ฟุตบอลทีมชาติ ฟุตบอลโลก

อัปยศที่สุด: 7 แมตช์สกปรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

การแข่งขันที่ใหญ่สุดของวงการฟุตบอล ศึกฟุตบอลโลกมักจะมีแมตช์ที่ตื่่นเต้นเร้าใจอยู่เสมอ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเกมส์ที่ใสสะอาดเสมอไป หลายเกมส์มีเหตุการณ์ความรุนแรงหรือสิ่งที่ไม่คาดฝัน บางเกมส์ทำให้ชีวิตนักฟุตบอลคนนึงเปลี่ยนไป และมีบางเกมส์ที่ล้ำเส้นไปกว่านั้น

กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

บราซิล พบ เช็กโกสโลวาเกีย (1938)

ย้อนกลับไปก่อนที่คุณพ่อหรือคุณปู่ของเราจะเกิด ฟุตบอลโลกถูกวาดให้เป็นดั่งสงคราม การเจอกันของบราซิลกับเช็กโกสโลวาเกีย (สาธารณรัฐเช็ก ปัจจุบัน)ในรอบก่อนรองชนะเลิศบอลโลก 1938 มีผลลัพธ์คือสามผู้เล่นของแต่ละฝั่งต้องถูกหามออกเพราะการบาดเจ็บ สองผู้เล่นของเช็คมือหัก สามผู้เล่น สองคนของบราซิลกับหนึ่งคนของเช็กต้องถูกไล่ออกไป ความวุ่นวายของนัดนี้ถูกมองว่าเป็นความไร้ความรับผิดชอบของผู้ตัดสิน พาล วอน เฮิร์ตสกา การปะทะกันครั้งนี้เรียกกันว่า การต่อสู้ที่บอร์กโดซ์ ซึ่งอ้างถึงเมืองที่จัดเกมส์นัดนี้ขึ้น

ฮังการี พบ บราซิล (1954)

บราซิลต้องข้องเกี่ยวกับสงครามในสนามอีกครั้ง เกมที่ทัพเซเลเซาพบกัยฮังการีในรอบก่อนรองชนะเลิศบอลโลก 1954 รู้จักกันในชื่อว่า การต่อสู้ที่เบิร์น ความบ้าคลั่งในแมตช์ที่เกิดขึ้น ณ เมืองเบิร์น ประเทศสวิสเซอแลนด์ เริ่มต้นจากการรุกฮือของแฟนบอลหลังกรรมการมอบจุดโทษให้คู่แข่ง ความตึงเครียดในเกมส์ทำให้มีการไล่ผู้เล่นออกถึงสามคน เท่านั้นยังไม่สุด ความวุ่นวานได้ลามไปถึงห้องแต่งตัวและนำไปสู่การบาดเจ็บของ กุสตาฟ เซเบส โค้ชทีมชาติฮังการี แมตช์ระหว่างสองชาติที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในเวลานั้น จบลงแบบเกินความคาดหมาย

ชิลี พบ อิตาลี (1962)

เกมระหว่างชิลีกับอิตาลีในฟุตบอล 1962 น่าจะอธิบายได้ชัดเจนด้วยคำว่า นองเลือด ความตึงเครียดอันร้อนระอุระหว่างการเจอกันของสองรัฐเริ่มจากการกล่าวถึงชิลี เจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกคครั้งนี้ ว่าเป็นประเททศที่แย่โดยนักข่าวชาวอิตาเลี่ยน สัญญาณเลวร้ายเริ่มแสดงหลังเกิดการฟาล์วตั้งเกมพึ่งเริ่มไป 12 วินาที ทั้งสองทีมมีจังหวะสกปรก ผู้เล่นคนนึงจมูกหัก ผู้เล่นสองคนถูกไล่ออก และสามครั้งที่ตำรวจจะต้องหยุดเกม เกมนี้เป็นที่รู้จักในชื่อว่า การต่อสู้ที่ซานติอาโก ซึ่งคือชื่อเมืองหลวงของชิลี ข้อดีอย่างนึงของศึกนี้คือ เคน แอสตัน กรรมการผู้นำการปะทะนี้ ได้สร้างใบเหลืองและใบแดงให้สะดวกกับกรรมการในการเปิดการปะทะกัน

เดนมาร์ก พบ แอฟริกาใต้(1998)

เกมระหว่างเดนมาร์กกับแอฟริกาใต้ไม่ได้หนักถึงขนาดมีความรุนแรง อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นสามคนถูกไล่ออกโดยกรรมการ และอีกเจ็ดคนที่โดนใบเหลือง เพราะอะไร? กรรมการในนัดนี้ จอห์น โตโร เรนดอน เหมือนจะ’แจกใบง่าย’เกินไป เปาชาวโคลัมเบียถูกวิจารณ์ แม้รูปเกมส์ก็ปะทะกันหนักจริงๆ

เนเธอร์แลนด์ พบ โปรตุเกส (2006)

หนึ่งในเกมที่บ้าคลั่งที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล 4ใบแดง กับ 16 ใบเหลืองถูกแจกโดยกรรมการในนัดเดียว ตัวเลขนี้ทำลายสถิติการแจกใบในหนึ่งเกมส์ของฟีฟ่า แมตช์นี้ดูไม่น่าเชื่อว่าจะสกปรก เริ่มจากจังหวะที่คาลิด บูลารูซทำคริสเตียโน โรนัลโด้บาดเจ็บ เกมก็เริ่มปะทะกันหนักขึ้น การกระโดดชน รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนผู้เล่นสำรองต้องมีส่วนร่วม ความเป็นผู้นำของวาเลนติน อิวานอฟ กรรมการชาวรัสเซียถูกวิจารณ์อย่างหนัก เกมยี้รู้จักกันในชื่อว่า การต่อสู้ที่นูเรมเบิร์ก

สเปน พบ เนเธอร์แลนด์ (2010)

นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกมักจะตื่นเต้นและคลาสสิค ยกเว้นคู่ชิงในปี 2010 เกมนัดชิงมีการฟาวล์โดยการปะทะที่รุนแรงหลายจังหวะ รวมถึงการตั้งใจกระโดดกังฟูคิกของไนเจล เดอ ยองเข้ากลางอกซาบี อลองโซ กรรมการ ฮาเวิร์ด เว็บบ์แจกไป 14 ใบเหลือง เขาก็ยังถูกวิจารณ์จากการแจกแค่ใบแดงเดียวให้จอห์น ไฮติงกา ไม่ใช่ เดอ ยอง โค้ชทีมชาติฮอลแลนด์ เบิร์ท ฟาร มาร์ไวค์ ถูกวิจารณ์อย่างหนัักที่ไม่สามารถควบคุมลูกทีมตัวเองได้

บราซิล พบ โคลอมเบีย (2014)

แมตช์นี้ไม่ได้มีใบแดง แต่เป็นแมตช์ที่หนักเพราะสตาร์ของแต่ละทีมตกเป็นเป้าหมายของความรุนแรง สถิติจากฟอร์บส์ระบุ ฮาเมส โรดริเกวซถูกปะทะที่เน้นความรุนแรงของผู้เล่นบราซิล ขณะที่เนย์มาร์ก็ถูกเตะอย่างแรงจากคามิโย ซูนิกาที่ส่งผลให้เขาต้องพลาดเกมในรอบรองชนะเลิศ ถือเป็นเกมที่จบลงอย่างเลวร้ายต่อทีมชาติบราซิล