ฟุตบอลไทย ไทยลีก

อิชิอิ กำลังเปลี่ยน เขี้ยวสมุทร เป็นสโมสรที่ “ฉลาดช้อป” ที่สุดใน ไทยลีก?

แม้จะต้องเสียแข้งตัวหลักอย่าง พิชา อุทรา และ ภูมินทร์ แก้วตา ไปให้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แต่ดูเหมือนเมื่อดูตัวผู้เล่นที่เข้ามาทดแทนแล้ว อาจพูดได้ไหมว่าขุมกำลังของ มาซาทาดะ อิชิอิ ไม่ได้อ่อนลงแต่อย่างใด กลับกัน เราพูดได้ไหมว่า ทัพ ‘เขี้ยวสมุทร‘ อาจแข็งแกร่ง และมีความเป็นทีมที่ตอบโจทย์แทคติกของ ‘อิชิอิ-เซนเซ’ มากกว่าเดิมเสียอีก

ระหว่างฟุตบอลไทยลีกพักการแข่งขันเพื่อหยุดยั้งการระบาดของไวรัส โควิด-19 มีหลายสโมสรมีต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งๆ ที่ไม่มีรายรับ ส่งผลให้เกิดปัญหาสภาพคล่อง และเมื่อฝ่ายการแข่งขันเปิดให้มีการซื้อขายนักเตะได้ เราถึงได้เห็นบางสโมสรขายนักเตะตัวชูโรง เพื่อหมุนเงินมาพยุงทีม ยกตัวอย่างเช่น โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ปล่อยคู่แฟด ทิตาวีร์-ทิตาธร อักษรศรี ไปอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี ในราคา 30-40 ล้านบาท

ในส่วนของทีมใหญ่อย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด หรือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั้นไม่ต่างกัน ยังได้รับผลกระทบไปด้วย ถึงกับต้องปล่อยผู้เล่นซีเนียร์อย่าง อดิศร พรหมรักษ์, สารัช อยู่เย็น และ อันเดรส ตูเญซ ออกไปให้ การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตามลำดับ

ด้วยสถานการณ์ที่ยืดฤดูกาลฟุตบอลจาก 10 เดือนไปเป็น 16 เดือน เพิ่มต้นทุนการทำทีม จึงไม่แปลกใจที่ความได้เปรียบหลายอย่างตกไปอยู่กับสโมสรที่ร่ำรวยอย่าง การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด โดยเฉพาะการเสริมทัพ ซึ่งทั้ง 2 สโมสรสามารถฉวยโอกาสดูดคีย์แมนที่อื่น มาเติมเต็มทีมตัวอย่างได้ง่ายกว่าก่อนหน้านี้มาก

ทว่าปัญหาที่ตามมาสำหรับ การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คือพวกเขามีผู้เล่น (เกรดตัวจริง ไทยลีก 1) ล้นทีม จำต้องรีบระบายออกโดยด่วน มิเช่นนั้นอาจเสี่ยงพบปัญหาสภาพคล่องได้เช่นกัน

และนี่คือจุดที่ สมุทรปราการ ซิตี้ ของกุนซือ มาซาทาดะ อิชิอิ เข้ามาเป็นตัวแปลสำคัญ ในฐานะผู้เซ้งนักเตะเหล่านี้ต่อ

ตอนฤดูกาลเริ่มต้น สมุทรปราการ ซิตี้ มีเพียง เอร์เนสโต อมันเตกี และ กฤษณ์พรหม บุญสาร อดีตเขาวชนชุด 19 ปีทีมชาติไทยให้เลือกใช้เท่านั้นในตำแหน่งคือแบ็คซ้าย การยืมตัว จตุรพัช สัทธรรม มาจึงถือเป็นการอัพเกรดแบบเนื้อๆ เน้น

แบ็คซ้ายทีมชาติไทยชุด ยู23 เป็นตัวหลัก และโชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่นกับ ชัยนาท ฮอร์นบิล ตลอดฤดูกาล 2019 การย้ายไปรัง แพท สเตเดี้ยม อาจเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับตัวนักเตะ แต่ด้วยตัวเลือกแบ็คซ้ายเดิมของ การท่าเรือ ที่อัดแน่นอยู่แล้ว ดีลดังกล่าวจึงดูไม่น่าสมเหตุสมผลนักในสายตาของแฟนบอลหลายคน

การมาของ ทิตาธร อักษรศรี คือสัญญาเตือนให้ จตุรพัช ออกไปหาโอกาสเล่นที่อื่น ประจวบเหมาะพอดีกับความต้องการเสริมทัพของ อิชิอิ

ทางด้าน บาร์รอส ทาร์เดลี่ และ จักรกฤษ ลาภตระกูล 2 อดีตผู้เล่น ‘เดอะ แรบบิท’ ก็เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการเสริมทีมครั้งล่าสุดเช่นเดียวกัน เสี่ยงต้องแบ่งเวลาลงสนามให้ตัวเลือกอื่นๆ หรือต้องจำใจรับบทบาทในตำแหน่งที่ตนอาจไม่ถนัดนัก

