โค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่หวังใช้โอกาสติดทีมชาติ เป็นเครื่องกระตุ้นให้เหล่านักเตะมีความกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเอง แย้ม ใครฟอร์มเข้าตาอาจมีชื่อลุยฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ และ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก
กุนซือวัย 49 ปีและทีมงานสต๊าฟโค้ชชุดใหญ่ได้ตามชมฟอร์มการเล่นของนักเตะไทยที่สนามแข่งขันต่างๆ อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นลีกสูงสุดอย่าง โตโยต้า ไทยลีก หรือ M-150 แชมเปี้ยนชิพ โดยล่าสุด โค้ชโต่ย และ สมาคมฟุตบอลฯ ได้เปิดโผ 30 นักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่เตรียมทำลุยรายการอุ่นเครื่อง China Cup 2019
“ผมได้ติดตามฟอร์มนักเตะทุกคนมาตลอดไม่ว่าจะเป็นระดับไทยลีก 1 หรือไทยลีก 2 ซึ่งนักเตะที่เรียกมาติดทีมชาติไทย ชุดเตรียมแข่งขันไชน่า คัพ เป็นนักเตะที่ทำผลงานดี ผมอยากเปิดโอกาสให้นักเตะเหล่านี้ได้พิสูจน์ตัวเอง ผมคิดว่าการทำเช่นนี้จะเป็นการกระตุ้นให้นักเตะคนอื่นๆ ได้พัฒนาฝีเท้าตัวเองขึ้นมาด้วย ซึ่งนักเตะที่ทำผลงานได้ดีในไทยลีกมีโอกาสติดทีมชาติไทยทุกคนครับ” โค้ชโต่ย กล่าวผ่าน fathailand
“นักเตะทุกคนที่เลือกมาติดทีมชาติไทย ผมยืนยันว่าไม่มีการใช้เส้นสายอย่างแน่นอน จากนี้ก็ต้องติดตามนักเตะว่าทุกคนจะรักษาฟอร์มการเล่นและมีความกระหายมากแค่ไหน ก่อนจะตัดตัวผู้เล่นให้เหลือ 23 คน สิ่งที่เป็นห่วงก็คือกลัวนักเตะบาดเจ็บเท่านั้นเอง”
“เป้าหมายครั้งนี้ก็คือการหาประสบการณ์ และให้นักเตะบางคนได้พิสูจน์ตัวเองในการเล่นทีมชาติไทย เพราะหลายคนทำผลงานได้ดีมาตลอด แต่ก็ไม่ถูกเรียกตัวติดทีมทีมชาติไทย หากพวกเขาทำผลงานได้ดีก็มีโอกาสมีชื่อติดทีมชาติไทยลงแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ และฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ในช่วงปลายปีครับ”
“ส่วน มุ้ย (ธีรศิลป์ แดงดา) ถ้าไม่บาดเจ็บ เขาจะได้ลงสนามเกมที่ 100 ให้ทีมชาติไทยแน่นอน เพราะเขาเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ และทำงานหนักมาโดยตลอด และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้องๆ ทีมชาติไทย และเยาวชนไทยในปัจจุบันครับ ขณะที่ ตอง (กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์) อยากให้เขาสมบูรณ์กว่านี้ก่อนครับ” กุนซือทีมชาติไทยทิ้งท้าย
หลังจากนี้นักเตะทั้ง 30 คนจะถูกวิเคราะห์ฟอร์มการเล่นจาก โค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่และทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ก่อนจะตัดตัวเหลือ 23 คน ในวันที่ 14 มีนาคม และเข้ารายงานตัวที่แคมป์ฝึกซ้อมในวันที่ 18 มีนาคม พร้อมเดินทางในวันที่ 19 มีนาคม 2562 ต่อไป
สำหรับทีมชาติไทยมีโปรแกรมพบกับเจ้าภาพทีมชาติจีนในวันที่ 21 มีนาคม เวลา 18.35 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยผู้ชนะจะเข้าไปชิงชนะเลิศกับ ทีมชาติอุรุกวัย หรือ ทีมชาติอุซเบกิสถาน ในวันที่ 25 มีนาคม ในขณะที่ผู้แพ้จะเข้าไปชิงที่ 3 ในวันเดียวกัน
