จารึกแดนซามูไร: 13 ประตูจากแข้งอาเซียนยุคเจลีก

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในเกมเจลีกนัดที่ 11 ขอฤดูกาล แข้งไทยต่างพาเหรดกันโชว์ฟอร์มร้อนแรง และทำประตูช่วยต้นสังกัด ไม่ว่าจะเป็นธีรศิลป์ แดงดา ที่บวกสกอร์ขึ้นนำให้ซานเฟรชเช เอาชนะวีราเรน นางาซากิ และชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ซัดสกอร์พลิกขึ้นนำให้กับทัพนกเค้าแมวเมืองเหนือก่นอจะเสมอเซนได อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้เคยมีนักฟุตบอลจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จารึกการทำประตูมาแล้วหลายราย และนี่คือย้อนรอย 13 ประตูที่เกิดขึ้นจากนักเตะอาเซียนในวงการฟุตบอลญี่ปุ่นในยุคเจลีก

กด Next เพื่ออ่าน

ประตูที่ 1 และ 2 : เล กง วินห์ - เวียดนาม (คอนซาโดเล ซัปโปโร - 7 กันยายน 2013)

อดีตหัวหอกเบอร์หนึ่งทีมชาติเวียดนาม ได้รับการจารึกว่าเป็นนักเตะอาเซียนคนแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเจลีก หลังย้ายมาร่วมทีม คอนซาโดเล ซัปโปโร ที่ในขณะนั้นโลดแล่นในเวทีเจทู ฤดูกาล 2013 และใช้เวลา 2 เดือน สำหรับการซัดประตูในแดนปลาดิบ ในเกมที่ทัพนกเค้าแมวเมืองเหนือไล่บดชนะ ทีมมหาวิทยาลัยอิวามิซาวะ ไปได้ 4-1 ในเกมเอ็มเพอเรอร์สคัพ รอบที่ 2 โดยกง วินห์ สวมบทฮีโรซัดคนเดียวสองประตูจากจุดโทษ และลูกงัดข้ามหัวนายทวารคู่แข่ง

ประตูที่ 3 : เล กง วินห์ - เวียดนาม (คอนซาโดเล ซัปโปโร - 22 กันยายน 2013)

หลังประเดิมประตูแรกในแดนอาทิตย์อุทัย สตาร์แดนดาวทองยังคงสานผลงานเด่นส่วนตัวต่อเนื่อง คราวนี้เป็นการจารึกชื่อแข้งอาเซียนคนแรกที่ทำประตูได้ในเกมลีก จากการโหม่งประตูตั้งแต่ต้นเกม (นาทีที่ 16) พาทีมจากฮอกไกโด ขึ้นนำ วี วาเรน นางาซากิ 1-0 แม้อีก 4 นาทีต่อมา กง วินห์จะมาโดนใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใ[แดงไล่ออกจากสนาม ทว่าเมื่อจบ 90 นาที สกอร์ออกนำของทีมจากเจ้าตัวยังดีพอที่จะทำให้เจ้าตัวกลายเป็นฮีโรประจำแมตช์ เพราะทีมสามารถรักษาสกอร์นั้นได้จนจบเกม

ประตูที่ 4 : เล กง วินห์ - เวียดนาม (คอนซาโดเล ซัปโปโร - 10 พฤศจิกายน 2013)

เมื่อฟอร์มการเล่นเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ส่งผลให้กง วินห์ ที่สวมเสื้อหมายเลข 19 ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้คอนซาโดเล เป็นนัดที่ 4 ของฤดูกาลในเกมพบ วิสเซิล โกเบ ก่อนจะมาเบิกประตูที่สองของตัวเองในเจทู เมื่อทีมได้จุดโทษในนาทีที่ 27 ซึ่งเจ้าตัวยังคงยิงได้เด็ดขาดเช่นเดิม เมื่อรับหน้าที่สังหารจนกลายเป็นประตูชัยช่วยทีมเก็บสามแต้มสุดคุ้มค่า แถมยังคว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ไปครองได้อีกด้วย

ประตูที่ 5 : เหงียน ตวน อันห์ - เวียดนาม (โยโกฮามา เอฟซี - 22 กันยายน 2016)

เวลาผ่านไปถึง 3 ปี กว่าจะมีแข้งจากอาเซียนทำประตูบนดินแดนซามูไรได้ และหนนี้ก็ยังคงเป็นชื่อของดาวเตะจากประเทศเวียดนามอย่าง ตวน อันห์ ที่ถูก โยโกฮามา เอฟซี ทีมจากเจทู ดึงมาเสริมทัพด้วยสัญญายืม 1 ซีซัน เมื่อปี 2015 และถือเป็นนักเตะสกุลเหงียนรายที่สาม ที่ได้ลงเล่นใน J2 ต่อจาก เล กง วิน สตาร์ดังทีมชาติเวียดนามที่เคยเล่นให้ คอนซาโดล ซัปโปโร และ เหงียน กง เฝิง เพื่อนร่วมรุ่นที่เซ็นสัญญายืมตัวกับ มิโตะ ฮอลลีฮอค ในปีเดียวกัน

