ฟุตบอลญี่ปุ่น เจลีก

สยามจารึก: ตัดเกรดผลงานแข้งไทยในต่างแดนครึ่งปีแรก 2018

 

นอกจากที่แฟนบอลชาวไทยจะมีโอกาสติดตามการแข่งขันฟุตบอลในประเทศ เพื่อชมฝีเท้าของเหล่าแข้งชาวไทยแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์น่าสนใจในปีนี้ คือการมีแข้งดีกรีทัพช้างศึกทั้งชุดใหญ่และชุดเล็กพาเหรดไปค้าแข้งในต่างแดน ไล่ตั้งแต่ 5 นักเตะไทยในญี่ปุ่นอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ (คอนซาโดเล ซัปโปโร), ธีรศิลป์ แดงดา (ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา), ธีราทร บุญมาทัน (วิสเซิล โกเบ), จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ (เอฟซี โตเกียว U23) และ เชาววัฒน์ วีระชาติ (เซเรโซ โอซากา U23)

ขณะที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ คือแข้งหนึ่งเดียวของไทยที่ลงเล่นในลีกยุโรปกับโอเอช ลูเวิน ในพร็อกซิมุส ลีก หรือลีกรองเบลเยี่ยม และนี่คือคะแนนความสามารถของนักเตะไทยที่ค้าแข้งในต่างแดนในช่วงครึ่งแรกของปี 2018

ปัดหน้าจอไปทางขวาเพื่ออ่านหน้าต่อไป

 

เชาววัฒน์ วีระชาติ (เซเรโซ โอซากา U23 - 4 คะแนน)

กองกลางดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ 2017 ย้ายจากบางกอกก๊ลาส เอฟซี มาร่วมทีมพันธมิตรในเวทีเจลีกอย่างเซเรโซ โอซากา ก่อนจะถูกส่งมาอยู่ร่วมกับทีมชุด U23 ลุยศึกเจ3 ในฤดูกาล 2018 นี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวยังไม่อาจสู้ยึดตำแหน่งตัวจริงร่วมกับทีมได้ ถึงตอนนี้ทีมลงเตะไปแล้ว 10 แมตช์ “อินซ์” เพิ่งได้โอกาสลงสนามเพียง 3 เกม แบ่งเป็นตัวจริง 1 นัด (เกมเสมอฟุคุชิมะ ยูไนเต็ด 1-1 ได้เล่น 64 นาที) ตัวสำรองอีก 2 นัด และมีชื่อเป็นสำรอง แต่ไม่ได้โอกาสลงเล่นอีก 5 นัด โดยรวมแล้วมีเวลาสัมผัสเกมเพียง 74 นาทีเท่านั้น ยังไม่มีโอกาสงัดฝีเท้าสร้างความแตกต่างให้แผงกลางของทีมได้

 

จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ (เอฟซี โตเกียว U23 - 5 คะแนน)

กับขวบปีที่สองในเวทีเจลีก 3 ร่วมกับเอฟซี โตเกียว U23 ดูเหมือนว่า “ไอซ์” จะยังทำผลงานส่วนตัวร่วมกับทีมจากเมืองหลวงของดินแดนอาทิตย์อุทัยได้ไม่เด่นเท่าช่วงเลกสองของซีซันก่อน แม้จะมีโอกาสลงสัมผัสเกมลีกแล้ว 6 นัด อยู่ครบ 90 นาทีถึง 4 แมตช์ ทว่าโอกาสที่ลงตัวจริงทั้งหมดนี้ โตเกียวมีผลแพ้มากถึง 4 เกม ที่เหลือแบ่งเป็นชนะ 1 เสมอ 1 นัด ยังควานหาประตูและแอสซิสต์แรกในปีนี้ไม่ได้ นอกจากนี้ เจ้าตัวยังถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่มาแล้วในรายการบอลถ้วยลูวาน คัพ ถึง 2 แมตช์ แต่ก็ไม่ได้ถูกส่งลงสนามทั้งสองเกม

 

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (โอเอช ลูเวิน - 7 คะแนน)

กลายเป็นดีลฮือฮาสำหรับตลาดซื้อขายแข้งชาวไทยเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อโอเอช ลูเวิน ที่ในลีกรองของเบลเยียมยื่นข้อเสนอคว้าตัวนายด่านดีกรีช้างศึกจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยสัญญาซื้อขาดพร้อมกับค่าตัวแพงที่สุดในสโมสร และกลายเป็นแข้งไทยคนล่าสุดที่มีโอกาสลงสัมผัสเกมลีกยุโรปอย่างเป็นทางการในเกมพร็อกซิมุส ลีก สเตจ 2 เบียร์ช็อต วิลไรจ์ก (เสมอ 1-1) ก่อนจะเริ่มกลายเป็นตัวจริงเรื่อยมาจนถึงเกมเพลย์ออฟยูโรป้าลีก (ชวดเล่นแค่ 2 นัดสุดท้าย)

