ครบ 1 สัปดาห์เต็มของการฝึกซ้อมกับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ของชนาธิป สรงกระสินธ์ ผมมีนัดกับรถไฟขบวนเดิม และสนามซ้อมแห่งเดิม การเดินทางทุกอย่างก็เหมือนๆเดิม มันยอดเยี่ยมตรงที่ทุกอย่างตรงเวลาและเป็นระบบไปหมดทำให้การวางแผนเดินทางนั้นแสนจะง่ายดาย
ที่ มิยาโนะซาวะ สเตเดียม บรรยากาศทุกอย่างยังเหมือนเดิม แตกต่างตรงที่วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนกว่าปกติ เพราะวันนี้แดดแผดแรงขึ้น ส่วนการซ้อมวันนี้นักเตะตัวหลักๆ ที่น่าจะต้องเตรีมตัวลงแข่งขันฟุตบอลถ้วย ลูวาน คัพ ในช่วงค่ำวันนี้กับ เซเรโซ โอซาก้า ไม่ได้มาฝึกซ้อมด้วย
ทำให้เหลือกลุ่มนักเตะที่ฝึกซ้อมค่อนข้างบางตา สวนทางกับแฟนบอลที่มาชมยังเยอะเหมือนเดิม ซึ่งนักข่าวชาวอิตาลี ที่ประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ที่ฮอกไกโดของ Football Tribe บอกว่า ปกติแล้ว ถ้าทีมชุดใหญ่ไม่ซ้อม จะไม่มีแฟนเยอะแบบนี้ เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะมาดู ชนาธิป หรือว่า เป็นว่าที่สมาชิกใหม่อย่าง เจย์ โบธรอยด์ นักเตะที่แฟนบอลชาวไทยคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีเพราะเคยค้าแข้งกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มาร่วมฝึกซ้อมด้วยเป็นวันแรก หลังจากที่เพิ่งเป็นข่าวกับทีมเมื่อวานนี้เท่านั้น
ซึ่งอาจจะเป็นเพราะ ชูเฮ โยโมดะ กุนซือของทีมเพิ่งจะเสีย จูลินโญ่ ตัวรุกคนสำคัญไปทำให้รีบตัดสินใจดึงตัว อดีตนักเตะจาก จูบิโล่ อิวาตะ มาเสริมทีมเป็นการด่วน แต่หลังจากกองหน้าดีกรีพรีเมียร์แยกทางกับ อิวาตะ ก็ไม่ได้ลงสนามกว่า 10 เดือน ทำให้ทีมต้องเช็กสภาพของเขาอย่างละเอียด แต่เท่าที่ดูการฝึกซ้อม ระหว่างที่หยุดไป “เจย์โบ” น่าจะฟิตซ้อมร่างกายของตัวเองอยู่ตลอด เพราะสามารถทำได้ดีในการซ้อมไม่เหมือนคนที่ห่างหายจากฟุตบอลไปร่วมปี ทำให้เขามีลุ้นที่จะได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ
ในส่วนของ ชนาธิป วันนี้ก็ยังฝึกซ้อมด้วยรอยยิ้ม และดูจะเข้าใจกับสิ่งที่สต๊าฟฟ์โค้ช บอกมากขึ้นทีเดียว ซึ่งหลังจบเกม ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับ เทรนเนอร์ของทีมอย่าง ชูเฮ โยโมดะ เขาก็บอกว่า ชนาธิป ปรับตัวได้รวดเร็ว เพราะเป็นคนที่มีบุคลิกสนุกสนาน และจะดีกว่านี้หากว่าเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นมากกว่านี้อีกนิดน่าจะไม่มีปัญsา ส่วนเรื่องเทคนิคและการเอาตัวรอดในสนาม เขาไม่ห่วงตรงนี้แม้แต่น้อย ซึ่งในฐานะคนไทยได้ยินแบบนี้ก็ใจชื้นละครับ
วันนี้ดาวเตะชาวไทยยังเป็นขวัญใจของแฟนๆเช่นเดิม เพราะว่ามีแฟนบอลเอาเสื้อแข่งขัน รวมไปถึงโพสเตอร์ และหนังสือมาขอลายเซ็นเช่นเคย รวมไปถึงเสื้อแข่งขันทีมชาติไทยเบอร์ 18 สกรีนชื่อของ ชนาธิป ด้วย
ช่วงค่ำวันนี้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และแน่นอนตัวผมจะเดินทางไปชมเกม ลูวานคัพ ที่สังเวียนแข้งซัปโปโรโดม หลังจากที่สัปดาห์ก่อน ในฟุตบอลถ้วยได้พักตัวหลักเอาไว้หลายคน ก่อนที่จะพลาดท่าแพ้ อิวากิ ทีมสมัครเล่นตกรอบไปแบบช็อค ส่วนในฟุตบอลเจลีก ก็พ่ายมาแล้ว 6 เกมติดต่อกัน ทำให้ช่วงนี้บรรยากาศในทีมไม่ค่อยน่าจะสู้ดีนัก
เมื่อได้เวลา ผมก็เดินทางไปยัง ซัปโปโร โดม สนามที่เคยผ่านการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกมาแล้ว และถือว่ามีความทันสมัยที่สุดอีกแห่งในทวีปเอเชีย เพราะสร้างอยู่ในโดม และสามารถเคลื่อนเอาสนามหญ้าที่มีน้ำหนักกว่า 8,500 ตัน เข้าออกในสนามเพื่อเปลี่ยนเป็นสนามเบสบอล ที่พวกเขาใช้สนามร่วมกับ ฮอกไกโด นิปปอนแฮม ไฟเตอส์ ทีมเบสบอลชื่อดังของญี่ปุ่น
หากตั้งต้นจากสถานีซัปโปโร ที่เป็นศูนย์กลางแล้ว สนามซัปโปโร ถือว่าไม่ไกล และสะดวกกับการเดินทางด้วยรถไฟ ด้วยการใช้สาย โตโฮ ไลน์ (Toho line) หรือสายสีน้ำเงิน และเลือกไปลงสถานีปลายทาง ฟูกุซุมิ (Fuguzumi) เมื่อไปถึงสถานี ผมก็เริ่มสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของความคึกคัก ตั้งแต่การประดับ สถานีด้วยป้ายของผู้เลนของทั้ง คอนซาโดเล ซัปโปโร และ อกไกโด นิปปอนแฮม ไฟเตอส์ ซึ่งวันข้างหน้าเราอาจจะได้เห็น ชนาธิป สรงกระสินธ์ มาขึ้นป้ายอยู่ตรงนี้ได้บ้างก็
หลังออกจากสถานีเดินเลี้ยวซ้ายมาอีกประมาณ 500 เมตร เราก็จะเห็นซัปโปโร โดม ตั้งตระหง่าน ยืนรอรับเราอยู่ข้างหน้า ด้วยสีเงินมันวาบวับ แม้ว่าจะเปิดใช้งานไปตั้งแต่ปี 2001 แล้วก็ตาม
วันนี้บรรยากาศของแฟนบอลไม่คึกคักมานัก อาจจะเป็นเพราะผลงานในระยะหลังของทีม และเป็นฟุตบอลถ้วยรวมไปถึงเป็นวันพุธกลางสัปดาห์ แต่ทีมก็มีแคมเปญในการเรียกผู้ชมด้วยการเจาะกลุ่มคนทำงาน ให้เอานามบัตร (นามบัตรสำหรับคนญี่ปุ่นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก การเจอกันของคนในระดับที่ทำงานแล้วครั้งแรกส่วนใหญ่นิยมแลกนามบัตรกันมากกว่าแลกเบอร์โทรหรือไลน์ และเมื่อได้นามบัตรมาแล้ว ก็ต้องอีเมล์ตามในนามบัตรเพื่อขอบคุณและทำความรู้จักกันต่อไป) ไปแลกรับสิทธิ์เพื่อซื้อตั๋วชมเกมในราคา 1,000 เยน จากราคาปกติถูกที่สุดจะอยู่ที่ 2,700 เยน และแพงสุดที่ 5,100 เยน หากว่ามาซื้อเอาวันแข่ง
โครงสร้างของสนามที่ข้างนอกดูว่าใหญ่โตแล้ว พอเข้าไปข้างในได้เห็นสนามแบบเต็มๆตาคำว่า “โอ่อ่า” ดูน่าจะเหมาะสมที่สุด ด้วยความสวยงามดูเป็นระเบียบ และขนาดใหญ่ โดยสามารถจุแฟนบอลได้ราว 41,000 คน แต่ในส่วนของบรรยากาศแฟนค่อนข้างจะเงียบเหงาเพราะว่ามีแฟนเข้ามาชมประมาณ 5,100 คนเท่านั้น
เกมนี้เป็นเกมแรกที่ ชนาธิป ได้เข้ามาให้กำลังใจเพื่อนที่แข่งขันที่ ซัปโปโรโดม หลังจากที่สัปดาห์ก่อน ทีมออกไปใช้งาน ซัปโปโร อซึเบทสุ ในเกมเอ็มเพอเรอร์ คัพ ที่พ่ายอิวากิ ส่วนเกมเจลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ออกไปเยือน คาชิวา เรย์โซล เกมนี้เลยถือว่าเป็นเกมแรกที่ได้ดูสังกัดใหม่เล่นในสนามแห่งนี้พร้อมๆกับตัวหลักๆอย่าง ซุง ยุน กุน นายทวารชาวเกาหลีใต้, เรียวจิ คาวาอิ เซนเตอร์จอมเก๋า หรือกองกลางตัวเก๋าอย่าง จุนอิจิ อินาโมโตะ ที่ยังบาดเจ็บอยู่ก็เข้ามาดูรวมไปถึง เจย์ โบธรอยด์ ที่เพิ่งมาซ้อมตอนเช้าก็เข้ามาชมเกมเช่นเดียวกัน
นัดนี้ ชูเฮ โยโมดะ ยังคงจัดตัวด้วยการพักตัวหลักๆเอาไว้ เพื่อที่จะเก็บไว้หนีตายในเจลีก กับเกมหน้าที่ต้องพบกับ ชิมิสุ เอส-พัลส์ โดยใส่แค่ เคน โทคุระ กองหน้าตัวเก่งเอาไว้บนม้านั่ง และให้ ชินจิ โอโนะ วัย 37 ปีเป็นตัวจริง ซึ่งเกมนี้เจ้าบ้านมาพลาดท่าเสียประตูแรกในช่วงท้ายครึ่งแรก และต้นครึ่งหลังทำให้พ่ายไปอีกด้วยสกอร์ 2-0 แม้ยังจะเหลือเกมที่ต้องออกไปเยือน เซเรโซ โอซาก้า อีกเกมซึ่งคงไม่ใช่งานง่ายที่พวกเขาจะพลิกสถานการณ์เข้ารอบและดูเหมือนว่างานในตอนนี้ช่วงเลกที่สอง งานหลักอย่างเดียวของพวกเขาคือการหนีตายเท่านั้น
หลังจบเกมผมไม่ลืมที่จะแวะไปยังช้อปของสโมสร ที่ตั้งอยู่ในสนาม ช้อปแห่งนี้มีทั้งสิ้นค้าของทั้งสองทีมให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเดินทางมาวันที่มี ฟุตบอลแข่ง หรือ เบสบอล แข่งก็สามารถซื้อสินค้าที่ระลึกได้ทั้งนั้น และผมก็ไม่ลืมที่จะอุดหนุนผลิตภัณฑ์ตรานกเค้า แต่ไม่ได้เอามาสะสมไว้เองหรือเอาไปฝากคนรู้จักที่ไหน หากแต่เอาไปฝากแฟนๆของ ฟุตบอลไทรบ์ พร้อมกับลายเซ็นของชนาธิป สรงกระสินธ์ เพียงแค่ติดตามการร่วมสนุก จากเรา สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนครับ