เอเชีย ฟุตบอลญี่ปุ่น

เกิดใหม่: 5 แข้งเจลีกย้ายทีมแล้วระเบิดฟอร์ม

 

เป็นปกติในโลกฟุตบอลที่ย่อมมีนักเตะที่ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงเสมอ และมีหลายคนที่แทบไม่มีโอกาสเล่นกับสโมสร จนถูกปล่อยให้ไปเล่นกับทีมอื่น ซึ่งภายใต้ต้นสังกัดใหม่ มีจำนวนไม่น้อยที่ทำผลงานเด่นจนก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมใหม่ และนี่คือ 5 แข้งที่เป็นส่วนเกินในต้นสังกัดเก่า แต่กลับกลายเป็นตัวหลักให้สโมสรใหม่ในการแข่งขันฟุตบอลเจลีกประจำฤดูกาล 2018

กด Next เพื่ออ่าน

 

คิม จยอง ยา - เวกัลตะ เซนได

แม้กองหลังวัย 29 ปีจะถือสัญชาติเกาหลีใต้ ทว่าเจ้าตัวกลับไม่เคยผ่านการเล่นฟุตบอลในประเทศบ้านเกิดเลย ซึ่งคิมเลือกเดินเส้นทางลูกหนังอาชีพหนแรกกับกัมบะ โอซากา มาตั้งแต่ปี 2011 ในวัย 23 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยพอดี ก่อนจะมีโอกาสสวมยูนิฟอร์มทัพเด็กสายฟ้าอยู่ 2 ซีซัน จากนั้นถูกปล่อยให้ซางัน โทซุ ยืมไปใช้งาน 1 ปี ทว่าก็ยังหาโอกาสแจ้งเกิดในเกมลูกหนังไม่ได้ แม้ช่วงเวลาที่กลับมาอยู่กับกัมบะรอบสอง ในฤดูกาล 2016 เจ้าตัวจะมีโอกาสลงเล่นในลีกมากถึง 28 เกม แต่พอเข้าสู่ฤดูกาล 2017 แข้งพลังโสมรายนี้กลับมีชื่อในเจลีกแค่ 15 นัด

ทันทีที่จบซีซันที่ผ่านมา เขาตัดสินใจหาโอกาสใหม่กับเวกัลตะ เซนได แม้ช่วงสามเกมแรกจะได้สัมผัสเกมเพียง 1 นาที ทว่าพอเข้าสู่นัดที่ 4 เขาเริ่มแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ยืนบัญชาเกมรับเหนียวไว้ใจได้ กลายเป็นผลงานช่วยทีมเสียเพียง 4 ประตู จากโอกาสลงเล่น 6 เกม หลังผ่านการแข่งมา 8 นัด และในขณะนี้เขากลายเป็นแกนหลักช่วยทีมรั้งรองจ่าฝูงของตารางอยู่ในขณะนี้

 

มูซาชิ ซูซูกิ - วีวาเรน นางาซากิ

หัวหอกร่างยักษ์ลูกครึ่งญี่ปุ่น-จาไมก้า ที่ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสยิงประตูใส่ทีมชาติไทย ในเกมเอเอฟซี U23 เมื่อปี 2016 มีโอกาสลงเล่นฟุตบอลอาชีพหนแรกในวัยเพียง 18 ปี กับอาบิเร็กซ์ นิงาตะ ในปี 2012 และเคยได้รับโอกาสลงสนามในลีกมากถึง 29 นัด เมื่อฤดูกาล 2014 อย่างไรก็ดี ปัญหาของเจ้าตัวคือจบสกอร์ไม่ค่อยเฉียบคมกับอัลบิเร็กซ์ จากผลงานที่ลงสนามให้ทีมจนถึงซีซันก่อนมากถึง 125 นัด เขายิงเพียง 15 ประตูเท่านั้น โดยเฉพาะในฤดูกาล 2017 ที่หอกเจ้าของส่วนสูง 185 เซนติเมตรทำเพียง 1 ประตู จากการเล่น 17 เกมร่วมกับทีม ก่อนถูกปล่อยให้มัตสึโมโต ยามากะ ทีมในเจทูยืมไปใช้งานต่อในเลกสอง แต่กลับไม่มีชื่อทำประตูให้ทีมเลยตลอดโอกาสลงเล่น 9 เกม ส่งผลให้เขาไม่ได้รับการต่อสัญญากับนิงาตะออกไป ก่อนจะเป็นวีวาเรน นางาซากิ น้องใหม่เจลีก 2018 ดึงมาเสริมอาวุธแนวรุกต่อ

แม้ผลงานของนางาซากิตลอด 8 นัดของทีมจะเก็บได้เพียง 8 แต้มจาก 8 เกม แต่หากมองเจาะไปยังฟอร์มของแข้งลูกครึ่งรายนี้ เจ้าตัวมีสถิติลงสนามให้ทีมไปแล้วถึง 7 นัด แบ่งเป็นตัวจริงถึง 4 นัด พร้อมผลงาน 3 ประตู หนึ่งในนั้นคือการซัดประตูชัยพาทีมอัดชิมิสุ เอสพัลส์ 1-0 เก็บสามแต้มบนลีกสูงสุดเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรมาแล้ว