โดยผลงานตลอด 10 เกมร่วมกับ OHL “ตอง” มีส่วนช่วยทีมชนะ 2 เสมอ 5 แพ้ 3 นัด เก็บคลีนชีตช่วยทีมไว้ 2 นัด และโดนคู่แข่งทำประตูใส่ทั้งสิ้น 13 ลูก

 

ธีราทร บุญมาทัน (วิสเซิล โกเบ - 7.5 คะแนน)

แบ็คซ้ายทีมชาติไทยได้โอกาสสัมผัสเกมเจ1ลีกหนแรกตั้งแต่เกมเปิดซีซันร่วมกับทีมจากจังหวัดเฮียวโงะ ก่อนจะมีโอกาสทั้งเล่นตัวจริง, ออกสตาร์ทจากม้านั่งสำรอง ตลอดจนไม่มีชื่อลงเล่นสลับกันระหว่างเกมนัดที่ 2-7 ของฤดูกาล กระทั่งตั้งแต่นัด 8 เป็นต้นมา “อุ้ม” เริ่มพิสูจน์ให้เห็นถึงฝีเท้าและศักยภาพที่มีในตัวจนก้าวขึ้นมายืนแบ็คซ้ายตัวจริงนับแต่นั้น และสิ่งนี้ยังพิสูจน์ได้หลังจากเกมนัดพ่ายซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ซึ่งแข้งชาวไทยป่วยชวดลงสนาม เจ้าตัวใช้เวลาพักฟื้นอาการเพียงไม่กี่วันก็กลับมายืนตัวจริงให้ทีมครบ 90 นาทีอีกครั้ง

และในเกมนัดที่ 14 นี้ เจ้าตัวมีส่วนสำคัญในการช่วยโกเบบุกชนะจูบิโล อิวาตะ 2-0 จนก้าวขึ้นไปติดทีมยอดเยี่ยมเจลีกเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ เบ็ดเสร็จแล้วแบ็คหมายเลข 30 มีชื่อลงสนามให้โกเบทั้งสิ้น 15 แมตช์ รวมทุกรายการ ช่วยทีมไม่เสียประตู 6 นัด และทำ 1 แอสซิสต์ในรายการลูวาน คัพ

 

ธีรศิลป์ แดงดา (ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา - 7.5 คะแนน)

เพียงเกมแรกร่วมกับซานเฟรชเช ฮิโรชิมา กองหน้าทีมชาติไทยจัดการเบิกสกอร์แรกของตัวเองในการค้าแข้งที่ญี่ปุ่นทันที คว้าตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ และติดประตูยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ของเจลีกได้ทันที จากนั้นเจ้าตัวถูกส่งลงสนามเคียงคู่ปาทริคในอีก 4 เกมต่อมา แต่เนื่องจากทีมพลธนูม่วงเองก็มีตัวเลือกในแดนหน้าที่พร้อมใช้งานหลายราย ทำให้ “มุ้ย” เริ่มหลุดเป็นสำรองสลับกับโอกาสเล่นตัวจริงบ้าง ก่อนที่บทบาทของเจ้าตัวจะเริ่มชัดเจนขึ้นกับการเป็นทีเด็ดให้ทีมช่วงครึ่งหลัง เห็นผลงานการเปลี่ยนเป็นสกอร์ 1 ครั้ง และแอสซิสต์ให้เพื่อนทำสกอร์ 2 ครั้ง โดยรวมแล้วผลงานตลอด 18 เกมร่วมกับฮิโรชิมารวมทุกรายการ “มุ้ย” ยิงได้ 4 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ พร้อมกับมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของลีกถึง 2 ครั้ง

 

ชนาธิป สรงกระสินธ์ (คอนซาโดเล ซัปโปโร - 8 คะแนน)

อดีตดาวเตะเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ย้ายมาค้าแข้งในลีกสูงสุดของญี่ปุ่นหนแรกร่วมกับคอนซาโดเล ซัปโปโร ตั้งแต่ช่วงเลกสองของปี 2017 และยังคงรักษามาตรฐานการเล่นมาจนถึงฤดูกาลปัจจุบัน แถมยังมีมิติเรื่องการจบสกอร์ที่น่าพอใจเพิ่มขึ้นมาภายใต้แท็คติกของมิไฮโล เปโตรวิช สิ่งนี้ทำให้ “เจ” ได้รับโอกาสลงสนามช่วยทัพนกเค้าแมวเมืองเหนือชนิดที่ลงตัวจริง 13 เกม อยู่ลงเล่นฟูลแมตช์ถึง 8 เกม สร้างเกมรุกผ่านการเปลี่ยนผลสกอร์ให้ทีมได้จากการทำ 3 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ และก้าวขึ้นมามีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมเจลีกมาแล้วถึง 2 หน