แม้ว่าอดีตดาวรุ่งที่เคยไปฝึกซ้อมกับสโมสรอาร์เซนอลจะไม่มีโอกาสลงสนามในเจลีก แต่เขาก็ยังได้โชว์ฝีเท้าในศึกเอ็มเพอเรอร์สคัพ และรายการนี้ก็กลายเป็นเวทีสร้างชื่อของเจ้าตัวเมื่อสามารถเบิกสกอร์แรกบนผืนแผ่นดินอาทิตย์อุทัยได้สำเร็จ ด้วยการโหม่งประตูชัยช่วยให้ทีม เอาชนะ เอซี นางาโนะ ปาเซอิโระ ไปได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในศึกถ้วยจักรพรรดิ รอบ 3

ประตูที่ 6 : จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ - ไทย (เอฟซี โตเกียว - 3 ธันวาคม 2017)

ปีกสารพัดประโยชน์ ที่ถูกเอฟซี โตเกียว ดึงมาเสริมทัพด้วยสัญญายืมจากแบงค็อก ยูไนเต็ด เมื่อกลางปีที่แล้ว ส่งผลให้ “ไอซ์” กลายเป็นนักเตะสายเลือดไทยคนที่ 3 ในเจลีกต่อจาก สิทธิโชค ภาโส และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆไต่โอกาสจนขึ้นมายึดตัวจริงให้ทีมชุด U23 ที่ลงเล่นใน เจ3 กระทั่งได้รับการจารึกว่าเป็นนักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูได้ในเจลีก เพราะในเกมส่งท้ายฤดูกาล 2017 ที่เจอกับเซเรโซ โอซากา U23 เจ้าตัวรับบอลจาก ยู อิน ซู เพื่อนร่วมทีมที่ครอสบอลจากกราบซ้ายเข้ามาให้เข้าซัดด้วยขวาเข้าไป กลายเป็นประตูออกนำตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขัน

ประตูที่ 7 : ธีรศิลป์ แดงดา - ไทย (ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา - 24 กุมภาพันธ์ 2018)

กองหน้าซูเปอร์สตาร์ทีมชาติไทย เปิดตัวในการลงเล่นฟุตบอลอาชีพที่ญี่ปุ่นกับ ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา แบบสวยหรู หลังสามารถทำประตูแรกได้ในเกมประเดิมสนามศึกเจ1ลีก ส่งผลให้ “มุ้ย” ขึ้นแท่นเป็นนักเตะไทยและแข้งจากอาเซียนคนแรกที่ทำประตูได้ในฟุตบอลลีกอาชีพญี่ปุ่น นับตั้งแต่ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็นเจลีก

โดยช็อตดังกล่าว ศูนย์หน้าหมายเลข 31 โยชิฟุมิ คาชิวะ กองกลางหมายเลข 18 บรรจงครอสบอลเข้ากรอบโทษให้เจ้าตัวขึ้นโขกบอลผ่านมือกู ซุงยุน นายประตูของคอนซาโดเล ซัปโปโรเข้าไปแบบเฉียบคม และท้ายสุด ลูกโขกดังกล่าวดีพอที่จะพาพลธนูม่วงประเดิม 3 แต้มแรกในฤดูกาล 2018 อีกด้วย

ประตูที่ 8 : ชนาธิป สรงกระสินธ์ - ไทย (คอนซาโดเล ซัปโปโร - 2 มีนาคม 2018)

ตามกันมาติดๆ สำหรับลิสต์แข้งอาเซียนที่ทำประตูในเจ1ลีก หนนี้เป็นชื่อของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แนวรุกตัวหลักคอนซาโดเล ซัปโปโร ที่มาเบิกสกอร์แรกบนลีกสูงสุดแดนปลาดิบในเกมนัดสองของฤดูกาล 2018 ในเกมบุกเสมอเซเรโซ โอซากา สุดมัน 3-3 ซึ่งในเกมนี้ “เจ” ตัดสินใจทิ้งตัวโหม่งบอลจ่อๆในกรอบโทษ จากการโยนให้ของโคจิ มิโยชิ ในนาทีที่ 62 และนับเป็นการทำแสบใส่ทัพจิ้งจอกแห่งโอซากาอีกครั้ง หลังจากที่การเยือนฤดูกาลก่อน เจ้าตัวก็จัดการทำแอสซิสต์สุดงามให้ไดกิ ซุงะ ทำประตูมาแล้ว

ประตูที่ 9 : ธีรศิลป์ แดงดา - ไทย (ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา - 14 มีนาคม 2018)

การทำประตูที่สองในการค้าแข้งที่ญี่ปุ่นของธีรศิลป์ แดงดา เกิดขึ้นอีกครั้งในเกมที่ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา เอาชนะ นาโงยา แกรมปัส ฟุตบอลถ้วยลูวาน คัพ ซึ่งในเกมนี้ดาวเตะหมายเลข 31 ของทัพพลธนูม่วงถูกใส่ชื่อให้เป็นสำรองในเกมที่ขุนพลหมีมหาภัยบุกไปเยือนวาฬเพชฌฆาต ในรายการลูวาน คัพ รอบแบ่งกลุ่มนัดที่สอง

จนในนาทีที่ 59 มุ้ยได้ถูกเปลี่ยนลงมาแทนโคเซย์ ชิบาซากิ ก่อนจะใช้เวลาแค่ 6 นาทีเท่านั้นในการทำประตูที่สองให้กับทีมและเป็นประตูที่สองในการค้าแข้งที่ญี่ปุ่นของเจ้าตัวอีกด้วย โดยเป็นจังหวะที่วิ่งมาชาร์จจ่อๆหน้าปากประตู พาทีมเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 พร้อมรั้งจ่าฝูงของกลุ่มซีอยู่ในขณะนี้

ประตูที่ 10 : ชนาธิป สรงกระสินธ์ - ไทย (คอนซาโดเล ซัปโปโร - 18 มีนาคม 2018)

ตัวรุกหมายเลข 18 แห่งทัพนกเค้าแมวเมืองเหนือฉายแววเด่นหลังได้ลงเล่นให้ทีมต่อเนื่องอีกครั้งในเกมเจ1ลีก นัดที่ 4 ของซีซัน โดยเกมที่พวกเขารับการมาเยือนของ วีวาเรน นางาซากิ คราวนี้เจสวมบทฮีโร่จ่ายบอลสุดคมให้เจย์ โบธรอยด์ ซัดประตูแรก ก่อนจะมาโขกประตูจ่อๆช่วงท้ายเกมนาทีที่ 90+4 ส่งให้ต้นสังกัดประเดิม 3 คะแนนแรกของฤดูกาล พร้อมซิวรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ มาครองแบบสวยหรู

ประตูที่ 11 : ธีรศิลป์ แดงดา - ไทย (ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา - 11 เมษายน 2018)

หลังจากหายอาการบาดเจ็บจากเกมฟุตบอลถ้วยลูวาน คัพ ช่วงต้นเดือน มุ้ยก็กลับมามีชื่อเป็นตัวจริงได้อีกครั้งในเกมลีกนัดที่ 7 ของฤดูกาล และในนาทีที่ 51 สามารถเรียกฟาวล์ในกรอบเขโทษได้สำเร็จ และเป็นเจ้าตัวที่ลุกขึ้นมายิงเองเข้าไปเป็นประตูไล่ตีเสมอมารินอส ก่อนจะพลิกมาชนะ 3-1 ได้สำเร็จ

ประตูที่ 12 : ธีรศิลป์ แดงดา - ไทย (ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา - 28 เมษายน 2018)

ในเกมนี้ดาวยิงหมายเลข 31 เป็นสำรอง ก่อนจะถูกเปลี่ยนลงมาในช่วงเริ่มต้นครึ่งหลังแทนไดกิ วาตาริ หลังจากนั้นใช้เวลาเพียงแค่ 6 นาทีเท่านั้น บวกสกอร์ให้ทีมซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ออกขึ้นนำน้องใหม่อย่างวีวาเรน นางาซากิ ก่อนที่เกมนั้นจะจบด้วยชัยชนะของทัพพลธนูม่วง และธีรศิลป์ก็สามารถคว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์จากเกมดังกล่าวอีกด้วย

ประตูที่ 13 : ชนาธิป สรงกระสินธ์ - ไทย (คอนซาโดเล ซัปโปโร - 28 เมษายน 2018)

ทัพนกเค้าแมวเมืองเหนือที่คุมทำโดยมิไฮโล เปโตรวิช ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จากการไร้ชัยในเกมลีก 6 นัดติดต่อกัน จากการเอาชนะ 5 เสมอ 1 ในเกมที่พบกับเวลกัลตะ เซนไดนั้น เจยังคงยึดตัวหลักของทีมได้เหนียวแน่น และมีโอกาสทำประตูได้หลายครั้ง และมาทำสำเร็จ หลังซัดไปเต็มข้อหน้าประตูยัดตาข่ายเข้าไปให้ทีมพลิกขึ้นนำอีกครั้ง และเป็นประตูแรกที่เจทำด้วยเท้าหลังจากประตูที่เจ้าตัวทำได้ก่อนหน้านี้เกิดจากลูกโหม่งทั้งหมด ก่อนที่เกมนัดนั้นจะเสมอกันไป 2-2