เอเชีย ฟุตบอลญี่ปุ่น

คู่แข่งธีรศิลป์: 10 เรื่องน่ารู้ เบซาร์ต เบริช่า หัวหอกคนใหม่ซานเฟรชเซ

หลังจากหยุดพักในช่วงฟุตบอลโลกศึกเจลีกจะกลับมาฟาดแข้งอีกครั้ง พร้อมๆกับช่วงที่ตลาดซื้อขายนักเตะรอบที่ 2 เปิดขึ้น ซึ่ง ซานเฟรชเซ ฮิโรชิมา จ่าฝูงต้นสังกัดของ ธีรศิลป์ แดงดา ได้ทำการเซ็นสัญญาคว้าตัว เบซาร์ต เบริซ่า ดาวยิงคนใหม่ที่มีดีกรี ไม่ธรรมดา เพราะผ่านประสบการณ์ค้าแข้งมาแล้วมากมาย และเคยได้รองวัลรองเท้าทองคำในเอลีก ออสเตรเลียมาแล้ว เข้ามาเสริมทัพเพื่อช่วยทีมล่าแชมป์และนี่คือ 10 เรื่องน่ารู้ของเขา

 

กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

1. ฉายแววโดดเด่นแต่เด็ก

เบซาร์ต เบริช่า เกิดที่ยูโกสลาเวีย เขามีเชื้อสายแอลเบเนีย แต่ย้ายมาอยู่ในเยอรมัน และเริ่มเล่นฟุตบอลกับ เทนนิส โบรุสเซีย เบอร์ลิน ที่เป็นลีกระดับล่าง แต่เขาก็ยังคว้ารางวัลรองเท้าทองคำในการแข่งขันลีกเยาวชนตอนอายุ 17 ปี ซึ่งในการแข่งขันครั้งนั้นมียอดกองหน้าชาวเยอรมัน อย่าง มาริโอ โกเมซ และ ลูคัส โพลดอสกี้ ลงแข่งด้วย

2. ถูกค้นพบโดยฮัมบูร์ก

หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในระดับเยาวชนทำให้ฝีเท้าของเขาไปเตะตา ฮัมบูรก์ ทีมในศึกบุนเดสลีก้าเยอรมัน ที่ไม่รอช้าดึงตัวไปร่วมทีมทันที แต่ในช่วแรกขายังไม่ได้ลงเล่น และถูกปล่อยให้ อัลบอร์ก บีเค ในลีกเดนมาร์ก ยืมตัวไปใช้งานแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก เพราะได้ลงเล่นแค่ 3 เกมเท่านั้น จากนั้นเขาก็ถูกปล่อยให้ เอซี ฮอร์เซ่นส์ ในลีกแดนโคนมยืมตัวไปใช้งาน คราวนี้ เขายิงได้ 11 ประตู จาก 32 เกมคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลนั้นไปครอง

3. ได้โอกาสลุย บุนเดสลีก้า

ในปี 2006 หลังจากถูกปล่อยให้ไปเก็บประสบการณ์ในเดนมาร์ก ในที่สุดฮัมบูร์ก ก็ตัดสินใจที่จะให้โอกาสเขาขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ และโอกาสประเดิมสนามเกมแรกก็มาถึงในเกมกับ อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ เขาถูกส่งลงสนามในนาที 78 แทนที่ของ ไนเจล เดอ ยอง กองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ ในเกมที่เสมอกัน 1-1

4.  ชาวแอลเบเนียที่ยิงในแชมป์เปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มคนแรก

ในเดือนธันวาคม 2006 เบซาร์ต เบริช่า กลายเป็นชาวแอลเบเนีย คนแรกที่สามารถยิงประตูในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้ ในรอบแบ่งกลุ่มในเกมที่เขายิงประตูใส่ ซีเอสเคเอ มอสโก ได้ในรังเหย้าต่อหน้าแฟนๆของตัวเอง และหลังจากนั้นอีก 10 วันเขาก็เบิกสกอร์แรกในบุนเดสลีก้าได้สำเร็จ ในเกมที่พบกับ อาเค่น

5. ผู้จัดการเปลี่ยนอนาคตเปลี่ยน

ในขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดีในเส้นทางการค้าแข้งกับฮัมบูร์กของ เบซาร์ต เบริช่า แต่หลังจากที่สโมสรตัดสินใจปลด โทมัส ดอลล์ แล้วแทนที่ด้วย ฮูบ สตีเวนส์ ที่เห็นว่าเขาไม่อยู่ในแผนการทำทีมและไม่ได้ให้โอกาสในการลงสนามมากเท่าที่ควร

6. ผจญภัยแดนผู้ดี

แม้จะไม่ได้โอกาสลงเล่นแต่ เบริซ่า ยังถูกเรียกไปติดทีมอัลเบเนีย และได้อุ่นเครื่องกับทีมชาติอังกฤษชุดบี ที่สนามเทิร์ฟมัวร์ รังเหย้าของเบิร์นลี่ย์ ทำให้ทีมตัดสินใจคว้าเขาจากฮัมบูร์ก มาร่วมทีาด้วยค่าตัว 340,000 ยูโร แต่ติดปัญหาเรื่องเวิร์กพอร์มิตเล็กน้อยก่อนที่สัญญาทุกอย่างจะเรียบร้อย แถมโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักที่เข่าทำให้ แทบไม่ได้ลงเล่นให้ทีม และถูกปล่อยให้ โรเซนบอร์ก บีเค ในลีกนอร์เวย์ รวมถึง เอซี ฮอร์เซ่นส์ ที่เขาเคยเล่นด้วยมาแล้ว และสุดท้าย เบิร์นลี่ย์ ตัดสินใจปล่อยตัวเขากลับไปในเยอรมันให้ อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์

7. ย้ายมายิ่งใหญ่ในแดนจิงโจ้

แม้ว่าเขาจะเป็นดาวยิงธรรมดาในศึกบุนเดสลีก้า แต่เมื่อได้ย้ายมาเล่นในเอลีกออสเตรเลีย กับ บริสเบน รอร์ ดูเหมือนว่าจะเป็นสถานที่ ที่ใช่สำหรับ เบซาร์ต เบริช่า เพราะเพียงฤดูกาลแรกเขาก็ระเบิดฟอร์มซัดไป 21 ประตู และคว้าตำแหน่งรองเท้าทองคำได้ทันที และยังช่วยให้ บริสเบน รอร์ คว้าแชมป์ลีก จากนั้นเขาย้ายไปอยู่กับ เมลเบิร์น วิตอร์รี่ หลังหมดสัญญา และยังระเบิดฟอร์ม จนคว้ารางวัลรองเท้าทองคำได้อีกในฤดูกาลส่งท้ายรวมไปถึงแชมป์ลีกด้วย

8. เจ้าของสถิติซัดแฮตทริกเร็วที่สุดในเอลีก

สำหรับ เบซาร์ต เบริช่า เคยทำสถิติซัดแฮตทริกด้วยเวลาแค่ 6 นาทีให้กับ บริสเบน รอร์ ในเกมที่ถล่มเอาชนะ แอดิเลด ยูไนเต็ด 7-1 ถือว่าเป็นสถิติการยิงแฮตทริกที่เร็วที่สุดในเอลีก ที่ตอนนี้ยังไม่มีใครทำลายลงได้ และเกมนั้นเขายิงได้ถึง 4 ประตูด้วยกัน

9. เคยแพ้บุรีรัมย์ใน ACL

เบซาร์ต เบริช่า  เคยมาเยือน ช้างอารีน่า ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกรอบเพลย์ออฟ ซึ่งเขาไม่สามารถยิงประตูได้ในเกมนั้น และยังเป็น 1 ใน 3 นักเตะ ของบริสเบน รอร์ ที่ยิงจุดโทษไม่เข้าด้วย 

10. เกิดมาเพื่อตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า

สำหรับตำแหน่งถนัดของ เบซาร์ต เบริช่า นั่นคือกองหน้าตัวเป้าเท่านั้นโดยที่ไม่เคยขยับออกไปเล่นริมเส้น หรือถอยลงต่ำเลย เขาเหมาะที่จะเล่นในระบบที่ทีมใช้กองหน้าคนเดียว และเขาถือว่าเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องสามารถทำประตูได้หลากหลาย และยังเป็นมือสังหารจุดโทษด้วย