ตัดเกรดนักเตะทีมชาติไทย หลังบุกทุบ ทีมชาติจีน ถึงถิ่น 1-0 จากประตูของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในนัดเปิดสนามฟุตบอลอุ่นเครื่องรายการ ไชน่า คัพ 2019 ส่งทัพ “ช้างศึก” เข้าไปรอชิงชนะเลิศกับผู้ชนะระหว่างทีมชาติอุรุกวัย หรือทีมชาติอุซเบกิสถาน
ผู้รักษาประตู – ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน: 7/10
มือหนึ่ง “ปราสาทสายฟ้า” ไม่มีจังหวะจำเป็นต้องโชว์ซุปเปอร์เซฟมากนัก แต่ลูกไหนที่เข้ากรอบ ศิวรักษ์ ก็จัดการได้หมด
เซ็นเตอร์แบ็ค – นัสตพล มาลาพันธ์: 7/10
นัสตพล ประเดิมเกมทีมชาติชุดใหญ่ได้อย่างสวยงาม ความแข็งแกร่ง และการเล่นลูกกลางอากาศที่แม่นยำของแนวรับวัย 25 ปี ช่วยทัพ “ช้างศึก” ป้องกันลูกบอมของเจ้าบ้านได้ในหลายจังหวะ
เซ็นเตอร์แบ็ค – สุพรรณ ทองสงค์: 7.5/10
สุพรรณ รับหน้าที่ยืนเป็นหัวใจแนวรับทีมชาติไทย คอยซ้อนเซ็นเตอร์แบ็คทั้ง 2 ข้างของเขา และแข้งวัย 24 ปีก็สามารถสานต่อฟอร์มที่ยอดเยี่ยมจากสโมสรสู่เวทีทีมชาติได้ในเกมนี้
เซ็นเตอร์แบ็ค – อดิศร พรหมรักษ์: 7/10
ในบรรดากองหลังทั้ง 3 คน อดิศร น่าจะเป็นคนที่เล่นเท้าซ้าย และขยับตามตัวประกบออกไปเล่นเกมรับบริเวณริมเส้นได้ดีที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่ “เจ้าเก่ง” ถูกวางให้เล่นทางฝั่งซ้าย แล้วก็โชว์ฟอร์มใช้ได้เลยทีเดียว
วิงแบ็คขวา – ทริสตอง โด: 7/10
ครึ่งแรก ทริสตอง ยังกะจังหวะเดิมเกมริมเส้นไม่ค่อยตรงกับเพื่อนนัก แต่ครึ่งหลังเขาก็ปรับความเข้าใจได้ทัน จนกลายเป็นตัวเลือกในจังหวะโต้กลับ หรือเปลี่ยนแกนเกมรุกได้ดี แถมยังมีโอกาสยิงเน้นๆ ให้แฟนบอลได้ลุ้นอีกด้วย
มิดฟิลด์ – ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์: 8/10
ฐิติพันธ์ วิ่งพล่านทั้งรุก และรับตลอดทั้งเกม เป็นผู้สอดขึ้นไปจ่ายตัดหลังมาแอสซิสต์ให้ประตูชัยของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และน่าจะบวกแอสซิสต์ได้อีกลูกในจังหวะใส่พานให้ อดิศักดิ์ เข้าฮอส
มิดฟิลด์ – ธนบูรณ์ เกษารัตน์: 7/10
ธนบูรณ์ กลับมารับจ๊อบปัดกวาดหน้าแผงหลังได้โอเคเช่นเคย มิดฟิลด์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อาจไม่มีคิลเลอร์พาสให้เห็นเหมือนเพื่อนๆ แดนกลางคนอื่น แต่เขาก็ช่วยดึงจังหวะช้าลงเพื่อความได้เปรียบของทีมได้ดี แถมท้ายเกมยังถอยลงไปยืนเซ็นเตอร์อีกด้วย
มิดฟิลด์ – สารัช อยู่เย็น: 7.5/10
ครึ่งแรก สารัช ค่อนข้างเงียบไปหน่อยเนื่องจากทีมชาติไทยเป็นฝ่ายเล่นเกมรับเสียส่วนใหญ่ ทว่าในครึ่งหลังที่เจ้าบ้านต้องเปิดเกมรุก จนเกิดที่ว่างแดนกลางมากขึ้น มิดฟิลด์จอมจ่ายจึงเริ่มแผลงฤทธิ์ได้ทีละนิดๆ ให้ได้จากการเชื่อมบอลสั้นกับเพื่อนรอบข้าง และจังหวะยิงไกลเฉียดเสาออกไป
วิงแบ็คซ้าย – ธีราทร บุญมาทัน: 7.5/10
ธีราทร อาจไม่ได้เดิมเกมริมเส้น ขึ้นลงบ้าบิ่นในรูปแบบวิงแบ็คปกติอย่าง ทริสตอง โด แต่ “กัปตันอุ้ม” ก็เชื่อมเกม และออกบอลเด็ดขาดให้เพื่อนได้หลายครั้งในบทบาทมิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกมฝั่งซ้าย
มิดฟิลด์ตัวรุก – ชนาธิป สรงกระสินธ์: 8.5/10
ทักษะการเล่นกับบอลในที่แคบ และสปีดต้นที่รวดเร็วของ ชนาธิป ทำเอาแนวรับทีมชาติจีนปวดหัวกันกระจาย โดยแข้งเจ้าของรางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยม FA Thailand Award 2018 สร้างโอกาสทองให้ทีมได้หลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะเป็นผู้ซัดประตูชัยได้สำเร็จ
ศูนย์หนัา – อดิศักดิ์ ไกรษร: 6.5/10
อดิศักดิ์ ทำได้เยี่ยมในจังหวะเก็บบอล (ประตูชัยที่ได้ ก็มาจากการเก็บบอลของเขา) เพียงแต่ดูเหมือนทีมจะไม่ใช้จุดแข็งจุดนี้ของเขามากเท่าที่ควรสักเท่าไหร่ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือจังหวะวืดจ่อๆ ในครึ่งแรก และลูกยิงที่ติดเซฟในครึ่งหลัง
ตัวสำรอง
วิงแบ็คขวา – นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม: 6.5/10
ลงมารับหน้าที่วิงแบ็คขวาได้โอเคในขณะที่ ทริสตอง โด ถูกขยับไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็คด้านใน นฤบดินทร์ รักษาสมาธิ และไม่เสียฟาวล์โดยใช่เหตุ
พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา: -/10
พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี: -/10
ศิวกรณ์ เตียตระกูล: -/10
ชนานันท์ ป้อมบุปผา: -/10
หัวหน้าผู้ฝึกสอน – ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย
โค้ชโต่ย เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ต่อทีมชาติจีนครั้งก่อน แล้วปรับแทคติกมาแก้มือรอบนี้ได้อย่างสุดแสบ จากที่ปกติทีมชาติไทยจะเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกก่อน แล้วโดนทีมชาติจีนโต้กลับด้วยบอลยาวแบบที่พวกเขาถนัด จนเสียท่าแพ้ไป
แต่วันนี้ โค้ชโต่ย ปรับมาเป็นฝ่ายเน้นรับแล้วโต้กลับบ้าง บีบให้ทีมชาติจีนครองบอลเล่นเกมรุกเต็มตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาดูจะไม่ถนัด
ไม่เพียงเท่านั้น แต่แฟนบอลไทยยังได้เห็นการกลับมาของการต่อบอลสั้นที่หายไปนาน รวมถึงการครองบอล ดึงจังหวะช้าเมื่อขึ้นนำ ปิดเกม อุดสกอร์อย่างเลือดเย็นแบบที่เราไม่ค่อยได้เห็นนักจากทัพ “ช้างศึก”
