ใครแชมป์-ใครตกชั้น : จับตาโค้งสุดท้ายเจ1ลีก 2017

1. หัวตารางล้วนเจอโปรแกรมที่หนักไม่ต่างกัน

หลังสิ้นสุดเสียงนกหวีดเกมการแข่งขันนัดที่ 29 หัวตารางเจ1ลีก เริ่มจะเห็นความชัดเจนว่าจ่าฝูงและรองจ่าฝูงเริ่มมีแต้มห่างจากทีมอันดับ 3 และบรรดาทีมลุ้นทำอันดับจบพื้นที่เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยทีมอันดับ 1 อย่างคาชิมา อันท์เลอร์ส ล่าสุดเก็บไปแล้วถึง 64 คะแนน ส่วนอันดับสองอย่างคาวาซากิ ฟรอนทาเล มี 59 คะแนน ในขณะที่ทีมอันดับ 3-6 ไล่เรียงลงมาอย่าง คาชิวา เรย์โซล มี 53 คะแนน ตามด้วยโยโกฮามา เอฟ มารินอส มี 52 คะแนน, เซเรโซ โอซากามี 51 คะแนน และจูบิโล อิวาตะ อันดับ 6 มี 50 คะแนน ตามลำดับ

โดยโปรแกรม 5 เกมท้ายของทั้งอันท์เลอร์ส และฟรอนทาเล ล้วนแต่เจองานหนักด้วยกันทั้งคู่ สำหรับทัพกวางเขาเหล็ก เกมที่เหลือต่อจากนี้จะได้เล่นในบ้านเพียง 2 นัดและถือเป็นงานที่หนักไม่น้อย เพราะจะต้องเจอกับอูราวะ เรดส์ ไดมอนส์ ที่เพิ่งผงาดเข้าชิงชนะเลิศในเอซีแอล 2017 รวมถึงการรับมือคาชิวา เรย์โซล ทีมอันดับสาม ส่วนที่เหลือทีมของ โก โออิวะ จะยกพลไปเยือนบรรดาทีมลุ้นพื้นที่อันดับสามอย่างโยโกฮามา เอฟ มารินอส และ จูบิโล อิวาตะ ส่วนอีกนัดคือการขึ้นเหนือไปเจอกับทีมลุ้นหนีตกชั้นอย่างคอนซาโดเล ซัปโปโร

ทางฝั่งฟรอนทาเล ก็เจอโปรแกรมโหดไม่ต่างกัน จากนี้พวกเขาจะได้เล่นในบ้าน 2 เกมเช่นกัน แบ่งเป็นการเจอกับ กัมบะ โอซากา และโอมิยะ อาร์ดิยา ส่วนโปรแกรมเยือนถือเป็นเกมที่หินสำหรับทีมจากจังหวะคานางาวะ เพราะจะต้องดวลกับทีมลุ้นหนีตายอย่างซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ที่ไม่แพ้ใครในบ้านมา 4 นัดติด รวมถึงการเจอกับทีมอันดับสามอย่างเรย์โซล และปะทะทีมจากไซตามะอย่างอูราวะ

2. โอกาสสูสีสำหรับพื้นที่ ACL

เนื่องจากพื้นที่อันดับ 3-6 ถือว่ามีแต้มไม่ห่างกันมาก ทำให้ทีมในอันดับเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรย์โซล, มารินอส, เซเรโซ รวมถึงจูบิโล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเก็บสามคะแนนในช่วงโค้งสุดท้ายให้มากที่สุด และลุ้นให้คู่แข่งพลาดมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ทัพเจ้าชายสุริยะ (อันดับ 3 มี 53 คะแนน) ถือเป็นทีมที่มีโปรแกรมหนักสุดในบรรดาทีมลุ้นพื้นที่ เพราะต่อจากนี้พวกเขาจะมีโปรแกรมเจอ 2 ทีมลุ้นหนีตาย ที่ล้วนแต่ต้องการมีคะแนนอย่างโอมิยะ อาร์ดิยา (อันดับ 17 มี 23 แต้ม) และซานเฟรชเช ฮิโรชิมา (อันดับ 16 มี 27 แต้ม) ส่วนอีก 3 เกมที่เหลือจะเจอกับฟรอนทาเล, อันท์เลอร์ส รวมถึงทีมลุ้นท็อปปทรีด้วยกันอย่าง จูบิโล

