ฟุตบอลไทย ไทยลีก

TRIBE BEST XI : ทีมรวมดาราอาเซียนลีกไทย 2018

หลังจากที่หลายสโมสรในศึกโตโยต้า ไทยลีก ค่อยๆทยอยเปิดตัวนักเตะสัญชาติอาเซียนสู้ศึกฤดูกาล 2018 นั่นหมายความว่าในฤดูกาลที่กำลังจะถึงนี้ โควตาอาเซียนจะถูกใช้ในเกมการแข่งขันลีกอาชีพเมืองไทยทุกระดับชั้นอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ฤดูกาลก่อน ศึกเอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ, ยูโรเค้ก ลีก โปร หรือ ยูโรเค้ก ลีก ที่นำร่องใช้กันไปแล้วเมื่อซีซันที่ผ่านมา

ภายใต้โอกาสการลงทะเบียนนักเตะสัญชาติอาเซียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโควตาของทุกลีกที่กำหนดไว้ 3+1+1 (ต่างชาติ 3 คน + เอเชีย 1 คน + อาเซียน 1 คน) และจำแนกโอกาสเหล่านักเตะจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลงสนามลีกสูงสุดที่ 3+1 (ต่างชาติ 3 + เอเชีย/อาเซียน 1) ส่วนลีกรองลงมาสามารถส่งลงสนามได้ครบรายนั้น มีนักเตะชื่อดังจากชาติเพื่อนบ้านที่ล้วนแต่มีดีกรีดังพาเหรดมาค้าแข้งบนลีกที่ต่างระดับกันไป และนี่คือรวมสตาร์ทีมอาเซียนลีกไทยฤดูกาล 2018 ในระบบการเล่น 4-3-3

กด Next เพื่ออ่าน

ผู้รักษาประตู - ฮัสซัน ซันนี (สิงคโปร์ - อาร์มี ยูไนเต็ด)

การคอนเฟิร์มย้ายกลับมาเฝ้าเสาให้พลพรรคสุภาพบุรุษวงจักรอีกครั้งในฤดูกาล 2018 ถือเป็นเรื่องที่น่าอุ่นใจไม่น้อยสำหรับแฟนบอลอาร์มี ยูไนเต็ด เพราะตลอด 2 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่นายด่านดีกรีทีมชาติสิงคโปร์ลงสนามให้ทีม เขาคือนักเตะต่างชาติที่ทีมวางใจให้เป็นนายทวารมือหนึ่ง อีกทั้งสมัยที่เล่นให้อาร์มี นายทวารวัย 33 ปียังเคยถูกสื่อชื่อดังระดับโลกอย่าง เดอะ เทเลกราฟ ยกให้ มือกาวรายนี้มีชื่อเป็น 1 ใน 20 นายทวารที่ดีที่สุดในโลกอันดับ 18 มาแล้ว

แบ็คขวา - เทเรนซ์ ปูหิริ (อินโดนีเซีย - การท่าเรือ)

ปีกความเร็วสูงเจ้าของคลิปการยิงประตูจากความสามารเฉพาะที่กลายเป็นไวรัลดังบนโซเชียลมีเดียประจำปี 2017 ตัดสินใจย้ายจาก บอร์เนียว เอฟซี มาสู่ถิ่นแพท สเตเดียมเพื่อเตรียมการสู้ศึกฤดูกาล 2018 แม้สิงห์เจ้าท่าจะเสริมผู้เล่นตำแหน่งเกมรุกรูปแบบเดียวกับเจ้าตัวที่มีความเร็ว ครองบอลกับตัวเหนียวแน่นทั้งนูรูล ศรียานเก็ม รวมถึงบดินทร์ ผาลา มาสู่ทีม ทว่าจากสถิติลงสนามให้บอเนียวซีซันที่แล้วมากถึง 50 เกม ทั้งยังมีชื่อใส่สกอร์ไป 9 ลูก ไม่เว้นแม้แต่จุดเด่นจากคลิปสปีดแซงคู่แข่งไปยิงประตู การันตีได้เป็นอย่างดีว่าเขาจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเกมริมเส้นการท่าเรือเพื่อไล่ล่าความสำเร็จต่อไป

กองหลัง - ทศนิลาศ สีบุนเฮือง (สปป.ลาว - สมุทรปราการ เอฟซี)

แนวรับเจ้าของชื่อเล่น “เส้าหลิน” มีดีกรีเป็นถึงกัปตันทีมชาติลาวชุดปัจจุบันถูกทัพป้อมปราการ ดึงตัวมาเสริมแกร่งในแนวรับกฎผู้เล่นต่างชาติอาเซียน ในยูโรเค้ก ลีกฤดูกาล 2018 และนับเป็นผู้เล่นสัญชาติลาวรายแรกของสโมสรอีกด้วย ซึ่งจากการผ่านประสบการณ์ติดทีมชาติชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2012 ถึงตอนนี้เขามีสถิติลงสนามช่วยทีมไปแล้วกว่า 22 เกม อีกทั้งในฤดูกาลที่ผ่านมา ทศนิลาศก็เพิ่งพาทิพยประกันภัย สะหวันนะเขต เอฟซี คว้าอันดับ 5 บนตารางคะแนนลีกลาวฤดูกาล 2017 โดยการมาของเส้าหลิน น่าจะทำให้แผงหลังของยอดทีมเมืองปากน้ำแข็งแกร่งขึ้นกว่าฤดูกาลก่อนได้ไม่ยาก และมีลุ้นพาทีมเลื่อนชั้นสู่ T3 ต่อไป