ใน 4 เกมแรก จักรกฤษ ฉายแววได้โดนเด่นไม่น้อย จนมีเสียงเชียร์ให้ อากิระ นิชิโนะ ลองเรียกไปติดธงดูไหม? แต่ทว่า เมื่อสโมสรไม่สามารการันตีสถานะ ตัวหลักให้เขาได้ การเจรจาสัญญากับ จักรกฤษ จึงไม่คืบหน้า โดยมี โปลิศ เทโร เอฟซี เป็นตัวละครลับ โผล่มายื่นข้อเสนอให้ จักรกฤษ แต่ก็เป็น อิชิอิ ที่ใช้แผนทำทีม พร้อมการันตีโอกาสลงเล่น เป็นตัวกล่อมปีกลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศสมาร่วมทีมในโค้งสุดท้ายได้ในที่สุดท้าย

หากจะเปรียบเทียบ จักรกฤษ ในฐานะตัวแทนของ พิชา เราจำเป็นต้องมองไปไกลกว่าการคิดแบบ ขาวหรือดำ ใครเก่งกว่าใคร มองไปถึงสไตล์การเล่นที่ต่างกันของทั้งคู่

ที่ผ่านมา ดูเหมือน อิชิอิ พยายามให้ตัวริมเส้นทั้ง 2 ฝั่งเล่นเหมือนปีกล้วนๆ รับหน้าที่เลี้ยงผ่านคู่แข่งแล้วครอสบอลเมื่อสุดเส้นหลัง ตัวอย่างเช่น เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ หรือ จิรอัชต์ วิงวอน ดาวรุ่งวัย 19 ปีที่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง

อิชิอิ ส่ง เจริญศักดิ์ ลงสนามครบ 360 นาทีเต็ม ใน 4 เกม ไทยลีก 1 ที่ผ่านมา

กลับกัน พิชา ซึ่งมีจุดเด่นที่ทักษะการเชื่อมเกม สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อน ดูเหมือนจะไม่ตอบโจทย์แทคติกของทีมนัก ยืนยันได้จากสถิติลงเล่นครบ 90 นาที เพียง 1 นัด และออกสตาร์ทสำรองอีก 1 นัดที่ผ่านมา

ที่กล่าวมาไม่ได้จะบอกว่า พิชา ไม่ดี เพียงแต่ความจริงก็คือ ทีมฟุตบอลจะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องมีนักเตะที่ตอบโจทย์แทคติก และในขณะเดียวกัน ตัวนักเตะจะดึงศักยภาพของตนออกมาได้ ก็ต่อเมื่อได้เล่นในระบบที่ตอบโจทย์กับจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง

ในวันนี้ สมุทรปราการ ซิตี้ มีกุนซือดีกรีแชมป์ เจลีก อยู่กับทีม หากจะไม่ฟังเขาก็คงเสียของ เสียเวลาเปล่าๆ และหาก อิชิอิ ต้องการสร้างทีมด้วยปีกความเร็วสูง 2 ข้างอย่างที่เราคาดเดาจริงๆ จักรกฤษ คือตัวเลือกที่เหมาะกับทีมกว่า พิชา มาก

ด้านศูนย์หน้า เปโดร จูเนียร์ ดูไม่เป็นธรรมชาติในตำแหน่งหน้าเป้า ต่างจาก บารอส ทาเดลี่ ที่พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเชื่อใจเขาได้ด้วยผลงาน 39 ประตูตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาไทยลีก 2

เท่านั้นยังไม่พอ สมุทรปราการ ซิตี้ ยังตกเป็นข่าวลือกับ อิสวาน มะห์บุด ผู้รักษาประตูทีมชาติสิงคโปร์, หนองบัว พิชญ เอฟซี และ ตราด เอฟซี เข้ามาเป็นกำลังเสริม และช่วยเบียดตำแหน่งกับ ปฏิวัติ คำไหม ซึ่งแฟนบอล ‘เขี้ยวสมุทร’ คงจำได้ดีว่าทีมลำบากแค่ไหนตอนที่ ปฏิวัติ ได้รับบาดเจ็บเมื่อฤดูกาลก่อน และทีมไม่มีมือ 2 ที่เก๋าพอขึ้นมาทดแทน

ก่อนหน้านี้มันค่อนข้างยากที่จะจินตนาการ จักรกฤษ, ทาเดลี่ และ จตุรพัช ในสีเสื้อ สมุทรปราการ ซิตี้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ สมุทรปราการ ซิตี้ เป็นทีมที่ลงตัว พวกเขาสามารถเติมเต็มจุดอ่อนโดยไม่ต้องถังแตก ฉวยโอกาสจากการเสริมทีมที่เน้นบิ๊กเนมและดูไม่ค่อยมีทิศทางนักของ การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

แม้จะเสียแข้งตัวเก่งไป แต่ ณ ตอนนี้ โดยรวม สมุทรปราการ ซิตี้ ดูแข็งแกร่ง และสมดุลกว่าเดิมมาก ซึ่งทั้งหมดต้องยกเครดิตให้ อิชิอิ และฝ่ายบริหารของสโมสร