุพรรณบุรี เอฟซี มันมีหลายคนที่อยู่ในลิสต์ แต่ถ้าเราเรียกมาเยอะเกินและไม่ได้ใช้ มันก็ม่ได้ประโยชน์ทั้งกับเราและเด็กด้วย

ไทรบ์ : ครั้งก่อนไทยไปแข่งแล้วได้ที่สี่กลับมา กดดันผลงานจากครั้งก่อนมากแค่ไหน

โค้ชโย่ง : มีส่วน จากผลงานเอเชียนเกมส์ช่วงหลังเราทำได้ดีมาก เราก็อยากให้ชุดนี้เป็นเหมือนกัน อันดับแรกต้องรอดูว่าเดือนกรกฎาคมเราจะถูกจับไปอยู่กลุ่มไหน แต่ตอนนี้ที่พอใจชื้นคือ ผู้เล่นชุดนี้เป็นกำลังหนักของสโมสรแล้ว เราไม่ต้องห่วงความฟิต เราสามารถจับยัดแท็คติกและลงเล่นได้เลย เมื่อปีที่แล้วเราต้องทำความฟิตก่อน ทำให้เวลาน้อย ปีนี้ถือว่าช่วยได้เยอะ

ไทรบ์ : คิดว่าทีมไหนน่ากลัวสุด

โค้ชโย่ง : พอเราเข้ารอบลึกๆเอเชียนเกมส์ จะเหลือทีมที่เป็นตัวท็อปของแต่ละโซน มันก็ยากกันหมด

ไทรบ์ : นักเตะชุดนี้ถือว่าเป็นชุดที่โดนกระแสโชเชียลแรงพอสมควร  มีการพูดคุยกับเด็กอย่างไร

โค้ชโย่ง :  มันก็ต้องรับให้ได้ เพราะเรามายืนจุดนี้แล้ว ส่วนตัวไม่ใช่คนที่ตอบโต้ อีกอย่างเราต้องน้อมรับคำวิจารณ์  เพราะถ้าเราเล่นดีก็ไม่มีใครว่า และนำไปปฏิบัติ การโกรธแค้น เชื่อว่ายังไงก็ต้องมี แต่เราทำได้เพียงพัฒนาให้เขาเห็นว่าเรามีการปรับตัวนะ น่าจะดีกว่า

เราก็พยามสอนเด็กว่าเดี๋ยวนี้มันไม่ใช่แค่วงการฟุตบอลแล้ว มันเป็นทุกวงการ เราก็ต้องรับให้ได้ว่าสังคมเปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยนตามสังคม แต่ต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดี การที่ไม่ตอบโต้ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ไทรบ์ : รวมไปถึงกระแสโค้ชโย่งที่กลับมาทำทีมครั้งนี้ก็ยังโดนอยู่ไม่ใช่น้อย

โค้ชโย่ง : ก็เฉยๆนะ เพราะการที่เรามาทำทีมมีคนชอบก็ต้องมีคนเกลียด มันก็อยู่ที่ผลงาน แต่อย่างน้อยท่ามกลางกระแสวิจารณ์แต่ผลงานเราทำได้ดี มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ภาคภูมิใจ เหมือนพิสูจน์ตัวเอง

ไทรบ์ : สุดท้ายเป้าหมายในทัวร์นาเม้นท์เอเชียนเกมส์

โค้ชโย่ง : ในความเป็นโค้ช เราตั้งเป้าตั้งแต่เข้ามาทำแล้วว่า เราอยากได้เหรียญ เพราะเราก็ไม่เคยได้เหรียญรายการนี้เลยตั้งแต่เราเป็นนักเตะ คำว่าเหรียญมันไม่ได้ให้ความหมายถึงเงินทอง แต่มันคือเกียรติยศ เราอยากได้เกียรติยศตรงนี้มาให้แฟนบอล และเด็กๆจะได้มีกำลังในการเล่นต่อไป

ชุดเราอาจจะไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด แต่อาจจะตอบโจทย์หลายๆอย่างก็ได้ เพราะว่าดีที่สุดของทีมชาติ มันใช้ไม่ได้ เนื่องจากนักเตะที่ดีที่สุด พอถึงตอนนั้นอาจจะไม่ได้มาเล่น เราใช้ชุดที่พร้อมที่สุดลงแข่งขัน ลึกๆแล้วก็ของสักเหรียญ เหรียญอะไรก็ได้ครับ