ฟุตบอลไทย ไทยลีก

ตรงไหนก็ได้ที่นายสั่ง: 8 แข้งสารพัดประโยชน์แห่งศึกโตโยต้าไทยลีก 2018

นักเตะแต่ละคนย่อมมีตำแหน่งที่ตัวเองถนัด แต่ถ้าถนัดมากกว่า 1 ตำแหน่งล่ะ ? แน่นอนทำให้ทีมได้เปรียบ เพราะโค้ชสามารถวางแท็คติกได้ยืดหยุ่นมากกว่าโดยที่สามารถโยกย้ายผู้เล่นไปอยู่ในตำแหน่งที่ขาดหายไปได้  หรือการแก้เกมในกรณีที่ไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้แล้ว หลายคนสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งจนแทบจะดูไม่ออกว่าตำแหน่งไหนคือตำแหน่งที่ถนัดที่สุดกันแน่ และนี่คือ 8 นักเตะสารพัดประโยชน์แห่งศึกโตโยต้าไทยลีก 2018

 

กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

ปัง ซึง ฮวาน (กองหน้า , เซนเตอร์ฮาล์ฟ) | ราชนาวี

ดาวเตะชาวเกาหลีใต้ ที่มีดีกรีเคยคว้าแชมป์ เคลีกมาแล้ว สมัยที่เป็นนักเตะของ เอฟซี โซล ถือว่าเป็นนักเตะที่มีความสารพัดประโยชน์อย่างเหลือเชื่อ เพราะสามารถเล่นได้ทั้งกองหน้า และกองหลัง แต่ดูเหมือนว่าตำแหน่งกองหน้าอาจจะไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาทำได้ดีนักเพราะนับตั้งแต่ประเดิมการเล่นอาชีพกับ อินชอน ยูไนเต็ด เมื่อปี 2004 เขาไม่เคยยิงประตูได้เกิน 5 ประตูเลย และหลายครั้งก็ถูกจับไปยืนเป็นกองหลังในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ โดยอดีตกองหน้าหมายเลข 9 เมืองทอง บางครั้งยังถูกจับไปเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับได้ด้วย ซึ่งการเล่นกับ ราชนาวี ในซีซั่นที่ 2เขาก็มักจะได้รับความไว้วางใจในความเก๋าให้ถอยลงมาเล่นตำแหน่งเซนเตอร์ เสียเป็นส่วนใหญ่

ประวีณวัช บุญยงค์ (เซนเตอร์ฮาล์ฟ, กองกลางตัวรับ) | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

อดีตนักเตะของ บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ไม่สามารถที่จะยึดตำแหน่งได้อย่างถาวร หลายคนมองว่าเขาหมดอนาคตแล้วตอนที่ถูกปล่อยให้ท่าเรือยืมตัวไปใช้งาน ก่อนถูกส่งกลับไปให้ บางกอกกล๊าส แต่เป็นทีมใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มองเห็นอะไรบางอย่างในตัวเขา และดึงตัวไปร่วมทัพพร้อมกับมอบตำแหน่งตัวจริงให้ และ ประวีณวัช สามารถคว้าไว้ได้ทันที โดยได้ลงเล่นทั้งในลีก และในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ไม่ใช่แค่ตำแหน่งเซนเตอร์เท่านั้น แต่ดาวเตะวัย 28 ปียังถูกโยกไปเล่นกองกลางตัวรับและยังทำได้ดีอีกด้วย จนทำให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบ  16 ทีมสุดท้าย ส่วนในลีกก็ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง ซึ่งส่วนเกินของลีโอ สเตเดี้ยม กลายมาเป็นแกนหลักสำคัญในถิ่น ช้างอารีน่า ได้อย่างเหลือเชื่อ

ทริสตอง โด (แบ็กขวา,วิงแบ็กขวา,หน้ากึ่งปีก) | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

ดาวเตะลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ที่แฟนบอลต่างคุ้นเคยกับตำแหน่งการเล่นของเขาคือ แบ็กขวา เพราะว่าเป็นตำแหน่งที่เล่นจนติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ตั้งแต่ยุคของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม้ว่าจะไม่ค่อยได้เล่นให้กับ มิโลวาน ราเยวัช เนื่องจากเจออาการบาดเจ็บรบกวนจนต้องถอนตัวหลายครั้ง แต่เขาก็มีส่วนอย่างยิ่งกับประตูในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ อิรัก หลังจากซัดไปแฉลบกองหลังทีมเยือน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวเซอร์เบีย ซึ่งก่อนที่เขาจะย้ายมาเล่นกับ บีอีซี เทโร ศาสน ในไทย เขาเล่นในฝรั่งเศส และถูกจับให้เล่นในหลากหลายตำแหน่งทั้ง แบ็กขวา, ปีก และกองหน้า และเมื่ออยู่กับเมืองทอง ยูไนเต็ด ก็รับผิดชอบเกมทางกราบขวาทั้ง แบ็กขวา และวิงแบ็กขวาบ้างตามแท็คติก จนกระทั่งในฤดูกาลนี้ ที่ทีมขาดแคลนตัวรุกทำให้ถูกจับไปยืนเป็นหน้ากึ่งปีก อยู่ข้างบน และอดีตกองหน้าเก่าก็ไม่ทำให้โค้ชผิดหวังเมื่อซัดไปแล้ว 5 ประตูในลีก เป็นรองแค่ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ดาวซัลโวประจำทีมเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

พุทธินันท์ วรรณศรี (แบ็กซ้าย,แบ็กขวา,เซนเตอร์ฮาล์ฟ) | แบงค็อก ยูไนเต็ด

อดีตเด็กปั้นของ ชลบุรี เอฟซี ที่ ไต่เต้ามาตั้งแต่สมัยเยาวชนกับ โรงเรียน อัสสัมชัญ ศรีราชา เป็นกัปตันทีมโดยมีเพื่อยร่วมรุ่นอย่าง นูรูล ศรียานเก็ม และ ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ คว้าแชมป์ 16 ปี ก., 18 ปี ก. และ แชมป์ฟุตบอล 7 สี รวมถึงรองแชมป์โค้กคัพ 2011 จนถูกดันขึ้นชุดใหญ่ ตั้งแต่ยังเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่ในตอนนี้ชลบุรี เอฟซี มีแบ็กขวาอย่าง รีย์ สุขะ และ นพนนท์ คชพลายุกต์ เป็นตัวสำรองทำให้ ถูกปล่อยให้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ใช้งาน และเจอร่วมงานกับ มาโน โพลกิ้ง เป็นครั้งแรก ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายไปร่วมงานกับ มาโน ที่สุพรรณบุรี และตามมาที่ แบงค็อก ยูไนเต็ด ซึ่งเขาสามารถเล่นได้ในหลายตำแหน่งตามที่กุนซือจอมลุยต้องการทั้งตำแหน่งเมื่อทีมปรับมายืนในระบบแบ็กโฟร์อีกครั้ง เขาได้โอาสเล่นในตำแหน่ง แบ็กทั้งสองข้าง และปราการหลังตัวกลางได้ด้วย ถือว่ารับผิดชอบได้ทุกหน้าที่ในเกมรับ

ศศลักษณ์ ไหประโคน (แบ็กซ้าย, แบ็กขวา,วิงแบ็กซ้าย,ขวา) | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

