ระหว่างวันที่ 9-15 ธันวาคมนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ จะกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากผ่านพ้นบรรยากาศของการฉลองแชมป์ โตโยต้าไทยลีก เมื่อจะได้รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอล M-150 คัพ ที่ได้รวบรวมกับทีมชั้นนำในทวีปเอเชียทั้ง ญี่ปุ่น,เกาหลีเหนือ,อุซเบกิสถาน,เมียนมา,เวียดนาม และทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลงฟาดแข้งเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง หลายคนอาจจจะเคยไปเยือนจังหวัดบุรีรัมย์ มาแล้ว บางคนก็อาจจะไม่เคย ที่จังหวัดแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เปรียบเสมือนลมหายใจของทั้งจังหวัดเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ และนี่คือ 10 สถานที่ต้อง (ห้าม) พลาดหากคุณไปเยือน บุรีรัมย์
กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
หลายคนคงคุ้นตากับสัญลักษณ์ของทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีปราสาทตั้งเด่นเป็นสง่าได้ดี และนี่คือที่มาของสัญลักษณ์ดังกล่าวคือ ปราสาทหินพนมรุ้ง ที่ตั้งอยู่ที่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประมาณ 77 กิโลเมตร หรือประมาณ 1.30 ชั่วโมงด้วยการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
สำหรับ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เป็นโบสถ์พราหมณ์ลัทธิไสวะ มีการบูรณะก่อสร้างต่อเนื่องกันมาหลายสมัย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 องค์ประกอบและแผนผังของปราสาทพนมรุ้งได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็นแนวเส้นตรง และเน้นความสำคัญเข้าหาจุดศูนย์กลาง นั่นคือปราสาทประธานซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน และ กำลังอยู่ในเกณฑ์กำลังพิจารณาเป็นมรดกโลก
ปราสาทเมืองต่ำ
อีกหนึ่งปราสาทที่มีชื่อเสียงของจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นศาสนสถานที่สร้างตามความเชื่อของศาสนฮินดู ตั้งอยู่ที่อำเภอประโคนชัย และอยู่ห่างจากอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เพียงแค่ 8 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งชื่อเมืองต่ำนั้นถูกตั้งตามชาวพื้นเมือง ตามสถานที่ตั้งของปราสาทที่อยู่บนพื้นราบต่างจาก ปราสาทพนมรุ้งที่อยู่บนยอดเขา ซึ่งนอกจากตัวปราสาทแล้ว ยังมีทัศนียภาพรอบๆที่สวยงาม แสดงถึงสถาปัตยกรรมโบราณ ให้ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ และยังมีความงดงามให้ชื่นชมแม้ว่าจะถูกสร้างมากว่า 1 พันปีแล้วก็ตาม
วนอุทยานเขากระโดง
สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ อยู่ใกล้กับสนามเขากระโดงสเตเดี้ยม ซึ่งเป็นสนามเก่าของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และใกล้กับ แคมป์นักเตะทีมชุดใหญ่ ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงามและทันสมัย สำหรับ วนอุทยานเขากระโดง เป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วรอบ บริเวณปกคลุมด้วยป่าไม้ ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็ก โดยเฉพาะนกนานาชนิด เดิมชื่อเดิม คือ "พนมกระดอง" เป็นภาษาเขมร แปลว่า ภูเขากระดองเต่า เป็นภูเขาที่มีรูปลักษณ์คล้ายกระดองเต่า ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็นกระโดง
นอกจากธรรมชาติ ปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว แล้ว ด้านบนยังมี พระสุภัทรบพิตร เป็นพระพุทธรูปคู่เมือง ภายในเศียรบรรจุพระธาตุประดิษฐานอยู่ ซึ่งด้านบนสามารถมองเห็นวิวของเมืองบุรีรัมย์ได้
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่
เป็นป่าทีอุดมสมบูรณ์แห่งสุดท้ายของจังหวัดบุรีรัมย์ และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญ ได้แก่ ห้วยลำนางรอง ห้วยลำปลายมาศ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงใหญ่ ท้องที่ตำบลนางรอง ตำบลโนนดินแดง กิ่งอำเภอโนนดินแดง ตำบลโคกมะม่วง ตำบลหูทำนบ อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ มีเนื้อที่ 212,500 ไร่ หรือประมาณ 340 ตารางกิโลเมตร อุดมไปด้วย พันธุ์ไม้ และสัตว์ป่านานาชนิด ที่ถูกสำรวจพบกว่า 130 ชนิด นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมความสมบูรณ์ และยังสามารถกางเต๊นท์นอนเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติได้
อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก
พื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เป็นทะเลสาบน้ำจืด สร้างขึ้นเพื่อการชลประทานและการประปา มีพื้นที่ 3,876 ไร่ อยู่ใน ต.บ้านบัว ต.เสม็ด และ ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มีทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพตามฤดูกาลมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 170 ชนิด จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เหมาะสำหรับการดูนกและพักผ่อน มีบรรยากาศยามเช้า และเย็นที่สวยงามเหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ด้วยความที่อยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมืองมาก ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถูกใช้เป็นเส้นทางในการวิ่ง บุรีรัมย์ มาราธอน ที่สร้างความประทับใจให้กับนักวิ่งมาแล้ว
ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
หากว่าคุณไปเยือนสนามไอโมบายสเตเดี้ยม ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จะใช้เป็นสังเวียนจัดการแข่งขันฟุตบอล M-150 คัพ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะพลาดการไปชมสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท และเป็น สนามแข่งรถที่ได้มาตรฐานสมาพันธ์รถยนต์นานาชาติ ซึ่งอยู่ติดกับสนามไอโมบายสเตเดี้ยมทางทิศตะวันตก ได้รับการรับรองให้จัดการแข่งขัน โมโตจีพี ได้ ซึ่งสนามถูกออกแบบมาให้ผู้ชมสามารถ ชมการแข่งขันได้ทั่วทั้งสนามจากบริเวณของที่นั่งคนดู แม้ว่าคุณจะไปเยือนในวันที่ไม่มีการแข่งขัน แต่ว่าความสวยงามของสนามแข่งขันระดับโลกก็พอที่จะดึงดูดให้คนที่หลงใหลในความเร็วเข้าไปชมซักครั้ง
ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบุรีรัมย์ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่เคารพสักการะบูชาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของชาวบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง แต่เดิมเป็นเพียงศาลที่มีขนาดเล็กๆ แต่พอเริ่มชำรุดทรุดโทรม ทางกลุ่มข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวบุรีรัมย์ จึงเห็นควรให้สร้างศาลหลักเมืองขึ้นมาใหม่ ในปี พ.ศ. 2548 โดยให้ทางกรมศิลปากร ช่วยทำการออกแบบ ในรูปแบบศิลปะขอมโบราณที่เลียนแบบมาจากปราสาทหินพนมรุ้ง ซึ่งบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของเมืองได้เป็นอย่างดี
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านหนองบัวโคก
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่หมู่ ๖ บ้านหนองตลาดควาย ตำบลหนองบัวโคก อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อตั้งโดย นายทำนุ วรธงไชย หรือ อาจารย์ทำนุ โดยอาชีพหลักคือ อาจารย์สอนวิชาศิลปะในสาขาวิชาศิลปกรรม ของคณะมนุษยศาสตร์ฯมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกิดจากแรงบันดาลใจในความรักในวิถีชีวิตชุมชนอีสาน ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี จึงได้รวมรวมจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านขึ้น และยังเป็นแหล่งผลิตงานดินเผาหลากหลายรูปแบบ ภายในพิพิธภัณฑ์จะรวมรวมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆของชาวอีสาน ไม่ว่าจะเป็น เกวียน อุปกรณ์การทำนาสมัยโบราณ กระดูกสัตว์ ภาพวาดต่างๆ หม้อ ไห อุปกรณ์จักรสานประเภทต่างๆ แหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นวิถีชีวิต ภูมิปัญญาของชาวบ้านในอดีต ซึ่งเป็นเสมือนมรดกทางวัฒนธรรมให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
อนุสาวรีย์เราสู้
“เราสู้” เป็นชื่อที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ใช้ชื่อเพลงพระราชนิพนธ์ มาใช้ โดยมีพิธีเปิดอนุสาวรีย์ไปเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2523 และได้ถือเอาวันที่ 27 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันรำลึกถึงอนุสาวรีย์เราสู้ ซึ่งทางจังหวัดและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศล และวางพวงมาลา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้คนไทยรำลึกถึงวีรกรรมผู้กล้า เป็นประจำทุกปี
ตั้งอยู่ในอำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ อนุสาวรีย์เราสู้ อยู่ริมทางหลวงในเขต ต.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ชาวบุรีรัมย์ร่วมสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2522 เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของประชาชน ตำรวจ และทหาร ที่เสียชีวิตจากการต่อสู้กับผู้ก่อ การร้ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งขัดขวางการก่อสร้าง ถนนสายละหานทราย - ตาพระยา
สนามไอโมบาย สเตเดี้ยม
หากว่าคุณมาชมเกมการแข่งขัน M-150 คัพ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มาที่สนาม ไอโมบายสเตเดี้ยม สังเวียนการแข่งขัน โดยสนามแห่งนี้ก่อสร้างด้วยโครงเหล็ก ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาทและ ได้บันทึกลงกินเนสบุ๊คว่าเป็นสนามฟุตบอลในระดับฟีฟ่าแห่งเดียวในโลกที่ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดในโลกคือ 256 วัน โดยมีความจุ 32,600 ที่นั่ง
ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของจังหวัดแห่งใหม่ ไม่ใช่เฉพาะวันแข่งขันเท่านั้น เพราะบริเวณโดยรอบมี พื้นที่ใช้สอย เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ทั้งร้านค้าของสโมสร และ บุรีรัมย์ คาสเซิล ที่มีร้านอาหารมากมาย รวมไปถึงปราสาทหินพนมรุ้งจำลองซึ่งจำลองสัดส่วนเท่าปราสาทหินพนมรุ้งของจริง มีระบบแสงสีเสียงรอบตัวปราสาท คำนวณพระอาทิตย์ตกส่องผ่านประตู 15 ช่องไว้ และยังมีสวนไม้ดอกไม้ประดับ และสวนตะบองเพชร ขนาดใหญ่ ซึ่งมีพันธุ์ไม้ต่างๆ หลากหลายสายพันธุ์กว่า 200 ชนิด