TRIBE : วันที่เข้าไปซ้อมครั้งแรก บรรยากาศเป็นยังไงบ้าง?
KAWIN : เข้าก็ต้อนรับโอเค ก็ทักทายปกติทั่วไป ซึ่งเรายังไม่รู้จักเขามาก เขาก็เหมือนกัน แนะนำตัวปกติ
TRIBE : เพื่อนคนแรกในทีมเป็นใคร?
KAWIN : เพื่อนคนแรกจริงๆเลย โทนี วัตต์ เป็นนักเตะทีมชาติสกอตแลนด์ ที่พักเขาอยู่ไม่ไกลจากเราด้วย เขาเลยอาสามารับมาส่งเรา แต่พออยู่ไปเรื่อยๆก็เริ่มรู้จักกันมากขึ้น
TRIBE : เขามีแนะนำการใช้ชีวิตที่เบลเยี่ยมยังไงบ้าง?
KAWIN : เรื่องการใช้ชีวิตเขาก็ไม่ได้แนะนำอะไรมาก แต่เขาก็จะบอกว่ากฎในทีมมีอะไรบ้างมากกว่า พออยู่นานๆเข้า ก็เริ่มมีเพื่อนเยอะขึ้น ส่วนใหญ่ก็เป็นนักเตะต่างชาติมากกว่า แต่คนเบลเยี่ยมในทีมก็เป็นเพื่อนที่ดี
TRIBE : สภาพบ้านเมืองหลังจากที่ได้ไปอยู่และสัมผัสถือว่าโอเคไหม?
KAWIN : บ้านเมืองของเบลเยี่ยมโอเคเลย ค่อนข้างที่จะสวย มีหลายที่ที่สวยแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวเลย
TRIBE : กับคู่แข่งในทีมอย่างนิคล่ะ มีคุยแลกเปลี่ยนกันบ้างไหม?
KAWIN : กับนิคก็มีพูดคุย ทักทายปกติ แต่ว่าคุยส่วนตัวตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่
TRIBE : หลังจากไปร่วมทีมมาร่วมสองเดือน เห็นความแตกต่างระหว่างบอลไทยกับบอลยุโรปยังไงบ้าง?
KAWIN : แตกต่างในเรื่องของความจริงจัง ความเข้มข้นของการฝึกซ้อม เอาจริงๆ รูปแบบการฝึกซ้อมไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ว่าจะต่างกันในเรื่องสภาพร่างกาย ความมุ่งมั่นมากกว่า ฝรั่งแถบนั้นจะโดนปลูกฝังให้เอาชนะ ไม่มีการยอมกันในช่วงฝึกซ้อม ในไทยอาจจะมีระบบพี่น้อง ฝรั่งก็จะไม่มี ลงสนามทุกคนเต็มที่ ซึ่งมันทำให้ทุกอย่างดูจริงจัง และมีการแข่งขันในทีมอยู่ตลอดเวลา
TRIBE : คนเริ่มให้ความหวังเราที่จะลงสนามเยอะๆ รวมไปถึงอาจจะมีคำดูถูกว่าไปไม่รอด คิดยังไง?
KAWIN : มันเป็นความคิดแต่ละคนมากกว่า ผมก็ไม่อยากจะเอาความรู้สึกตรงนี้เก็บมาคิด ส่วนตัวก็คิดว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดมากกว่า เริ่มต้นจากการฝึกซ้อมให้เพื่อนยอมรับ เพราะตำแหน่งนี้ต้องได้รับความไว้วางใจ เพราะต้องเล่นให้สบายใจมากที่สุด
TRIBE : วันที่โค้ชมาบอกว่าเราจะได้ลงสนาม โค้ชมีการกำชับอะไรเราไหม?
KAWIN : เขาก็แจ้งล่วงหน้าวันนึง เขาก็บอกไม่ต้องไปกดดันอะไร ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
TRIBE : หลังจากลงสนามไปสัมผัสเกมแล้ว เราคิดว่าต้องมีอะไรปรับอีกบ้าง?
KAWIN : ผมว่าอยากจะให้ดีขึ้นในทุกๆอย่าง ไม่อยากบอกว่าอันไหนดีแล้ว เราต้องพัฒนาในทุกๆอย่าง
TRIBE : คิดบ้างไหม ว่าเราจะมีถึงวันนี้?
KAWIN : เอาจริงแต่ก่อนดูเหมือนห่างไกล ถามว่ายากไหม มันก็ยากที่นักเตะไทยจะมาค้าแข้งในยุโรป แต่เอาจริงๆแล้วด้วยทั้งรูปร่าง สมรรถภาพ อันดับฟุตบอล เขาไม่มองเราอยู่แล้ว ที่ผมได้ไปส่วนหนึ่งเจ้าของทีมเป็นคนไทยด้วย เขาให้โอกาสผม ที่เหลือเป็นหน้าที่เราแล้วว่าจะทำให้คุ้มค่ากับโอกาสที่ได้รับมาหรือเปล่า มันขึ้นอยู่กับเรา
TRIBE : ถ้าย้อนไปเมื่อก่อนมีนักเตะไทยอย่าง “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล และ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ก็เคยไปค้าแข้งยุโรป มีปรึกษาหรือขอแลกเปลี่ยนความรู้อะไรบ้าง?
KAWIN : กับโค้ชเฮงไม่มีโอกาสคุย กับพี่ซอก็มีคุยบ้างเพราะเขาไปที่เบลเยี่ยมมาก่อนเลยมาแชร์ประสบการณ์กัน