ทีมชาติเฟิร์สไทม์ :ตัดเกรดแข้งช้างศึกหน้าใหม่ในยุค “ราเยวัช”

ในการเก็บตัวอุ่นเครื่องกับทีมชาติจีนของทีมของทีมชาติไทย ในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ มีนักเตะหน้าใหม่ที่ถูกเรียกมาติดทีมชาติครั้งแรกคือ นพพล พลคำ และ ศศลักษณ์ ไหประโคน นับตั้งแต่ทีมชาติไทยเปลี่ยนกุนซือเป็น มิโลวาน ราเยวัช ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเรียกนักเตะหน้าใหม่ๆเข้ามาติดทีมเสมอ มีหลายคนที่ได้รับโอกาสและคว้าเอาไว้จนกลายเป็นตัวหลัก นี่คือการตัดเกรดของบรรดาแข้งหน้าใหม่ในยุคของกุนซือชาวเซอร์เบีย

กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

พรรษา เหมวิบูลย์

เจ้าของสมยา “ซินเดอเรลล่า” ลูกหนังตัวจริงเสียงจริง โดยดาวเตะจากจังหวัดจันทบุรี ที่ขยับมาเล่นกับ จามจุรี ยูไนเต็ด ในระดับดิวิชั่น 2 ก่อนที่ถูก ทีโอที เอสซี คว้าตัวไปร่วมทัพแต่ว่ายังไม่ได้ฉายแววโดดเด่นมาก ก่อนที่จะเป็น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ดึงตัวไปร่วมทีม แต่ว่ายังไม่ทันไร ทีมจงอางผยอง มาโดนตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขันกลางฤดูกาลเพราะว่าทีมไปพัวพันกับคดีทำร้ายผู้ตัดสิน ทำให้เขาแทบจะกลายเป็นนักเตะไร้สังกัด แต่ว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ของไทยลีก มอบโอกาสให้ด้วยการดึงมาร่วมทีม และเขาสามารถคว้าโอกาสเอาไว้ได้ทันที ในการยึดตำแหน่งตัวจริงให้กับทีม จนถูก มิโลวาน ราเยวัช  เรียกมาติดทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้เคยติดเพียงแค่นักเรียนไทย 18 ปี และ ทีมชาติไทย ชุด ม.อาเซียน เท่านั้น และได้ประเดิมเกมแรก พร้อมๆกับ ราเยวัช ที่คุมทีมชาติไทย คือเกมที่บุกไปเยือนอุซเบกิสถาน ในเกมอุ่นเครื่อง แม้จะพ่าย 2-0 แต่เขาก็ยังได้รับคำชื่นชม จนกลายเป็นกำลังหลักของทีม เรียกได้ว่าเป็นขุนศึกเอกของกุนซือชาวเซอร์เบีย ที่เปลี่ยนตัวเองจากปราการหลังโนเนมกลายเป็น กองหลังตัวเลือกแรกของทีมชาติไทยไปแล้วตอนนี้

เกรด: A

เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว

คู่หูของ พรรษา เหมวิบูลย์ ในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ เพิ่งจะมีโอกาสในการติดทีมชาติครั้งแรกในวัย 30 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาถูกกุนซือคนอื่นๆในทีมชาติไทยมองข้ามไปเสมอ ดาวเตะชาวจังหวัดลพบุรี ที่เริ่มต้นเล่นในระดับโปรวิลเชียลลีก ให้กับทีมบ้านเกิดตั้งแต่วัย 20 ปี ก่อนที่จะตัดสินใจมาผจญภัยในโลกลูกหนังกับ ทีมการไฟฟ้า แต่ก็ไม่ได้ลงสนามมากนัก เพราะตอนนี้ทีมมีแข้งรุ่นเก๋าอย่าง ภานุพงศ์ วงศ์ษา, โชคทวี พรหมรัตน์, ปฏิภาณ เพ็ชรพูล อภิเชษฐ์ พุฒตาล และ  อองรี โจเอล อยู่ในทีม แต่เขาก็ได้สัมผัสแชมป์ไทยลีก กับทีม จนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เทคโอเวอร์การไฟฟ้า และเขาได้ย้ายไปเล่นให้ ทีมน้องอย่าง บุรีรัมย์ เอฟซี จนพาทีมคว้าแชมป์ ดิวิชั่น 2 ต่อเนื่องมาถึง ดิวิชั่น 1 จนเกิดการรวมทีมระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ เอฟซ เขาได้เลื่อนไปเล่นชุดใหญ่ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ลงเล่นทำให้ต้องย้ายทีมไปอยู่กับ ชัยนาท เอฟซี แต่ทีมมีการเปลี่ยนแปลง เลยทำให้เจ้าตัวตัดสินใจย้ายไปปักหลักกับ นครราขสีมา มาสด้า เอฟซี และช่วยให้ สวาทแคท เลื่อนชั้น และได้เล่นเป็นตัวหลักตลอดมาจนกระทั่ง ผลงานไปเข้าตา ทีมงานของ ราเยวัช จนถูกเรียกไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรก ในเกมอุ่นเครื่องกับ อุซเบกิสถาน ถือว่าเป็นปราการหลังคู่ใหม่ของทีมชาติไทย หลังจากที่เคยต้องเอากองกลางตัวรับอย่าง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มาเล่น และเขาก็กลายเป็นขาประจำในทีมชาติเมื่อจับคู่กับพรรษาได้อย่างลงตัว

