ฟุตบอลไทย ทีมชาติไทย

ราเยวัช พูดถึงดาวรุ่งและการต่อยอดของไทยจาก ซูซูกิ คัพ สู่เป้าหมายสำคัญใน เอเชียน คัพ 2019

มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ พูดถึงการให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งหลายคนในเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดที่ผ่านมา รวมถึงเป้าหมายของทัพ “ช้างศึก” ในรายการ เอเชียน คัพ ต้นปีหน้า

ในแมตช์อุ่นเครื่องกับ ฮ่องกง และ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ทีมชาติไทยชุดใหญ่ทดลองเรียกนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีในลีกและดาวรุ่งมาสัมผัสเกมหลายราย ชัยชนะ 2 นัดถือเป็นผลงานที่ไม่เลวสำหรับทีมชาติไทย แถมเรายังได้เห็นฟอร์มแข้งเลือดใหม่อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ หรือ สุพรรณ ทองสงค์ อย่างเต็มๆ อีกด้วย

โดยในศึก ชิงแชมป์ อาเซียน ที่กำลังจะมาถึงนี้ทีมชาติไทยจะไม่มี 4 นักเตะหลักที่ค้าแข้งอยู่ต่างแดน ด้วยเหตุนี้โปรแกรมอุ่นเครื่องที่ผ่านมาจึงเปรียบเสมือนการ “ออดิชั่น” สำหรับพื้นที่ในชุดใหญ่ของผู้เล่นหลายคนที่มีโอกาสสอดแทรกขึ้นมาเติมเต็มความแข็งแกร่งในรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่จะมาถึงในเดือน พฤศจิกายน 

หลังจบโปรแกรมอุ่นเครื่องทางด้าน มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบียกล่าวถึงความพร้อมของนักเตะเลือดใหม่เหล่านี้ผ่านทางเพจ ช้างศึก ว่า “มีผู้เล่นดาวรุ่งไทยหลายคนที่พร้อมลงเล่นในเวทีใหญ่ และมีความท้าทายสูง เราต้องคิดไว้เสมอว่าดาวรุ่งส่วนใหญ่ ไม่สามารถรักษาฟอร์มได้อย่างต่อเนื่อง พวกเขามีขึ้นและก็มีลง นั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่เราต้องประเมินว่า พวกเขาจะทำอย่างไรหากเขาต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดัน และมีอาการเหนื่อยล้า”

นอกจากนี้หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ ยังอธิบายต่ออีกว่าเขาและทีมงานให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการฟื้นฟูสภาพร่างกายและการเพิ่มความมั่นใหญ่ของนักเตะ โดยกุนซือวัย 64 ปีเชื่อว่าการผสมผสานของดาวรุ่งและนักเตะมากประสบการณ์จะเกิดประโยชน์กับไทยเมื่อต้องลงเล่นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเขายังหวังว่าผลงานที่ดีใน ซูซูกิ คัพ จะช่วยสร้างบรรยากาศภายในทีมที่ดี ก่อนมุ่งหน้าเข้าสู่รายการ เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2019

“ในชิงแชมป์อาเซียนก็ถือเป็นรายการที่สำคัญ แต่เป้าหมายหลักของเราคือในเอเชียน คัพ นี่คือรายที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเตะกลุ่มนี้ พวกเขาสามารถสร้างความประทับใจ และได้พิสูจน์ตัวเองในเวทีใหญ่ กับทีมยักษ์ใหญ่ของเอเชีย”

“เป้าหมายของเราคือการได้เข้าไปในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นั่นคงจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีสำหรับไทย และหากเราผ่านไปถึงตรงนั้น เราก็จะพยายามไปให้ไกลขึ้นเรื่อยๆ เท่าที่เป็นไปได้ มันเป็นโอกาสที่เราจะสร้างประวัติศาสตร์เพื่อวงการฟุตบอลไทย” ราเยวัช ทิ้งท้าย

สำหรับทีมชาติไทยจะกลับมาร่วมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 23 ตุลาคม ก่อนจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ติมอร์-เลสเต ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน