ฟุตบอลไทย ทีมชาติไทย

TRIBE BEST : 10 แข้งดังผ่านเวทีคิงส์คัพ

ก่อนที่ทีมชาติไทยจะลงทำการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ที่แฟนบอลไทยมีสิทธิ์จะยลฝีเท้าของสตาร์ดังหลายรายไม่ว่าจะเป็น เหงียน กวง ไฮ ดาวโรจทีมชาติเวียดนามชุดแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2018 หรือ คูโค มาร์ติน่า อดีตฟูลแบ็ค เอฟเวอร์ตัน และกัปตันทีมชาติทีมคูราเซา ที่จะลงทำการแข่งขันในระหว่างวันที่ 5 - 8 มิถุนายน นี้ ณ จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหล่านักเตะบิ๊กเนมที่เคยฝากผลงานกับถ้วยเกียรติยศรายการมาก่อน และนี่คือชื่อของเหล่าแข้งดังที่ครั้งหนึ่งเคยมาวาดลวดลายในคิงส์คัพ

กด Next เพื่ออ่าน

 

ไบรอัน เลาดรูป (เดนมาร์ก) – คิงส์คัพ ครั้งที่ 19 ปี 2531

เช่นเดียวกับไมเคิล ไบรอัน เลาดรูปก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกเรียกติดทัพปรีโอลิมปิกของเดนมาร์ก ชุดยกพลบุกแดนสยามเพื่อบู๊ศึกคิงส์คัพเมื่อปีพ.ศ. 2531 แม้ในตอนนั้น ไบรอัน จะยังไม่โด่งดังเท่าพี่ชาย แต่เขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงไป 1 ประตูในรอบแรก ก่อนจะช่วยทัพโคนมซิวแชมป์มานอนกอด

 

คาซุโยชิ มิอุระ (ญี่ปุ่น) คิงส์คัพ ครั้งที่ 28 ปี 2540

หนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของแดนอาทิตย์อุทัย ผู้เคยไปค้าแข้งในเซเรียอากับ เจนัว เคยนำทีมรวมดาราญี่ปุ่นที่มีนักเตะชื่อดังอย่าง โยชิคัตสึ คาวางุจิ และ ฮิโรชิ นานามิ มาดวลแข้งกับทีมชาติไทยมาแล้วในฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่ 28 น่าเสียดายที่แม้ “คิงคาซู” จะยิงไป 1 ประตูครั้งนั้น แต่ทีมกลับทำได้เพียงแค่อันดับ 3 ของทัวร์นาเมนต์เพียงเท่านั้น

 

โยฮัน เอลมานเดอร์ (สวีเดน) ครั้งที่ 34 ปี 2546

สมัยที่กลับไปค้าแข้งกับ เยอร์การ์เดนในบ้านเกิด เอลมานเดอร์ ถูกเรียกติดทีมดาราลีกสแกนดิเนเวียมาบู๊แข้งในฟุตบอลคิงส์คัพในปี 2546 โดยดาวยิง โบลตัน วันเดอเรอร์ส ในเวลาต่อมา ทำไปได้ถึง 3 ประตูในครั้งนั้น พร้อมช่วยให้ทีมผงาดคว้าแชมป์ด้วยการไล่ถล่มเกาหลีเหนือไปถึง 4-0 ในนัดชิงชนะเลิศ

 

ไมเคิล เลาดรูป (เดนมาร์ก) – คิงส์คัพ ครั้งที่ 19 ปี 2531

ไมเคิลผู้พี่ ถือเป็นหนึ่งในนักที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วที่เดินทางมาโม่แข้งในศึกคิงส์คัพครั้งที่ 19 หลังเล่นให้กับ ยูเวนตุส ทีมยักษ์ใหญ่ของอิตาลีในตอนนั้น แม้ว่าดาวเตะของ บาร์เซโลนา และ เรอัล มาดริด (ในเวลาต่อมา) จะไม่สามารถจากรึกชื่อไว้บนสกอร์บอร์ดได้ แต่เลาดรูปก็ถือเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ในครั้งนั้นมาครองได้สำเร็จ

 

โรนัลดินโญ (บราซิล) คิงส์คัพ ครั้งที่ 30/31 ปี 2542/43

แข้งจอมพลิ้วถือเป็นนักเตะที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคิงส์คัพ หลังเคยมาโชว์ฝีเท้าในรายการนี้ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรก อดีตจอมทัพบาร์ซานำทัพทีมชาติบราซิล รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีมาลงเตะในปี 2542 ก่อนที่จะร่วมมาพร้อมกับทีมชาติชุดใหญ่ที่ขนผู้เล่นมาอย่างจัดเต็มในปีต่อมา และสามารถทำได้ 1 ประตูในเกมไล่ถล่มทีมชาติไทยไปอย่างขาดลอย 7-0

 

อันเดอร์ส สเวนส์สัน (สวีเดน) ครั้งที่ 42 ปี 2556

อดีตแข้งเซาแธมป์ตัน ได้มีโอกาสนำรุ่นน้องทีมรวมดาราลีกสวีเดนมาลงเตะฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 เมื่อปี 2556 แม้อายุอานามจะใกล้หลัก 40 แต่ สเวนสัน ก็แสดงให้เห็นถึงความเก๋าด้วยการเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของขุนพลไวกิ้งนำทีมทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ และช่วยทำ 1 ประตูในเกมอัดฟินแลนด์ 3-0 พาถ้วยคิงส์คัพกลับไปฝากแฟนบอลสวีดิชได้สำเร็จ

 

ริวัลโด (บราซิล) คิงส์คัพ ครั้งที่ 31 ปี 2543

อดีตเพลย์เมกเกอร์บาร์เซโลนามีโอกาสได้มาสัมผัสศึกคิงส์คัพเมื่อปี 2543 หลังขนทีมชาติชุดใหญ่มาดวลแข้งกับทีมชาติไทยโดยเฉพาะ โดยครั้งดังกล่าว ดาวเตะเจ้าของหมายเลข 10 ทัพแซมบ้ากดไป 2 ประตู พร้อมช่วยให้ทีมไล่อัดขุนพลช้างศึกไปถึง 7-0

 

ปีเตอร์ ชไมเคิล (เดนมาร์ก) – คิงส์คัพ ครั้งที่ 19 ปี 2531

อดีตผู้รักษาประตูระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยมีประสบการณ์มาโชว์ฝีไม้ลายมือการเซฟประตูในประเทศไทย หลังร่วมทีมชาติเดนมาร์กชุดปรีโอลิมปิกมาลงเล่นในฟุตบอลคิงส์คัพเมื่อปีพ.ศ 2531 ก่อนที่ท้ายที่สุด “ยักษ์เดนส์” จะสามารถพาทีมคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะ เอฟซี สวารอฟสกี จากออสเตรียในนัดชิงชนะเลิศ

 

โรแบร์โต คาร์ลอส คิงส์คัพ ครั้งที่ 31 ปี 2543

หนึ่งในแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในโลกที่เคยผ่านเวทีฟุตบอลโลกมากแล้ว 3 สมั้ย ถือเป็นอีกหนึ่งแข้งดังที่ร่วมทัพแซมบ้ามาลงเตะในศึกคิงส์คัพที่ประเทศไทยในปี 2543 โดยลงดวลแข้งกับทัพช้างศึกเพียงแค่เกมเดียว และเอาชนะไปได้ถึง 7-0 และอีก 2 ปีต่อมา คาร์ลอสและทีมชุดนี้จะสามารถผงาดขึ้นไปคว้าถ้วยเวิลด์คัพบนผืนแผ่นดินเอเชียได้สำเร็จ

 

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี (โปแลนด์) ครั้งที่ 40 ปี 2553

กองหน้ากัปตันทีมชาติโปแลนด์ชุดปัจจุบัน ก็เป็นแข้งดังอีกรายที่เคยมาโชว์ฝีเท้าในฟุตบอลรายการเก่าแก่ของแดนสยามเช่นกัน หลังร่วมทีมชาติโปแลนด์มาลงเตะในศึกคิงส์คัพครั้งที่ เมื่อปีพ.ศ.2553 โดยดาวยิงบาเยิร์น มิวนิค จัดการซัดไปได้ 2 ประตูในเกมถล่ม สิงคโปร์ 6-1 แต่น่าเสียดายที่ทีมของเขาทำได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์ในครั้งดังกล่าว