ฟุตบอลไทย ไทยลีก

แบกรับแรงกดดัน! ธนบูรณ์เปิดใจย้ายทีมสองครั้ง 90 ล้าน

ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางคนใหม่ของ บีจีเอฟซี ทีมในศึกในโตโยต้า ไทยลีก เปิดใจถึงความกดดันที่เกิดขึ้นหลังย้ายทีมสองครั้งที่มีมูลค่าสูงราว 90 ล้านบาท

บลูแมชชีนคว้ากองกลางวัย 24 ปี มาร่วมทัพพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วด้วยมูลค่าราว 40 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวย้ายจากเอสซีจี เมืองทองฯ มาร่วมทีมเชียงรายด้วยค่าตัว 50 ล้านบาท

“ดีใจครับที่จะได้มาเป็นส่วนหนึ่งของทีม และได้สู้ไปพร้อมกับทีม” นักเตะค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์สโมสรคนใหม่เริ่มกล่าว

(ได้คุยกับฐิติพันธ์มาก่อนหรือไม่) “จริงๆเราก็คุยกันครับ แต่เรื่องนี้เราไม่ได้คุยกันสักเท่าไหร่ ก็จะคุยเรื่องอื่นมากกว่า”

“ก่อนอื่นผมต้องมั่นใจตัวเองก่อน ผมไม่ได้เล่นตลอด 7-8 เดือน มันต้องเรียกความฟิต ความมั่นใจให้กลับมาก่อน แต่สำหรับการเล่นกับนิว (ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์) ก็ไม่มีปัญหา เพราะเราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะเข้าใจแทคติกโค้ชและเพื่อนร่วมทีมมากแค่ไหน”

(การตัดสินใจมาร่วมทีมบีจี) “จริงๆแล้วไม่ใช่ผมที่ตัดสินใจ อย่างที่รู้กันผมเจ็บและไม่มีเกมเล่น มันเป็นดีลที่เกิดขึ้นเร็วมาก ทางผู้ใหญ่ทั้งสองทีมพูดคุยกัน ก็ต้องขอบคุณเชียงรายและบีจีที่ยังคิดว่าผมน่าจะกลับมาได้ ก่อนเจ็บกับหลังเจ็บมันไม่เหมือนกัน มีหลายอย่างเปลี่ยนไป มันทำให้ผมต้องกลับมาสู้และทำให้ดีกว่าเดิมให้ได้”

“ตอนอยู่เชียงรายก็ได้ซ้อมมา 3 สัปดาห์แล้วครับ แต่ยังไม่มีเกม 90 นาทีให้ได้เล่นเหมือนปะทะจริงๆ ให้ได้ลองว่าเราพร้อมแค่ไหนกับเกมจริงๆ”

(เหตุผลที่เลือกเบอร์ 5) “จริงเป็นเบอร์ที่ตอนเด็กเคยได้ใส่ แต่ทั้งนี้ผมใส่เบอร์อะไรก็ได้ ขอให้ได้ลงสนามก็พอแล้ว”

(คิดอย่างไรกับผลงานของบีจีตอนนี้) “มันยังมีอีกหลายเกมครับในเลกสอง ที่เราจะช่วยกันทำผลงานให้ดีขึ้น ผมหวังว่าทุกคนในทีมจะช่วยให้อันดับดีขึ้นกว่านี้”

(ความกดดันเรื่องค่าตัวที่สูงในแต่ละครั้งที่ย้ายทีม) “จริงๆมันไม่ได้อยู่ที่ตัวผมเลยที่ผมจะไปเรียกค่าตัวให้มันสูงขนาดนี้ เป็นทางผู้ใหญ่ที่เขาได้ตกลงกัน แล้วมันทำให้เราแบกรับความกดดันไว้มาก ด้วยคำครหาต่างๆทั้งแฟนบอลหรือคนอื่นๆ ตอนไม่เจ็บก็รู้สึกว่าเรากดดันมากพอแล้วสำหรับค่าตัวตอนแรก พอเจ็บมาอีกแล้วค่าตัวลดลงมาแต่ก็ยังสูงอยู่ เราก็กดดัน แต่ตรงนั้นมันเป็นความเห็นต่างของแฟนบอล แต่เราก็โฟกัสที่สนามเพราะผลงานคือการตอบแทน”

(โอกาสกลับไปติดทีมชาติ) “ตอนนี้ขอโฟกัสที่สโมสรก่อน ทีมชาติมีหลายคนในตำแหน่งกองกลาง และมีผู้เล่นหลายคนฟอร์มดี รวมถึงดาวรุ่งที่ขึ้นมาสลับหมุนเวียนกันได้ อนาคตผมก็ยังอยากติดเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ขอโฟกัสสโมสรก่อนครับ”