เกรด: A

เควิน ดีรมรัมย์

แม้ว่าเพิ่งจะอายุ 20 ปีเต็ม แต่เขาคือนักเตะที่ว่ากันว่าค่าตัวของเขาสูงถึง 40 ล้านบาทตอนที่ย้ายจาก ราชบุรี มิตรผล เอฟซี มาอยู่กับ การท่าเรือในฤดูกาลนี้ โดยดาวเตะลูกครึ่งไทย-สวีเดน ที่ไปเติบโตที่ สต็อกโฮล์ม โดยมีพ่อเป็นชาวสวีดิช ส่วนแม่เป็นคนไทย ซึ่งเขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 10 ปีกับ ไอเอฟเค เฮนิงเง ทีมที่อยู่ใกล้ๆกับบ้านพักของเขาก่อนที่ฟอร์มจะไปเข้าตา เยอร์การ์เดนส์ ทีมโปรดของพ่อทำให้ได้เซ็นสัญญาแบบที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก จนได้ไปทดสอบฝีเท้ากับ เบรเมน และ โรมา ก่อนที่จะเลือกซบทีมนกนางนวล แห่งบุนเดสลีก้า เยอรมัน และได้เล่นกับทีมชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ซึ่งเขาทำผลงานได้ดี แต่เกิดอาการคิดถึงบ้านเลยย้ายกลับไปอยู่กับเยอร์การ์เดนส์ อีกครั้งแค่ก็ไม่ได้รับโอกาสทำให้ถูกปล่อยให้ อัตวิดาเบิร์กส์ ทีมในลีกรองยืมตัว จนได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ แม้วัยจะยังไม่ถึง 20 ปีดี และผลงานยอดเยี่ยมด้วยการลงเล่นแบบสม่ำเสมอถึง 25 นัด จากทั้งหมด 30 เกมในลีก และทำแอสซิสต์ไป 8 ครั้ง แม้ว่าเยอร์การ์เดนส์  ต้องการได้ตัวเขา แต่ เควิน ไม่ต้องการกลับไปเล่นให้ทีมเก่าแล้ว และตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ ราชบุรี มิตรผล และได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ผลงานก็ดี จนถูก มิโลวาน ราเยวัช เรียกตัวไปติดทีมชาติไทย เกมแรก ที่บุกไปอุ่นเครื่องกับ อุซเบกิสถาน เพราะว่าในเกมนั้นมีนักเตะเมืองทอง หลายคนที่ยังไม่พร้อมทำให้เด็กหนุ่มวัย 19 ปีได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง และยังถูกเรียกมาติดทีมเรื่อยๆ จนในเกมล่าสุดหากว่าเขารักษาฟอร์มได้เล่นได้อย่างสม่ำเสมอ ตำแหน่งแบ็กซ้ายในทีมชาติอาจจะเป็นของเขาแบบยาวๆก็เป็นได้ ด้วยอายุที่ยังน้อยและสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล

เกรด: B

ฟิลิป โรลเลอร์

แบ็กจอมลุยเกิดที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมันเริ่มต้นเล่นกับ  เอสเอสวี อุล์ม 184 ก่อนที่ฝีเท้าจะไปเตะตา กราสฮ็อปเปอร์ ซูริก ทีมดังในสวิสเซอร์แลนด์ ที่ดึงตัวไปร่วมทัพ ตอนวัยแค่ 16 ปีเท่านั้น แต่ก็อยู่กับทีมได้ 2 ปี ก่อนย้ายกลับมาอยู่กับ สตุ๊ตการ์ต คิกเกอร์ส  ทีมในบุนเดสลีก้า 3 เยอรมัน ก่อนโยกมาอยู่กับ อิลเลอร์ทิสเซน ในระดับที่ต่ำลงมาอีก 1 ระดับ ก่อนต้องย้ายไปอีกหลายทีมและได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอกับ ฟูลเลนดอร์ฟ และผลงานดีจนถูก ออสเตรีย ลุสเตเนา ทีมในลีกรองออสเตรียดึงตัวไปร่วมทีม ก่อนที่จะเป็น ราชบุรี มิตรผล ที่ดึงตัวมาเล่นในไทยลีกเป็นครั้งแรกเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา และสามารถยึดตำแหน่งแบ็กขวาในทีมได้ทันที แต่ไม่ใช่แค่ฝั่งขวาที่เขาทำหน้าที่ได้ดี เพราะเมื่อทีมขาดแบ็กซ้ายอย่าง ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกุล ที่โชคร้ายบาดเจ็บไหปลาร้าหัก ทีมก็สามารถโยกเขามาเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายได้อย่างไร้ปัญหา โดยให้ ศิลา ศรีกำปัง มาเล่นแบ็กขวาแทน ในเกมกับเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เขาจัดการเผา ทริสตอง โด เข้าไปซัดประตูสุดสวยให้ทีมได้ด้วยเขาถูกเรียกมาติดทีมชาติไทยครั้งแรกในศึกคิงส์คัพครั้งที่ 45 หลังจากที่โชว์ฝีเท้าในไทยลีกไปแค่ 7 เกมเท่านั้น และมีส่วนช่วยให้ทีมชาติไทย โดยได้ลงสนามในช่วงท้ายเกมทั้งสองนัด และในนัดชิงชนะเลิศเขาคือหนึ่งในคนที่สังหารจุดโทษให้ทีมคว้าแชมป์ ก่อนที่จะกลับมาติดและได้ลงเล่นแบบยาวๆในศึกคิงส์คัพครั้งที่ 46 ที่ผ่านมา แต่ก็เจอปัญหาในการรับมือกับนักเตะจากทีมแกร่งอย่าง สโลวาเกีย ไม่น้อย แต่ก็ถือว่าเป็นบททดสอบที่ดีของเขา และในเกมกับจีนแบ็กลูกครึ่งรายนี้ก็ยังถูกเรียกมาติดทีมอยู่

เกรด: B-

สุภโชค สารชาติ

หากจะพูดถึงนักเตะดาวรุ่งชาวไทยที่มีฝีเท้าเก่งเกินอายุของเขาคงหนีไม่พ้นชื่อของ สุภโชค สารชาติ ผลผลิต จากอคาเดมี่ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ถูกผลักดันให้ขึ้นมาเล่นปราสาทสายฟ้าชุดใหญ่ตั้งแต่วัยแค่ 17 ปี และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมได้ลงเล่นในทัวร์นาเม้นท์ระดับทวีปอย่าง เอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ว่าถูกตัดชื่อออกจากทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปีที่ไปป้องกันแชมป์ ซีเกมส์ที่ประเทศมาเลเซีย แต่เขาได้โอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น เพราะถูก มิโลวาน ราเยวัช เรียกไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ก่อนที่จะมอบประสบการณ์อันล้ำค่าในการลงเล่นเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับทีมชาติอิรัก โดยถูกส่งลงสนามในช่วง 5 นาทีสุดท้ายแทนที่ชอง ชนาธิป สรงกระสินธ์ แม้ว่าเกมนั้นเขาจะไม่ได้ทำอะไรมาก แต่ว่า มันคือการจุดประกายที่ดีให้กับตัวเขาและนักเตะในวัยใกล้เคียงกันคนอื่นๆว่าหากว่าคุณคือนักเตะที่ดีจริงก็สามารถติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้ทั้งนั้น

เกรด: รอวันฉายแสงในอนาคต

สุพจน์ จดจำ

กองหน้าชาวไทยที่โชว์ระเบิดในลีกรองของไทย กับกระบี่ เอฟซี จนทำให้ มิโลวาน ราเยวัช นั้นไม่สามารถที่จะเมินเฉยได้ โดยดาวเตะชาวจังหวัด กาญจนบุรี แต่ไปเติบโตที่ จังหวัดขอนแก่น ถูกค้นพบครั้งแรกโดยบางกอกกล๊าส เอฟซี และได้โอกาสซ้อมกับทีมชุดใหญ่ แต่ไม่ได้ลงเล่น ทำให้ถูกปล่อยให้ ขอนแก่น เอฟซี ยืมตัวและได้รับการเซ็นสัญญายาว 3 ปี ช่วยทีมเล่นในลีกรอง ก่อนที่จะไปคัดตัวกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และได้รับโอกาสเซ็นสัญญาแต่ก็ไม่ได้ลงเล่นมากมายนัก จนได้มาอยู่กับ บีบีซียู เอฟซี ซึ่งสุพจน์ ก็ยังคงไม่สามารถที่จะเค้นฟอร์มเก่งมาได้ทำให้ถูกปล่อยออกจากทีม ก่อนลงไปอยู่กับ กระบี่ เอฟซี ซึ่งเขาถูกส่งต่อไปอยู่กับ สุราษฎร์ธานี ยูไนเต็ด เหมือนเขาจะถูกโฉลกกับการเล่นในแผ่นดินด้ามขวานเพราะว่า เขายิงไป 15 ประตูช่วยทีมมาถึงรอบแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ไม่ได้เลื่อนชั้นเพราะจับฉลากไม่ได้ ก่อนถูกส่งกลับไปอยู่กลับกระบี่ อีกครั้ง และเจอแนวทางที่ใช่ จนระเบิดฟอร์มยิงแหลกจนคั่วตำแหน่งดาวซัลโวของลีก และถูกมิโลวานทราเยวัช เรียกมาติดทีมชาติไทย ได้ลงสนามเกมแรกในเกมบุกไปอุ่นเครื่องกับเมียนมา และได้ลงสนามในนาทีที่ 60 แต่อยู่ในสนามถึงนาทีที่ 74 ก็ต้องถูกถอดออกเพราะโชคร้ายบาดเจ็บ

เกรด :C

พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี

ทายาทของอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยอย่าง ประภาส ฉ่ำรัศมี ที่ฉายแววฝีเท้าโดดเด่นตั้งแต่ลงเล่นให้กับทีม เทพศิรินทร์ ในศึกลุกหนังขาสั้น เพราะเขาเป็นที่ถูกดันขึ้นมาเล่นข้ามรุ่น ถือเป็นการันตีว่าเขามีฝีเท้าที่เก่งเกินวัยตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนหัวเกรียน จนมีชื่อไปติดทีมนักเรียนไทย และได้เข้าเรียนโควตานักกีฬาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนได้เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับ จามจุรี ยูไนเต็ด ในดิวิชั่น 2 และถูก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ดึงไปร่วมทัพ แต่ว่าด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อยทำให้ยังเบียดขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัวไม่ได้เลยถูกปล่อยให้ พัทยา ยูไนเต็ด ยืมตัวไปใช้งาน เมื่อได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องอย่างที่รอคอยเขาระเบิดฟอร์มยิงไป 6 ประตูจากการลงเล่น 23 นัด ทำให้ถูกมิโลวาน ราเยวัช เรียกไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ทันทีในเกมอุ่นเครื่องกับอุซเบกิสถาน และได้ลงเล่นประมาณ 15 นาที และยังถูกเรียกติดทีมชาติเรื่อยๆ จนได้อยู่ในทีมชุดคว้าแชมป์คิงส์คัพครั้งที่ 45 แม้ว่าจะไม่มีโอกาสลงเล่นก็ตาม

เกรด: ยังเร็วเกินไปที่จะบอก