อดีตเด็กปั้นของแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ถูกบุรีรัมย์ ทีมบ้านเกิดดึงตัวกลับมาร่วมทีมเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยสัญญายืมตัว ก่อนที่จะเอาชนะใจบรอ์ดบริหารได้จนถูกเซ็นสัญญาถาวร  เป็นดาวเตะที่ถนัดเท้าซ้าย แต่สามารถเล่นทางด้านขวาได้เหมือนอย่างเช่นตัวรุกในสมัยใหม่ ที่จะไปเล่นตรงข้ามกับเท้าถนัด เพื่อการลากเลื้อดตัดเข้าใน เหมือนตอนอยู่กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมเก่า และตอนเล่นให้ ทีมชาติไทยชุดU23  แต่ในช่วงแรกที่ย้ายมาอยู่กับทีม เขาถูกปรับให้ยืนในตำแหน่งทางกราบซ้าย ทั้งวิงแบ็ก และแบ็กซ้าย ก่อนที่จะมาถึงฤดูกาลนี้เมื่อ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม มีอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาถูกโยกมาเป็นแบ็กขวา จำเป็น นับตั้งแต่เกมโตโยต้า ไทยลีก 2018 นัดที่ 10 ที่เปิดบ้านเอาชนะ การท่าเรือ เอฟซี 3-1 และยึดตำแหน่งหลังจากนั้นเรื่อยมา ทั้งในไทยลีก และในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงคือช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในการกระชากจากกราบขวาเข้าไปจ่ายให้ กรกช วิริยอุดมศิริ ยิงจ่อๆ จนบุกไปคว้าสามแต้มจาก เจจู ยูไนเต็ด มาได้

ฟิลิป โรลเลอร์(แบ็กขวา,แบ็กซ้าย)  | ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

แบ็กจอมลุยลูกครึ่งไทย-เยอรมัน  ที่มีชื่อติดทีมชาติไทยไปแล้ว เกิดที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมันเริ่มต้นเล่นกับ  เอสเอสวี อุล์ม 184 ก่อนที่ฝีเท้าจะไปเตะตา กราสฮ็อปเปอร์ ซูริก ทีมดังในสวิสเซอร์แลนด์ ที่ดึงตัวไปร่วมทัพ ตอนวัยแค่ 16 ปีเท่านั้น แต่ก็อยู่กับทีมได้ 2 ปี ก่อนย้ายกลับมาอยู่กับ สตุ๊ตการ์ต คิกเกอร์ส  ทีมในบุนเดสลีก้า 3 เยอรมัน ก่อนโยกมาอยู่กับ อิลเลอร์ทิสเซน ในระดับที่ต่ำลงมาอีก 1 ระดับ ก่อนต้องย้ายไปอีกหลายทีมและได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอกับ ฟูลเลนดอร์ฟ และผลงานดีจนถูก ออสเตรีย ลุสเตเนา ทีมในลีกรองออสเตรียดึงตัวไปร่วมทีม ก่อนที่จะเป็น ราชบุรี มิตรผล ที่ดึงตัวมาเล่นในไทยลีกเป็นครั้งแรกเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา และสามารถยึดตำแหน่งแบ็กขวาในทีมได้ทันที แต่ไม่ใช่แค่ฝั่งขวาที่เขาทำหน้าที่ได้ดี เพราะเมื่อทีมขาดแบ็กซ้ายอย่าง ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกุล ที่โชคร้ายบาดเจ็บไหปลาร้าหัก ทีมก็สามารถโยกเขามาเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายได้อย่างไร้ปัญหา โดยให้ ศิลา ศรีกำปัง มาเล่นแบ็กขวาแทน ในเกมกับเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เขาจัดการเผา ทริสตอง โด เข้าไปซัดประตูสุดสวยให้ทีมได้ด้วย

ฟลอรองต์ ซินาม่า ปงโกลล์  (กองหน้า,กองกลาง) | ชัยนาท ฮอร์บิล

อดีตกองหน้าดาวรุ่งพุ่งแรงทีมชาติฝรั่งเศส ที่เคยคว้าทั้งแชมป์และ ตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี กับทีมตราไก่ ทำให้กลายเป็นนักเตะที่ถูกหลายทีมในยุโรปหมายตา ที่จะดึงตัวไปร่วมทีม แล้วก็เป็นยอดทีมขวัญใจมหาชนอย่าง ลิเวอร์พูล ที่ได้ตัวดาวยิงรายนี้ไปร่วมทัพแบบสมใจ ซึ่งตอนที่อยู่กับหงส์แดง ถือว่าเป็นช่วงที่รุ่งสุดๆในการค้าแข้งของยอดดาวเตะรายนี้เพราะว่าคว้าทั้งแชมป์ เอฟเอคัพ และ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แม้ว่านัดชิงชนะเลิศกับ เอซีมิลาน เขาจะไม่ได้มีส่วนร่วม แต่หลายคนคงไม่ลิมประตูจุดประกายความหวังในเกมรอบแรกนัดสุดท้ายกับ โอลิมเปียกอส  จนทำให้ทีมผ่านรอบแบ่งกลุ่ม จนไปถึงแชมป์ในปั้นปลาย ซึ่งเขาอยู่กับ หลังจากนั้นเขาก็พเนจรไปค้าแข้งหลายสโมสร ทั้งเลอ อาฟร์ ทีมเก่า แบล็กเบิร์น โรเวอร์, แอตเลติโก้ มาดริด, สปอร์ตติ้ง ลิสบอน, เรอัล ซาราโกซา, ดันดี ยูไนเต็ด, รอฟตอฟ และชิคาโก้ ไฟร์ เป็นทีมสุดท้ายก่อนตัดสินใจย้ายทีมแบบสุดช็อกมาอยู่กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล ทีมในไทยลีก และในปีแรกเขากลายเป็นกองหน้าตัวความหวังของทีม และก็ไม่ทำให้ทีมผิดหวังเมื่อ ระเบิดฟอร์มซัดไป 13 ประตูจากการลงเล่น 10 เกมในเลกที่สองแต่ยังไม่ดีพอที่จะช่วยให้ทีมรอดตกชั้น ซึ่งเขาสร้างความประหลาดใจอีกครั้งเมื่อตัดสินใจอยู่กับทีม และช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นกลับมาเล่นในไทยลีกได้อีกครั้งหลังตกชั้นไปแค่ ฤดูกาลเดียว และการร่วมงานกับ เดนนิส อมาโต อีกครั้งในไทยลีกคราวนี้เขาเริ่มถูกจับมาเล่นในตำแหน่งกองกลาง ด้วยชั้นเชิงการเอาตัวรอด และวิศัยทัศน์การอ่านเกมและจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมเหนือกว่าแข้งไทยลีกทำให้เขาเอาตัวรอดได้สบายๆ และไม่แน่ว่าอาจจะยึดตำแหน่งนี้ไปยาวๆ

ยู จุน ซู (กองกลาง,เซนเตอร์ฮาล์ฟ,กองหน้า) | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ดาวเตะชาวเกาหลีใต้ เจอกับความกดดันจากความคาดหวังของสโมสร และทีมพอสมควร เพราะเขาย้ายจากอุลซาน ฮุนได  มาแทนที่โควตานักเตะในทวีปเอเชียของ โกซุล กิ กองกลางเพื่อนร่วมชาติที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดเวลาที่อยู่กับทีม ซึ่งช่วงแรกผลงานของ ยู จุน ซู ดูจะเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีมากนัก ในบทบาทกองกลาง แต่เป็น โบซิดาร์ บันโดวิช ที่เริ่มมองเห็นอะไรหลายๆอย่างในตัว และเริ่มจับเขาเปลี่ยนตำแหน่งลงไปเล่นตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟบ้าง หรือบางครั้งก็ถูกดันขึ้นมาเป็นกองกลางตัวรุก และตำแหน่งกองหน้าก็ยังมี แถมผลงานไม่ธรรมดา เพราะช่วยยิงประตูในช่วงท้ายเกมให้กับทีมมาแล้วสองนัด ในการเจอกับ ชลบุรี เอฟซี และ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้เขากลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอลปราสาทสายฟ้าไปแล้ว