 

พาร์ค จยอง ซู - คาชิวา เรย์โซล

อีกหนึ่งดาวเตะจากแดนโสมขาวที่ตัดสินใจย้ายมาเล่นฟุตบอลอาชีพในดินแดนอาทิตย์อุทัย โดยสโมสรแรกที่ให้โอกาสเจ้าตัวหลังจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยคือโยโกฮามา เอฟ มารินอส ซึ่งแข้งวัย 23 กะรัตมีโอกาสอยู่ลงเล่นในถิ่นนิสสัน สเตเดียมอยู่ 2 ฤดูกาล แต่โอกาสส่วนใหญ่คือการสตาร์ทในฐานะตัวสำรอง และมีสถิติลงสนามให้ทีมไปเพียง 46 เกมเท่านั้น ก่อนจะตัดสินใจย้ายมาหาประสบการณ์ใหม่กับคาชิวา เรย์โซล ในฤดูกาลปัจจุบัน

เพียงโอกาสแรกในยูนิฟอร์มเจ้าชายสุริยะ พาร์คได้โอกาสลงสนามช่วยทีมในเกมลีกนัดสองเต็มเวลา ก่อนจะค่อยๆเรียนรู้และปรับตัวกับทีมใหม่จนกลายเป็นขุมกำลังหลักมีชื่อลงสนามในลีกไปแล้วถึง 6 เกม แถมยังเป็นการลงเต็ม 90 นาทีครบทุกนัดอีกด้วย

 

โทชิยูกิ ทากากิ - เซเรโซ โอซากา

อดีตตัวรุกทีมชาติญี่ปุ่นชุดอายุไม่เกิน 18 และ 19 ปี มีช่วงเวลาการแจ้งเกิดในการเล่นฟุตบอลอาชีพกับชิมิสุ เอสพัลส์ ทีมที่อยู่ค้าแข้งตั้งแต่ปี 2011-2014 จากผลงานที่อยู่รับใช้ทีมมากกว่า 150 เกม ก่อนจะถูกอูราวะ เรดส์ ยักษ์ใหญ่ร่วมลีกดึงมาเสริมทัพเมื่อปี 2015 แม้ปีแรกจะได้โอกาสลงสนามไม่บ่อย ทว่าในปีต่อๆมากับทีมจากไซตามะ ทากากิกลับเริ่มได้โอกาสลงเล่นร่วมกับทีมน้อยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะในปี 2017 ที่สโมสรฉายา “ปีศาจแดงแห่งเอเชีย” คว้าแชมป์เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เขามีส่วนร่วมในเกมถ้วยเอเชียเพียง 6 จาก 14 เกมเท่านั้น อีกทั้งโอกาสในลีกก็แทบไม่ต่างกัน เพราะตลอดการแข่ง 34 เกม ดาวเตะวัย 26 ปี มีชื่อเล่นเพียง 12 เกม กับอีก 1 แอสซิสต์ ก่อนจะหมดสัญญากับทีม และตัดสินใจย้ายมาอยู่กับเซเรโซ โอซากา

กับโอกาสในถิ่นพลพรรคทัพซากุระ ทากากิถูกส่งลงเล่นตั้งแต่นัดประเดิมฤดูกาล ก่อนได้รับความเชื่อใจลงสนามไปแล้ว 7 เกม พร้อมกับการทำ 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ ขณะที่ผลงานใน ACL แนวรุกเบอร์ 13 ก็มีชื่อเล่นมากถึง 4 นัด และมี 1 แอสซิสต์ช่วยทีมคว้าชัยเหนือเจจู ยูไนเต็ด ตั้งแต่เกมแรก

 

โคจิ มิโยชิ - คอนซาโดเล ซัปโปโร

เนื่องจากแผงแนวรุกของคาวาซากิ ฟรอนทาเล มีผู้เล่นแกนหลักประสบการณ์สูงทั้ง เคงโงะ นาคามูระ, ยู โคบายาชิ หรือแม้แต่ อะกิฮิโร อิเอนากะ คอยขวางทางดาวโรจน์วัย 21 ปี ส่งผลให้ตลอดฤดูกาล 2017 เขามีส่วนร่วมกับทีมชุดคว้าแชมป์ลีกเพียง 13 เกม และมีโอกาสเล่นตัวจริงเพียง 6 นัดเท่านั้น ก่อนจะถูกปล่อยให้ คอนซาโดเล ซัปโปโร ยืมมาใช้งานเสริมกระดูกต่อในฤดูกาล 2018

และด้วยดีกรีของมิโยชิ ที่เป็นถึงผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่นชุดเตรียมทำศึกโอลิมปิกโตเกียว 2020 กอปรกับผลงานส่วนตัวทั้งกับฟรอนทาเลและทีมชาติญี่ปุ่นชุดเล็ก เขาได้รับความไว้วางใจจากมิไฮโล เปโตรวิชลงสนามเป็นทำเกมรุกอยู่หลังกองหน้าครบทั้ง 8 เกม และในฐานะผู้เล่นตัวจริง โดยในขณะนี้มิโยชิมีชื่อทำแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูไปแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือจังหวะครอสบอลเข้าในให้ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทำประตูแรกในเจลีก