เอเชีย ฟุตบอลญี่ปุ่น

ใครดี-ใครแย่? เช็คผลงานกุนซือเจลีกรับงานกับทีมใหม่ซีซั่น 2018

 

ฟุตบอลเจ1ลีก 2018 เป็นอีกฤดูกาลที่หลายสโมสรเลือกเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอนเพื่อเป้าหมายที่สูงขึ้นกว่าปีก่อนๆ ซึ่งในซีซันปัจจุบันนี้ มีอยู่ 6 สโมสรที่ตัดสินใจให้โอกาสกุนซือคนใหม่ทั้งที่มีประสบการณ์คุมทีมในลีกสูงสุดแดนอาทิตย์อุทัยมาก่อน รวมถึงโอกาสของโค้ชที่ไม่เคยคุมทีมระดับเจ1ลีกมาก่อน ซึ่งเมื่อเกมการแข่งขันผ่านมาถึงนัดที่ 11 บรรดา 6 หัวหน้าผู้ฝึกสอนของแต่ละทีมต่างก็ทำผลงานต่างกันไป และนี่คือผลงานของเหล่าโค้ชที่เพิ่งเข้ามาคุมทีมเจลีกกับทีมใหม่ซีซั่น 2018

กด Next เพื่ออ่าน

 

1. แจน จอนสัน - ชิมิสุ เอสพัลส์

กุนซือชาวสวีเดนเคยผ่านประสบการณ์ค้าแข้งร่วมกับซานเฟรชเช ฮิโรชิมา และวิสเซล โกเบ เมื่อครั้งที่อยู่ในช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้งระหว่างปี 1993-1996 ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่เจ้าตัวได้โอกาสรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนให้ทั้งสองสังกัดด้วย ก่อนจะกลับไปเก็บประสบการณ์ในลีกบ้านเกิดเป็นเวลากว่า 10 ปี และเลือกกลับมารับบทบาทเฮดโค้ชให้พลธนูม่วงแบบเต็มตัวเมื่อฤดูกาลที่แล้ว อย่างไรก็ตาม จากผลงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าด้วยอันดับที่ 15 ทำให้สโมสรเลือกไม่ต่อสัญญาเพิ่ม กระทั่งมีโอกาสโยกมาคุมทีมคู่แข่งร่วมลีกอย่างชิมิสุ เอสพัลส์ในปี 2018 นี้

สำหรับผลงานหลังผ่าน 11 เกม จอนสันในวัย 57 ปีคุมทีมผลงานตามมาตรฐานไม่ดีไม่ร้าย ด้วยอันดับที่ 7 ของตาราง แบ่งสถิติเป็นชนะ 4 เสมอ 3 แพ้ 4 มี 15 คะแนน ยิงไป 14 ประตู เสีย 11 ลูก โดยมีเวลา 4 นัดแรกที่ไม่แพ้ใครในลีก ก่อนจะไม่สามารถเก็บสามคะแนนได้เลยกระทั่งนัดที่ 10 และ 11 ของฤดูกาลที่กลับมาเก็บ 6 แต้มเต็มอีกครั้ง

 

2. อันเก ปอสเตโคกลู - โยโกฮามา เอฟ มารินอส

ภายหลังที่พาทีมชาติออสเตรเลียทะลุเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2018 เพียงสองสัปดาห์จากนั้น เทรนเนอร์วัย 52 กะรัตกลับประกาศแยกทางกับพลพรรคจิงโจ้ ที่ตัวเขาอยู่คุมทีมมาตั้งแต่ปี 2013 และว่างงานอยู่ไม่นานก็ถูกโยโกฮามา เอฟ มารินอส ทีมดังประจำเจ1ลีก ออกแถลงการณ์ดึงเจ้าตัวมาคุมทัพเพื่อสู้ศึก 2018

กับโอกาสในการคุมทีมจากคานากาวา อันเกยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองกับเกมลีกสูงสุดอยู่ไม่น้อย เพราะหลังผ่าน 11 เกม เขามีสถิติคุมทีมชนะเพียง 3 ครั้งเท่านั้น และแพ้มากถึง 5 ครั้ง ปัจจุบันรั้งอยู่อันดับ 13 ของตาราง ยิงรวมทั้งสิ้น 15 ประตู เสีย 17 ลูก

 

3. เลอเวียร์ คัลปิ - กัมบะ โอซากา

เฮดโค้ชชาวบราซิลตัดสินใจโยกมาคุมกัมบะ โอซากา เพื่อสู้ศึกซีซัน 2018 และถือเป็นการกลับมาคุมทีมสโมสรร่วมเมืองโอซากาอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยอยู่คุมเซเรโซมาก่อนที่ 3 ครั้ง ในปี 1997, 2007-2011 และ 2012-2013 ซึ่งจากประสบการณ์การอยู่คุมทีมในเจลีกมาก่อน รวมถึงดีกรีที่เคยคุมทีมในบ้านเกิดมาไม่น้อยกว่า 10 สโมสร ทำให้เจ้าตัวถูกคาดหวังไม่น้อยว่าจะพาพลพรรคเด็กสายฟ้ากลับมาอยู่ในเส้นทางทีมหัวตารางลุ้นโควตาลุยฟุตบอลเอเชียอีกครั้ง หลังจากที่ปี 2017 กัมบะอยู่ที่ 10 ของตาราง

อย่างไรก็ตาม ผลงานของเฮดโค้ชวัย 65 กะรัตร่วมกับทีมจากภูมิภาคคันไซหลังผ่าน 11 เกม โดยรวมถือเป็นฟอร์มที่น่าผิดหวัง เพราะเก็บได้เพียง 10 แต้ม แบ่งเป็นผลชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 7 อยู่อันดับที่ 16 ของตาราง แถมช่วงเริ่มซีซันยังเคยหล่นมาอยู่อันดับบ๊วยมาแล้วจากสถิติ 6 เกมแรกที่เก็บได้แค่ 1 คะแนน ทว่าเมื่อดูฟอร์มในลีก 5 นัดหลังสุด ถึงตอนนี้พวกเขาเริ่มเดินหน้าคว้า 3 คะแนนได้บ้างแล้วจากสถิติชนะมากถึง 3 เกม

 

4. เคนตะ ฮาเซงาวา - เอฟซี โตเกียว

อดีตผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่นและสโมสรชิมิสุ เอสพัลส์ เลือกมารับงานคุมสโมสรดังแห่งเมืองหลวงของแดนอาทิตย์อุทัยภายหลังที่ตัดสินใจแยกทางกับกัมบะ โอซากา ทีมที่อยู่คุมทัพมาตั้งแต่ปี 2013-2017 และภายใต้การโยกมาคุมทีมคู่แข่งร่วมลีกหนนี้ ฮาเซงาวาในวัย 52 ปี พลิกสถานการณ์ของเอฟซี โตเกียว ที่ล้มเหลวจบอันดับกลางตารางถึง 2 ฤดูกาลที่แล้ว ให้กลายมาเป็นทีมเกาะกลุ่มหัวตารางแบบน่าเหลือเชื่อ

ถึงตอนนี้อดีตเฮดโค้ชทัพเด็กสายฟ้าพาโตเกียวผงาดรั้งถึงตำแหน่งรองจ่าฝูงชนิดที่ผลงานชนะ 7 เสมอ 1 และแพ้ไป 3 เกม ทั้งยังเป็นทีมที่จบสกอร์ดีสุดในลีกหลังผ่าน 11 นัดที่ 19 ประตูจาก 11 เกม แน่นอนว่าความสำเร็จดังกล่าวต้องยกให้เครดิตของตัวฮาเซงาวาเอง ที่เคยกองหน้ามาก่อน และน่าจะมีโอกาสไม่น้อยสำหรับการถ่ายทอดมายังลูกทีมในเรื่องการจบสกอร์ เห็นผลได้แล้วจากมีผู้เล่นในทีมยิงเกิน 3 ประตูถึง 3 คนด้วยกัน

