เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ทีมชาติไทย

พรีวิว เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 กลุ่ม บี นัด 3 – ไทย ปะทะ ฟิลิปปินส์

พรีวิวจุดอ่อน จุดแข็ง และ นักเตะที่น่าจับตามองในเกม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 กลุ่ม บี นัดที่ 3 ระหว่างจ่าฝูง ทีมชาติไทย ซึ่งมีอยู่ 6 คะแนนเต็มจาก 2 เกม พบกับเจ้าบ้าน ทีมชาติฟิลิปปินส์ ณ สนาม

ผู้เล่นที่น่าจะจับตามอง – เควิน อินเกรสโซส์ (ทีมชาติฟิลิปปินส์)

อดีตเด็กปั้น ฮัมบูร์ก เอสวี เหมาคนเดียว 2 แอสซิสต์ให้ “ดิ อัซกาลส์” ในชัยชนะเหลือ ติมอร์-เลสเต ลูกแรกเป็นฟรีคิกสั้นและลูกที่ 2 เป็นฟรีคิกโค้งเข้าหาประตูให้ เซ็นเตอร์แบ็ค คาร์ลี เดอ เมอก้า โขกเข้าไป

ลูกครอสที่แม่นยำและการเติมเกมรุกจากตำแหน่งแบ็คขวาของ อินเกรสโซส์ จะเป็นทีเด็ดที่เจ้าบ้านงัดมาดวลกับทีมชาติไทยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเกมที่ผ่านมาซึ่งเราเสีย 2 ประตูจากจังหวะตั้งเตะ

ผู้เล่นที่น่าจะจับตามอง – กรกช วิริยอุดมศิริ (ทีมชาติไทย)

ถึงตอนแบ็คซ้าย “ปราสาทสายฟ้า” ถือขึ้นมาทดแทน ธีราทร บุญมาทัน ได้อย่างยอดยเยี่ยมและมีส่วนร่วมกับประตูของทีมชาติไทยไปแล้วถึง 3 ลูกจาก 2 เกมที่ผ่านมา (2 แอสซิสต์ 1 ประตู) อย่างไรก็ตาม กรกช จำเป็นต้องปรับสมาธิมาเน้นเกมรับมากขึ้นในเกมกับ ฟิลิปปินส์ ที่ยืนยันได้เลยว่าพวกเขาจะมาบอมจากริมเส้นแน่นอน นี่คือโจทย์ที่หนักที่สุดเท่าที่ กรกช เคยเจอมาในระดับทีมชาติ แต่เขาก็เคยพิสูจน์ให้เห็นกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หลายต่อหลายครั้งแล้วว่ามีดีพอที่จะรับมือกับตัวรุกระดับทวีป

เควิน อินเกรสโซส์ แบ็คขวา “ดิ อัซกาลส์” credit: affsuzukicup.com

จุดแข็ง – ทีมชาติฟิลิปปินส์

หากวิเคราะห์ประตูทั้งหมดที่ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ทำได้ตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์จะสังเกตได้ว่า 3 จาก 4 ประตูที่พวกเขาทำได้ ล้วนมีที่มาจากลูกตั้งเตะหรือลูกทุ่มทั้งนั้น

เริ่มจากเกมกับ สิงคโปร์ ที่ แพทริค ไรเชลท์ หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษได้จากจังหวะทุ่มบอลโด่งทางฝั่งขวา หรือเกมกับ ติมอร์-เลสเต ที่ 2 จาก 3 ประตูเกิดจากแผนฟรีคิกที่เตรียมมาเล่น

จุดแข็ง – ทีมชาติไทย

นัดที่แล้วทีมชาติไทยเล่นดีขึ้นมากหลังโค้ช มิโลวาน ราเยวัช ปรับระบบการยืนมาเป็น 4-4-2 ไดม่อน (4-1-2-1-2) เอาชนะจำนวนผู้เล่นคู่แข่งในแกนกลางสนาม การเล่นด้วยมิดฟิลด์ตัวกลางถึง 4 คนช่วยให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มีอิสระเติมเกมรุกมากกว่าเดิมและเพิ่มประสิทธิภาพการไล่เพรสซิ่งของ ไทย อีกด้วย เห็นได้จากประตูที่ 3

ทัพ “ช้างศึก” มีตัวเลือกมิดฟิลด์ฟอร์มเด็ดมากมาย เพราะฉะนั้นจะไม่แปลกใจเลยหาก ราเยวัช จะปรับมาใช้ระบบ 4-4-2 ไดม่อน ซึ่งไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลย

ทีมชาติไทย มีตัวเลือกมากมายในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง credit:@changsuek

จุดอ่อน – ทีมชาติฟิลิปปินส์

สเวน โกรัน อิริคส์สัน เข้ามารับตำแหน่งกุนซือ ทีมชาติฟิลิปปินส์ เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อน ซูซูกิคัพ เขาจึงไม่มีเวลาปรับทีมตามไอเดียตัวเท่าไหร่ และถึงแม้จะนักเตะชุดนี้ส่วนใหญ่จะเล่นด้วยกันมาหลายปีแต่ก็เห็นได้ชัดจาก 2 แมตช์ที่ผ่านมาว่าความหลากหลายในการเข้าทำและสปีดเกมรุกของพวกเขายังไม่ลงตัวเสียเท่าไหร่

จุดอ่อน – ทีมชาติไทย

ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น คงมีไม่กี่คนที่มองว่าตำแหน่งผู้รักษาประตูจะเป็นปัญหาของทีมชาติไทย แต่การเสีย 2 ประตูและจังหวะตัดบอลที่ดูไม่เด็ดขาดเหมือนตอนเล่นให้สโมสรของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ก็น่าจะเป็นจุดที่คู่แข่งหวังจะลองเล่นงาน ไทย

ไม่ง่าย แต่น่าจะเบียดได้

ครั้งสุดท้ายที่บุกไปเยือน ฟิลิปปินส์ ทีมชาติไทย ต้องเจอกับงานหนักพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นใบแดงของ อดิศักดิ์ ไกรษร หรือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่โดนเตะตลอดทั้งเกม และในเกมนี้ก็คงไม่ต่างกัน เราจะได้เห็นเจ้าบ้านที่มาเน้นลูกหนัก เก็บบอลตกทุกลูก แต่สุดท้ายแล้วทีมชาติไทยของเราชุดนี้ก็น่าจะเก๋าเกมพอที่จะเอาตัวรอด เบียดชิง 3 แต้มมาได้ในที่สุด