แฟนบอลทุกคนต้องโบกมือลาเหล่าบิ๊กเนมหลังจากผ่านไปหนึ่งส่วนสามของฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ฟุตบอลไทรบ์จะพาผู้อ่านไปพบกับเหล่าสตาร์ที่ต้องกลับบ้านในรอบ 16 ทีมฟุตท้าย
กดคลิกลูกศรขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา
1.ผู้รักษาประตู: ดาบิด เด เคอา (สเปน)
เด เคอากับสเปนต้องจอดในรอบน็อคเอาท์ให้กับรัสเซีย ไม่ใช่แค่นั้น ฟอร์มของประตูปิศาจแดงน่าผิดหวังอีกด้วย เขาถูกยิงตรงกรอบ 6 ครั้งแต่เซฟได้เพียงครั้งเดียวใน 4 นัด ยิ่งในการดวลจุดโทษกับทีมเจ้าภาพ เด เคอาเซฟไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว
2.กองหลัง: ฆอร์ดี อัลบา (สเปน)
อัลบาลงเล่นเวทีทีมชาติกับสเปนในบอลโลก 2018 อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นบาร์เซโลนา กองหลังวัย 29 ยังดูขาดมิติในเกมรุก เขาไม่มีส่วนร่วมและมีอัตราการส่งบอลสำเร็จแค่ 13% เท่านั้น
3.กองหลัง: เยอโรม บัวเตง (เยอรมัน)
สิ่งที่บัวเตงและเพื่อนร่วมทีมเยอรมันทำในบอลโลกครั้งนี้ถือว่าไกลจากความคาดหวังพอสมควร เขายังโดยใบแดงในเกมกับสวีเดน และพลาดลงเล่นเกมที่พ่ายเกาหลีใต้ 2-0 ในนัดสุดท้าย
4.กองหลัง: แซร์คิโอ รามอส (สเปน)
รามอสไม่สามารถนำฟอร์มในสโมสรมาช่วยทีมกระทิงดุผงาดเหมือนแปดปีที่แล้วได้ ดราม่าของสมาคมฟุตบอลสเปนที่ปลดโลเปเตกีก่อนแข่งขันและการไม่เข้าขากันกับปิเก้ ทำให้กองหลังจอมโขกโชวฟอร์มไม่ออกที่รัสเซีย
5.กองหลัง: โจชัว คิมมิช (เยอรมัน)
คิมมิชถูกมองว่าจะเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบของฟิลิปป์ ลาห์มในบอลโลกหนนี้ แต่กองหลังของเสือมต้กลับเจอฝันร้ายที่รัสเซีย ไม่เพียงแค่ต้องเก็บกระเป๋าในรอบแบ่งกลุ่ม เขายังถูกวิจารณ์มากมาย คิมมิชเติมเกมรุกมากเกินไป และละเลยเกมรับจนถูกลงโทษในเกมกับเม็กซิโกและรัสเซีย
6.กองกลาง: โทนี โครส (เยอรมัน)
ด้วยชื่อเสียงในสโมสรและทีมชาติ โครสถูกมองว่าจะเป็นบอสในการพาทีมอินทรีเหล็กให้ผงาดต่อเนื่อง ความจริงแล้ว เขาเฉิดฉายจากฟรีคิกนาทีที่ 90+5 กับสวีเดน ซึ่งกู้ชีพเยอรมันจากวิกฤติ อย่างไรก็ตาม โครสมีส่วนทำให้เกาหลีใต้ได้ประตูและเปิดประตูทางออกให้ทีมแชมป์เก่ากลับบ้านตั้งแต่รอบแรก
7.กองกลาง: ฮาเมส โรดริเกวซ (โคลอมเบีย)
ฮาเมสไม่สามารถช่วยโคลอมเบียให้ไปได้ลึกกว่านี้ ดาวซัลโวเมื่อสี่ปีที่แล้วถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่เมื่อต้องนั่งดูทีมตัวเองตกรอบจากการยิงจุดโทษบนสแตนด์
8.กองกลาง: อันเดรส อิเนียสตา (สเปน)
อิเนียสปิดฉากทีมชาติครั้งสุดท้ายไม่สวยเท่าไหร่ ด้วยวัย 34 อดีตแข้งบาร์เซโลนาไม่สามารถลงเล่น 90 นาทีได้ แต่ก็ยังมีอิทธิพลกับเกมของสเปนในสนาม อย่างไรก็ตาม การยิงจุดโทษกับรัสเซียกลายเป็นตอนจบอันโหดร้ายของเขาในสีเสื้อทีมชาติ
9.กองหน้า: โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี (โปแลนด์)
จากดาวซัลโวฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 16 ประตู เวลานดอฟสกีมีฟอร์มที่เงียบกริบในสามเกม ฟอร์มอันน่าผิดหวังของหัวหอกความหวังของทีมทำให้โปแลนด์ต้องจอดป้ายด้วยอันดับสุดท้ายในกลุ่ม
10.กองหน้า: คริสเตียโน โรนัลโด (โปรตุกัล)
CR7 ประเดิมสนามด้วยฟอร์มน่าประทับใจกับการยิงแฮททริคใส่สเปน โรนัลโดยังคงเป็นฮีโร่เมื่อยิงประตูชัยใส่โมรอคโคในนัดที่สอง อย่างไรก็ตาม การพลาดจุดโทษกับอิหร่านทำให้โปรตุเกสตกอยู่ในความลำบาก ท้ายสุด ดาวยิงของราชันชุดขาวก็ช่วยทีมไม่ได้เลยในเกมกับอุรุกวัย
11.กองหน้า: ลิโอเนล เมสซี (อาร์เจนตินา)
ตรงข้ามกับโรนัลโด เมสซีต้องเจอกับความกดดันมหาศาลจากการพลาดจุดโทษกับไอซ์แลนด์ และความพ่ายแพ้ให้โครเอเชีย 3-0 อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาตัดสิน เมสซีก็รู้วิธีระเบิดฟอร์มใยการยิงประตูไนจีเรียและพาทัพฟ้าขาวเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย อย่างไรก็ตาม เขาและลูกทีมก็ดูมีสมาธิไม่พอเมื่อต้องเจอกับดาวรุ่งของทัพฝรั่งเศส