 

5. มิไฮโล เปโตรวิช - คอนซาโดเล ซัปโปโร

เทรนเนอร์มากประสบการณ์วัย 60 ปี คือหนึ่งในกุนซือต่างชาติที่อยู่คุมทีมในเจ1ลีกมาอย่างยาวนานถึง 10 ปี นับตั้งแต่ที่เริ่มงานหนแรกกับ ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ในปี 2006 และอยู่โยงคุมทีมยาวถึง 5 ปีจนถึงปี 2011 ผ่านงานคุมทัพมากกว่า 200 นัดทั้งในเจ1และ เจ2 ก่อนจะไปรับงานคุมทัพอุราวะ เรดส์ ตั้งแต่ช่วงปี 2012-2017 กระทั่งถูกคอนซาโดเล ซัปโปโร ทีมของชนาธิป สรงกระสินธ์คว้ามาคุมทีมเพื่อสู้ศึกฤดูกาล 2018

แม้ช่วงแรกทีมจากฮอกไกโดจะผลงานดิ่งชนิดที่ผ่าน 3 เกมเก็บได้แค่ 1 แต้ม ทว่าหลังจากนั้นเปโตรวิชกลับงัดกลยุทธ์ ใส่แท็คติกให้ผู้เล่นในทีม จนกลายมาพลิกสถานการณ์จากนั้นกลับพลิกฟอร์มเป็นการทำสถิติไม่แพ้ใครในลีกอีกเลย และในขณะนี้ซัปโปโรมีสถิติลงเล่น 11 เกม เก็บได้ 19 คะแนนจาก 11 เกม แบ่งเป็นชนะ 5 เสมอ 4 และแพ้ 2 รั้งอันดับ 4 ของตาราง ละนับเป็นสถิติออกสตาร์ทเจ1ลีกแบบดีที่สุดนับตั้งแต่ที่ลีกสูงสุดแดนปลาดิบใช้ชื่อว่าเจ1ลีก

 

6. ฮิโรชิ โจฟุคุ - ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา

แม้ประสบการณ์คุมทีมข้างสนามก่อนหน้านี้ของโจฟุคุจะไม่ได้เด่นดังถึงขั้นที่พาทีมทั้งในระดับสโมสร ที่ตัวเขามีเคยมีโอกาสคุมทั้งคาวาซากิ ฟรอนทาเล, เอฟซี โตเกียว และเวนท์โฟเรต์ โคฟุ ประสบความสำเร็จเลยในเวทีเจลีก แต่กับโอกาสแรกของเจ้าตัวในวัย 57 ปีร่วมกับทัพพลธนูม่วง เขากลับพาอดีตแชมป์เจลีก 3 สมัยกลับมาสู่เส้นทางทีมชั้นนำในลีกอีกครั้ง หลังจากที่ล้มเหลวลุ้นหนีตกชั้นเมื่อปีที่แล้ว

โจฟุคุพาซานเฟรชเชร้อนแรงถึงขั้นที่ทีมรั้งจ่าฝูงของตารางชนิดที่ทิ้งอันดับสองอย่างโตเกียวถึง 6 คะแนน (ซานเฟรชเชมี 28 แต้ม) ซึ่งฟอร์มเด่นนี้มาจากผลงานตลอดการเล่น 11 เกมที่ผ่านมา ที่เขาพาอดีตแชมป์เจลีก 3 สมัยทำผลงานชนะในเจ1ลีก 9 เสมอ 1 แพ้แค่ 1 เกมเท่านั้น และกลายมาเป็นอีกหนึ่งทีมลุ้นคว้าแชมป์ลีกอย่างไม่ต้องสงสัย