ขณะที่มารินอส (52 คะแนน) ภายใต้การทำทีมของเอริค มองต์แบร์ เฮดโค้ชชาวฝรั่งเศส ที่ผลงาน 5 นัดหลังสุดชนะเพียงนัดเดียว จะมีโปรแกรมเล่นในบ้าน 2 เกมกับจ่าฝูงอย่างอันท์เลอร์ส และรับมือเซเรโซ ทีมลุ้นพื้นที่ด้วยกันเอง ส่วนที่เหลือถือจะบุกเยือนจูบิโล อิวาตะ, เวลกัลตะ เซนได และอูราวะฯ

ส่วนทีมอันดับ 5 อย่างเซเรโซ (51 คะแนน) ถือว่าได้เปรียบกว่าใครเพื่อน นั่นเป็นเพราะทัพจิ้งจอกแห่งโอซาก้าจะมีโปรแกรมเป็นเจ้าถิ่นถึง 3 จาก 5 เกม แบ่งเป็นการรับมือ 2 ทีมท้ายตารางอย่างเวนท์ฟอเรต์ โคฟุ และโอมิยะ อาร์ดิยา รวมถึงการเจอกับวิสเซล โกเบ ที่ปีนี้ไม่ได้ลุ้นอะไรแล้ว ในขณะที่โปรแกรมนัดเยือน พวกเขาจะลงเตะกับโยโกฮามา เอฟ มารินอส และทีมบ๊วยอย่างอาบิเร็กซ์ นีงาตะ แน่นอนว่าหากทีมลุ้นพื้นที่ทีมใดเกิดเพลี่ยงพล้ำต่อคู่แข่ง ทีมดังจากภูมิภาคคันไซก็พร้อมขยับอันดับถึงท็อปทรีได้ทันที

ด้านจูบิโล อิวาตะ ซึ่งมี 50 แต้ม ดูเหมือนจะต้องลุ้นเหนื่อยอยู่ไม่น้อย เพราะดันมีแมตช์เจอกับทีมหัวตารางทั้งมารินอส (เหย้า), เรย์โซล (เยือน) และอันท์เลอร์ส (เยือน) ในขณะที่อีก 2 นัดที่เหลือเป็นการเจอกันกับนีงาตะ ที่ใกล้จะตกชั้นไปแน่นอนแล้ว รวมถึงการยกพลเยือนซางัน โทสุ ทีมกลางตารางที่ไม่มีลุ้นอะไร

3. 7 ทีมลุ้นหนีตกชั้น

ขยับมาที่โซนตกชั้น สถานการณ์ของอัลบิเร็กซ์ นีงาตะ ทีมอันดับสุดท้ายที่มีเพียง 15 คะแนนดูลำบากกว่าใครเพื่อน และ หากไม่มีแต้มในเกมนัด 30 ที่จะบุกไปเยือนจูบิโล อิวาตะ พวกเขาก็น่าจะเป็นทีมแรกที่ร่วงสู่เวทีเจทู

ด้านอันดับที่ 17 อย่างโอมิยะ อาร์ดิยา ลงเล่น 7 เกมหลังสุดไม่ชนะใคร มีโปรแกรมที่เหลือต่อจากนี้หนักพอสมควร เพราะพวกเขามีคิวดวล 3 ทีมหัวตารางอย่างคาชิวา เรย์โซล (เหย้า), เซเรโซ โอซากา (เยือน) และคาวาซากิ ฟรอนทาเล (เยือน) ส่วนอีก 2 นัดที่เหลือจะเจอกับ 2 ทีมลุ้นขยับโซนแดงด้วยกันอย่างเวลกัลตะ เซนได และเวนท์ฟอเรต์ โคฟุ

สำหรับสถานการณ์ลุ้นอยู่รอดปลอดภัยของซานเฟรชเช ฮิโรชิมา อดีตแชมป์เจลีกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ปัจจุบันรั้งอยู่ที่ 16 มีอยู่ 27 คะแนน จำเป็นต้องพยายามเก็บแต้มให้มากที่สุด แล้วไปลุ้นให้ทีมอันดับเหนือกว่าสะดุดขาตัวเอง โดย 5 แมตช์ที่เหลือจากนี้ ขุนพลหมีมหาภัยมีโปรแกรมเล่นในบ้านถึง 3 เกมด้วยกัน ประกอบด้วยการเจอฟรอนทาเล รวมถึง 2 ทีมกลางตารางอย่างเรดส์ และเอฟซี โตเกียว ส่วนอีก 2 แมตช์จะบุกไปเยือนโกเบกับเรย์โซล

ทางฝั่งทีมอันดับที่ 15 อย่างเวนท์โฟเรต์ โคฟุ ที่มี 28 คะแนน มีสิทธิ์โกยแต้มได้มากกว่าหลายทีมลุ้นตกชั้น เพราะ 5 นัดที่เหลือต่อจากนี้ พวกเขามีโปรแกรมหนักเพียง 1 เกม คือการเยือนเซเรโซ โอซากาในเกมที่จะถึงนี้ ในขณะที่อีก 4 แมตช์ สโมสรดังแห่งเมืองโคฟุจะเจอกับวิสเซล โกเบ ต่อด้วยการเจอกับทีมท้ายตารางด้วยกันอย่าง อัลบิเร็กซ์ นีงาตะ, โอมิยะ อาร์ดิยา ก่อนจะเล่นนัดสุดท้ายกับเวลกัลตะ เซนได

ขณะที่ชิมิสุ เอสพัลส์ ที่ 5 นัดหลังสุดเก็บได้เพียง 4 แต้ม ทำให้ต้องหล่นมาอยู่ที่ 14 จากการมี 29 แต้ม ก็อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเน้นทำผลงานของตัวเองให้ดีที่สุด โดยโปรแกรมที่เหลือจากนี้ ทีมจากชิสุโอกะมีโอกาสไม่น้อยกับการอยู่รอดปลอดภัยในเจ1ลีก เพราะพวกเขาล้วนแต่มีโปรแกรมดวลกับทีมกลางตารางไปจนท้ายตาราง ประกอบด้วยการเยือนเซนได ต่อด้วยการเยือนโตเกียว กลับมาเปิดบ้านดวลซัปโปโร ต่อด้วยการเจอทีมบ๊วยอย่างนีงาตะ และปิดฤดูกาลด้วยการบุกไปเยือนโกเบ

มาต่อกันที่คอนซาโดเล ซัปโปโร สโมสรที่มีแฟนบอลชาวไทยลุ้นผลงานตลอดช่วงเลกสอง หลังชนาธิป สรงกระสินธ์มีโอกาสมาค้าแข้งร่วมกับทีม ปัจจุบันพลพรรคนกเค้าแมวเมืองเหนือมี 31 คะแนนจาก 29 แมตช์ รั้งที่ 13 ของตาราง แต่สถานการณ์จากนี้ดูหนักพอสมควร เพราะพวกเขาจะมีโปรแกรมลงเล่นเป็นทีมเยือน 3 นัด แบ่งเป็นการเจอกับ เอฟซี โตเกียว, ชิมิสุ เอสพัลส์ และกัมบะ โอซากา ซึ่งจะหนักตรงที่พวกเขามีสถิติไม่เคยเก็บชัยชนะได้เลยนับแต่ลงเล่นปี 2017 นอกจากนี้ 1 ใน 2 เกมในบ้าน ทีมของชูเฮ โยโมดะ ยังต้องรับการมาเยือนของคาชิมา อันท์เลอร์ส จ่าฝูงของตาราง ส่วนอีกแมตช์จะเจอกับซางัน โทสุ ส่งท้ายฤดูกาล

ปิดท้ายที่เวลกัลตะ เซนได ที่หากคว้าอีกเพียง 4 แต้มภายใน 1-2 เกมจากนี้ ก็น่าจะการันตีอยู่รอดปลอดภัย โดยโปรแกรมที่เหลือพวกเขามีคิวได้ลงเล่นในบ้านถึง 3 นัดด้วยกัน แบ่งเป็นการเจอกับทีมลุ้นหนีตายด้วยกันอย่างชิมิสุ เอสพัลส์, โอมิยะ อาร์ดิยา และส่งท้ายเกมในบ้านกับโยโกฮามา เอฟ มารินอส ส่วนเกมเยือนจะเป็นการเจอกับกัมบะ โอซาก้า และเวนท์ฟอเรต์ โคฟุ