ธชตวัน ศรีปาน หัวหน้าผู้ฝึกสอน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยืนยันให้ความสำคัยกับเกมดวล ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา และเชื่อว่าจะเป็นแมตช์แห่งความทรงจำที่จะส่งให้ ธีรศิลป์ แดงดา ไปค้าแข้งในเจลีก
กิเลนผยองเตรียมลงลสนามอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายก่อนเปิดศึกโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2018 ด้วยการพบกับ ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ในศึก “J.LEAGUE ASIA CHALLENGE 2018 IN BANGKOK” วันพรุ่งนี้
โดยกุนซือหนุ่ม ได้ให้สัมภาษณ์ในในงานแถลงข่าวความพร้อมว่า “ความพร้อมของทีมหลังกลับมาจากฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เราก็ได้ทำการฝึกซ้อม 2-3 และก็ได้ปล่อยนักเตะบางรายไปแข่งขันฟุตบอลประเพณี ถึง 6 คนแต่ในวันนี้ทีมจะลงฝึกซ้อมก่อนเกมพรุ่งนี้ก็จะเช็คความพร้อมของนักเตะอีกครั้ง”
“ที่คนที่ซ้อมอยู่ก็มีความพร้อมในการเล่นพรุ่งนี้ ผมก็ให้ความสำคัญกับเกมพรุ่งนี้เหมือนกันเพราะเป็นเกมอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลและเป็นนัดสุดท้าย ฉะนั้นเราก็ต้องโฟกัสในระบบของทีมและตัวผู้เล่นหลัก”
“คิดว่าเกมพรุ่งนี้น่าจะเป็นเกมที่สำคัญและจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราทุกคนเพราะทีมเราต้องลงเล่นกับทีม มุ้ย (ธีรศิลป์) ที่เขาเป็นผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามแล้ว และเป็นเกมที่จะต้องส่งมุ้ยไปเล่นเจลีกแล้ว”
นอกจากนี้สื่อญี่ปุ่นได้ยิงคำถามเรื่องฝีมือและคุณภาพของ “มุ้ย” ว่าเข้ามีจุดเด่นตรงไหนลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร ซึ่งโค้ชแบนตอบว่า “คงไม่ต้องบรรยายเรื่องคุณภาพฝีมือลักษณะนิสัยของมุ้ย(ธีรศิลป์) เพราะเขาเป็นศูนย์หน้าอันดับ 1 ของเมืองไทย เป็นทั้งกัปตันทีมชาติ และ เมืองทอง เพราะมันอยู่ในตัวเขาหมดแล้ว”
“ผมคิดว่าการที่มุ้ย(ธีรศิลป์)ไปเล่นที่ญี่ปุ่น ฝีเท้าของเขาสามารถสู้กับนักเตะต่างชาติในลีกญี่ปุ่นเรื่องนี้คงไม่มีปัญหา แต่มันต้องใช้เวลาปรับตัว”
“ผมเคยบอกวัฒนธรรมการเล่นของทีมในญี่ปุ่นมันเป็นสิ่งที่แตกต่างกับไทย เรื่องระบบวิธีการเล่น ความแข็งแกร่ง เรื่องการเพรสซิ่ง เพราะทุกทีมเหมือนเกือบกันหมด มุ้ยเขาเหลือแค่การปรับในจุดนี้แค่นั้นเลย”
สำหรับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะลงแข่งขันฟุตบอลรายการ “J.LEAGUE ASIA CHALLENGE 2018 IN BANGKOK” พบ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลา 19.00 น. ที่สนาม เอสซีจี สเตเดียม
ทั้งนี้ กิเลนผยอง เคยพบกับ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา มาแล้วหนึ่งครั้งในรายการ โตโยต้า พรีเมียร์คัพ ในปี 2016 ก่อนพ่ายไป 1-3
