ฟุตบอลไทย ทีมชาติไทย

ตัวรุก “เขี้ยวสมุทร” ยกประสบการณ์ลงสนามทีมชาติชุดใหญ่คือ “นาทีที่มีค่า”

พิชา อุทรา ตัวรุกทีมชาติไทย และสโมสรสมุทรปราการ ซิตี้ เปรียบช่วงเวลาลงสนามในสีเสื้อทีมชาติชุดใหญ่เหมือนนาทีที่มีค่าของตน

พิชา ประเดิมเกมทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรกเรียบร้อยในเกมพ่าย ทีมชาติอุรุกวัย 4-0 หลังลงสนามเป็นตัวสำรองแทนทีศูนย์หน้า อดิศักดิ์ ไกรษร ในนาทีที่ 78 และเจ้าตัวก็เชื่อว่าโอกาสจะเป็นประตูสู่ทีมชาติชุดใหญ่อีกครั้งในอนาคต

“แค่มีชื่อติดเข้ามา ก็รู้สึกดีใจแล้วครับ ตอนแรกคิดแค่ว่า จะพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จากช่วงเวลานี้กลับไปให้ได้มากที่สุด ยิ่งพอได้โอกาสลงสนามนัดแรก ก็ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่ลึกๆ ก็รู้สึกดีใจมากกว่าครับ” พิชา กล่าวผ่าน fathailand

“ก่อนเกมเราคุยกันแล้วครับว่า ต้องเล่นยังไง ทำให้ตอนที่ลงไป เราเองก็รู้หน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งโค้ชโต่ย (ศิริศักดิ์ ยอดญาติ) และ โค้ชโชค (โชคทวี พรหมรัตน์) ก็บอกเพิ่มเติมแค่ว่า พยายามเล่นให้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวเสียบอล และพยายามรู้สึกสนุกกับมันให้มากที่สุด ต้องขอบคุณโอกาสจากโค้ชครับ”

“ผมอาจมีเวลาในสนาม ไม่เยอะก็จริง แต่ผมก็รู้สึกว่า มันเป็น 12 นาทีที่มีค่ากับผมมากๆ นอกจาก เป็นจุดเริ่มต้นของผมกับทีมชาติชุดใหญ่แล้ว ผมยังมีโอกาสเล่นร่วมกับรุ่นพี่เก่งๆ หลายคน รวมถึงยังมีโอกาสเจอกับผู้เล่นระดับโลกด้วย แน่นอนว่า นี่จะเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ผมจดจำที่สุด ที่สำคัญ ผมจะเก็บทุกอย่ง เป็นแรงผลักดัน เพื่อกลับไปพัฒนาตัวเองต่อไปครับ”

แข้งวัย 23 เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ชุดคว้าแชมป์เยาวชน 19 ปีแห่งประเทศไทย ซึ่ง พิชา ก็ไม่รับตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์อีกด้วย

ต่อมา พิชา ย้ายไปแจ้งเกิดบนเต็มตัวกับ พัทยา ยูไนเต็ด (สมุทรปราการ ซิตี้ ในปัจจุบัน) และเป็นกำลังสำคัญให้ทีมชาติไทยชุดเหรียญทอง ซีเกมส์ 2017 ของโค้ชโย่ง วรวุฒิ ศรีมะฆะ

“สุดท้าย ผมอยากขอบคุณแฟนบอล ทุกคนครับ ที่ให้กำลังใจทั้งผม และพี่ๆ ในทีมทุกคน นัดนี้เราอาจแพ้ แต่มันก็สอนอะไรเราหลายอย่าง เราทุกคนเต็มที่แล้วครับ และส่วนตัวผมเอง ก็หวังว่าจะมีโอกาสกลับมาสู่ทีมชุดใหญ่อีกครั้ง” พิชา ปิดท้าย

สำหรับ พิชา และแข้ง ‘ช้างศึก’ รวมถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกท่าน เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิแล้วเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ก่อนแยกย้ายไปรับใช้สโมสรต้นสังกัดของตนในสุดสัปดาห์นี้

ในส่วนของทีมชาติไทยนั้นจะมีโปรแกรมรวมตัวกันอีกครั้งในรายการชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ช่วงเดือน มิถุนายน นี้