กองหลัง - เรียวจิ อูโตโมะ พราโบโว (อินโดนีเซีย - พีทีที ระยอง)

ปราการหลังลูกครึ่ง ญี่ปุ่น-อินโด คืออีกหนึ่งผู้เล่นสารพัดประโยชน์ที่สามารถเล่นได้ตั้งแต่กองหลังตัวกลาง ไปจนถึงมิดฟิลด์ตัวตัดเกม หลังจากที่พลังเพลิงเสียประตูในลีกมากถึง 50 ลูกจาก 32 เกม แน่นอนว่าดาวเตะเจ้าของส่วนสูง 183 เซนติเมตรจะเข้ามาเป็นหนึ่งในคีย์แมนคนใหม่ของทีมสำหรับการสู้ศึกฤดูกาล 2018 กับเป้าหมายลุ้นเลื่อนชั้น

นอกจากจะเล่นได้สารพัดตำแหน่ง ดีกรีก่อนโยกมาค้าแข้งในไทยก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะเรียวจิเคยเป็นหนึ่งนักเตะของสมาคมกีฬาฟุตบอลอินโดนีเซีย ที่ถูกส่งไปฝึกฟุตบอลที่ประเทศอุรุกวัย 3 ปี ก่อนติดทัพอิเหนาชุด U19, U23 และ ชุดใหญ่ในปัจจุบันมาแล้ว 1 นัด เมื่อปีที่แล้ว

แบ็คซ้าย - ฮิคารุ มิเนกิชิ (ฟิลิปปินส์ - พัทยา ยูไนเต็ด)

ก่อนจะตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมโลมามหาภัยในฐานะโควตาอาเซียน ฮิคารุเคยมีดีกรีเป้นถึงอดีตเด็กฝึกเยาวชนของอุราวะ เร้ดส์ จากนั้นเขาตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งอาชีพในบ้านเกิดคุณแม่ในปี 2015 กับ สโมสรดังแดนตากาล็อกอย่าง โกลบอล เอฟซี และใช้เวลาเพียง 2 ซีซันสำหรับการก้าวมาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีกประจำฤดูกาล 2016 ด้วยผลงานยิงไปถึง 17 ประตูจากการลงสนาม 17 นัด ทั้งยังมีชื่อพาทีมทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศนัดชี้ชะตาแชมป์ในฤดูกาลที่ผ่านมา และถูกเรียกตัวติดทีมชาติฟิลิปปินส์ชุดใหญ่ ในปี 2016 กับรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ รวมถึงยึดตำแหน่งตัวจริงต่อเนื่องในศึกเอเชียนคัพ 2019 รอบคัดเลือก

กองกลาง - ซุลฟะห์มี อารีฟีน (สิงคโปร์ - ชลบุรี เอฟซี)

หลังการทดสอบฝีเท้ากับฉลามชลมาระยะหนึ่ง ได้โอกาสลงสนามทดสอบฝีเท้ากับสโมสรในเกมพ่ายการท่าเรือ 2-3 กอปรกับประสบการณ์ในนามทีมชาติชุดใหญ่ซึ่งตัวเขาเองเคยดวลกับแข้งทีมชาติไทยทั้งในซีเกมส์ที่เมียนมาร์ และ ฟุตบอลซูซูกิ คัพ 2016 ฯลฯ ส่งผลให้อดีตแชมป์ไทยลีก 1 สมัยตัดสินใจดึง “ซูฟ” มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการในฐานะผู้เล่นอาเซียนที่จะคอยบัญชาเกมแดนกลางให้ทีม รวมถึงเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดในการเล่นลูกนิ่ง โดยเฉพาะการยิงฟรีคิกด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด

กองกลาง - อ่อง คยอ เนียง (เมียนมา - นรา ยูไนเต็ด)

ทีมจากปักษ์ใต้ของไทยตัดสินใจเสริมแกร่งโควตาอาเซียนเพื่อลุยศึก T3 ซีซัน 2018 ด้วยการดึง กองกลางทีมชาติเมียนมาชุด U23 รวมถึงชุดใหญ่มาเสริมแกร่งในแผงมิดฟิลด์ โดยอ่อง จอ เนียง เคยมีดีกรีซิวเหรียญเงินในซีเกมส์ 2015 และเคยเป็นเจ้าของรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมในเมียนมาเมื่อปี 2013 ก่อนจะมาเป็นสมาชิกใหม่ของนรา แข้งวัย 23 ปี ออกไปหาประสบการณ์ในต่างแดนมาแล้วในเอสลีก กับทีม บาเลสเตียร์ คัลซา ซึ่งอ่อง จอ ได้โอกาสลงสนามไป 20 นัด ทำได้ 3 ประตู

กองกลาง - มาร์ค ฮาร์ทมันน์ (ฟิลิปปินส์ - อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด)

ดาวยิงชาวฟิลิปปินส์ เริ่มเติบโตในเส้นทางอาชีพค้าแข้งที่ประเทศประเทศอังกฤษ และเคยผ่านการค้าแข้งในระดับเยาวชนกับสโมสร พอร์ธสมัธ และ สวินดอน ทาวน์ มาแล้ว ก่อนจะย้ายมาฟิลิปปินส์ครั้งแรกเมื่อปี 2011 กับสโมสร มะนิลา โนแมดส์ รวมถึง โลโยลา เมรัลโค สปาร์คส จนทำให้ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุด ยู-23 และทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2011 โดยก่อนจะกลายมาเป็นแนวรุกคนใหม่ของเทพอินทรี แข้งวัยเบญจเพสผ่านประสบการณ์ลงเตะให้เกย์ลัง ของสิงคโปร์ รวมทั้ง 2 ทีมแดนมาเลย์อย่าง ซาราวัค เอฟเอ และ ปีนัง เอฟเอ มาก่อน

กองหน้า - จอ โค โค (เมียนมา - เชียงราย ยูไนเต็ด)

ซูเปอร์สตาร์ชาวเมียนมาแจ้งเกิดบนเส้นทางลูกหนังกับ Zeyar Shwe Myay และโดดเด่นถึงขั้นเคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลูกหนังเมียนมาเมื่อปี 2011 ก่อนจะไปยิ่งใหญ่กับทีมดังประจำลีกอย่างย่างกุ้ง ยูไนเต็ด เมื่อปี 2013 จากผลงานการคว้าแชมป์ลีกกับทีม 2 สมัย ส่วนผลงานในนามทีมชาติก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะจอ มีสถิติติดทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วถึง 46 เกม และยิงให้ทีมไปแล้วถึง 13 ประตูด้วยกัน ก่อนจะถูกยักษ์ใหญ่รายใหม่แห่งโตโยต้า ไทยลีกอย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด ดึงมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวไล่ล่าความสำเร็จในซีซัน 2018

กองหน้า - ฮอง วู แซมสัน (เวียดนาม - บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

กองหน้าชาวไนจีเรียเริ่มต้นค้าแข้งบนแผ่นดินดาวทองกับสโมสรธัน กวง นินห์ ในปี 2007 – 2008 ลงสนามให้ทีม 22 นัด ซัดไป 22 ประตู ก่อนจะย้ายมาร่วมทัพกับ ด็อง ทับ ปี 2009 – 2011 ซัลโวตาข่ายไป 43 ตุง จาก 49 เกม ก่อนจะโยกหาประสบการณ์กับ 2 ทีมในยุโรปอย่าง แอตเลติโก มาดริด เบ ในประเทศสเปน และสปอร์ติง บราก้า ในโปรตุเกส ในสัญญายืมตัว

แต่ทันทีที่หมดสัญญา เขากลับมาค้าแข้งในวีลีกอีกครั้งกับ ฮานอย ทีแอนด์ที เอฟซี ในฤดูกาล 2011 – 2012 และได้รับสัญชาติเวียดนามในปี 2013 พร้อมตอบแทนต้นสังกัดด้วยผลงานร้อนแรง หลังลงสนามให้ทีมไป 122 เกม ซัดไป 90 ประตู จนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 2017 และเป็นปราสาทสายฟ้า ที่ไม่พลาดสำหรับการเจรจาคว้าศูนย์หน้าวัย 29 กะรัต มาร่วมทัพเพื่อเสริมความอันตรายในแนวรุกลุยฤดูกาลหน้า

กองหน้า - อ่อง ธู (เมียนมา - โปลิศ เทโร)

จากผลงานเด่นไล่มาตั้งแต่การพาทีมชาติเมียนมาผ่านเข้าไปลุยเวิลด์คัพ U20 เมื่อปี 2015 รวมถึงโอกาสการการันตีตัวจริงในนามทัพเทวดาขาวทั้งชุดใหญ่และชุดเล็กมาโดยตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา ทั้งการมีชื่อติดทีมลุยฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก รอบแบ่งกลุ่ม, ชุดลุยซีเกมส์ และอยู่ในชุดลุยซูซูกิ คัพ 2016 รวมทั้งการติดทีมลุยซีเกมส์ที่มาเลเซีย ส่งผลให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังของเมียนมาไปแล้ว

โดยในฤดูกาล 2018 นี้ แข้งวัย 21 ปีตัดสินใจย้ายหาประสบการณ์ค้าแข้งในต่างแดนหนแรกในไทยกับทีมโปลิศ เทโร ทั้งยังได้รับความวางใจสวมเสื้อเบอร์ 10 ลงสนาม