ฟุตบอลไทย ทีมชาติไทย

ดีขึ้น ? หรือแย่ลง ?: 5 สิ่งที่เปลี่ยนไปของช้างศึกในยุค “ราเยวัช”

เป็นจำนวน 10 เกมพอดีสำหรับการเข้ามาคุมทีมของ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย เข้ามาคุมทีมชาติไทยนัดแรกในเกมที่บุกไปเยือนอุซเบกิสถาน จนถึงเกมล่าสุดในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่ 46 ที่กับสโลวาเกีย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ภายใต้การคุมทีมของเฮดโค้ชชาวเซอร์เบียผู้นี้

 

กด NEXT เพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

เกมรับที่เหนียวแน่นขึ้น

สิ่งที่เห็นได้ชัดหลังจากการเข้ามาคุมทีมของมิโลวาน ราเยวัช นั้นคือทีมชาติไทยมีเกมรับที่เหนียวแน่นขึ้น ด้วยการใช้งานคู่เซนเตอร์ที่เพิ่งเรียกมาติดทีมชาติเป็นครั้งแรกในยุคของเขา อย่าง พรรษา เหมวิบูลย์ และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ที่ไม่เคยติดทีมชาติไทยมาก่อน ถูกเรียกมาเล่นและสามารถจับคู่กันได้อย่างลงตัว ในส่วนของแบ็กทั้งสองข้างมักจะไม่ได้รับอนุญาตให้เติมเกมก่อนในช่วงที่เกมยังเสมอกันอยู่ รวมไปถึงการเพิ่มมิดฟิลด์ เชิงรับอย่างธรรมชาติลงไปสำหรับไล่ทำลายเกมแดนกลางของ คู่ต่อสู้ ทำให้ที่ผ่านมาเราเห็นได้ว่า ฟอร์มการเล่น ของฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ถูกวางให้เล่นเกมรับแบบกัดไม่ปล่อยตั้งแต่แดนกลางนั้นสามารถแบ่งเบาภาระงานของแนวรับได้ ทำให้ตั้งแต่คุมทีมมา ทีมเสียประตูเยอะที่สุดใน 1 เกมแค่ 3 ประตูเท่านั้น ซึ่งนั้นคือเกมที่เจอกับ สโลวาเกีย ที่มีอันดับโลกสูงกว่าทีมชาติไทย 100 อันดับอย่างพอดิบพอดี ถือว่าทีมชาติไทนพัฒนาเพื่อการยกระดับทีมไปเล่นกับทีมที่แกร่งแข็งกว่าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรายการสำคัญอย่างศึกเอเชี่ยนคัพที่กำลังจะเดินทางมาถึง

เล่นเพื่อเน้นผลการแข่งขัน

หลังจากที่กุนซือชาวเซอร์เบียเข้ามาคุมทีมชาติไทย สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนและค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปคือระบบและรูปแบบการเล่น ที่ลงเล่นเพื่อเน้นผลของการแข่งขันมากขึ้น แม้ว่าจะมีเกมที่พลาดท่าเสียประตูในช่วงท้ายเกมทั้งเกมกับ ยูเออี และ อิรัก รวมไปถึง ออสเตรเลีย แต่สิ่งที่สังเกตุได้คือนักเตะทีมชาติไทยมีสามธิกับเกมของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะรูปแบบการเล่นที่ออกมาชัดเจนว่าต้องการเล่นในรูปแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งรับเพื่อรอโต้กลับเร็ว หรือการเปิดเกมบุกในขณะที่ทีมต้องการประตู  รวมไปถึงการครอบครองบอลที่ทีมชาติไทย ครองบอลเหนือกว่า คู่แข่งที่อันดับเหลือกว่าในสองเกมหลังสุดทั้ง กาบอง และ สโลวาเกีย และตัวอย่างที่ชัดเจนคือ เกมกับสโลวาเกีย ที่ทีมช้างศึกจะต้องเปิดเกมรุกในขณะที่สกอร์ตามหลัง และทีมสามารถทำประตูไล่มาได้ แม้ว่าจะเสียสมาธิทำให้เสียประตูได้ง่าย แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของการวางระบบและแท็คติกให้กับบรรดาแข้งช้างศึกในอนาคตต่อไป

เปิดโอกาสให้นักเตะหน้าใหม่เสมอ

ในทุกสัปดาห์ภาพที่เราเห็นกันอย่างเจนตาคือทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชของ มิโลวาน ราเยวัช ที่เดินทางไปค้นหานักเตะทีมชาติไทย ที่สามารถเล่นเข้ากับแท็คติกของพวกเขาได้ เข้ามาสู่ทีมเสมอๆ ทำให้ในการประกาศรายชื่อนักเตะทีมชาติในแต่ละครั้งเราจะเห็นนักเตะหน้าใหม่ที่ถูกเรียกมาติดทีมชาติไทยเป็ยครั้งแรกร่วมทัพมาด้วยเสมอ อย่างเช่นในศึกคิงส์คัพครั้งที่ 46  ทีมประกาศเรียก นิติพงษ์ เสนานนท์ แบ็กขวาจอมลุยจาก การท่าเรือมาร่วมทีม แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้โอกาสลงเล่น เช่นกันกับ ชินภัทร ลีเอาะปราการหลังจากเชียงราย ยูไนเต็ด ที่ก่อนหน้านี้เคยเล่นเพียงแค่ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ก็ถูกเรียกมาติดทีมชาติในครั้งนี้เป็นครั้งแรกเช่นกันแต่ก็ไม่ได้รับโอกาส แต่อย่างก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการลงฝึกซ้อมในแคมป์ทีมชาติไทยกับรุ่นพี่

รักษาโมเมนตัมของเกม

สำหรับผลงานการคุมทีมชาติไทยของ มิโลวาน ราเยวัช ที่เห็นได้ชัดอีกอย่างคือการรักษาโมเมมตัมของเกม ไม่ให้ตกเป็นรองไปตลอด 90 นาที แม้ว่าทีมจะเสียประตู ก่อนแต่เราก็จะเห็นนักเตะไทย ยังมีสมาธิกับเกม ก่อนที่จะเปลี่ยนรูปแบบการเล่น ไม่ว่าจะเป็นการเจอกับ อุซเบกิสถาน ที่เป็นเกมแรกแม้ว่าสภาพทีมจะไม่พร้อมแต่ก็ถือว่าสู้ได้ดี และเกมที่เล่นกับ อิรัก, ออสเตรเลีย รวมไปถึง สโลวาเกีย ในเกมล่าสุดที่เราจะเห็นนักเตะไทย สามารถกลับมาไล่ตามได้ทุกครั้งแม้ว่า จะไม่สามารถกลับมาเสมอหรือเอาชนะได้ แต่ยังไม่ให้รูปเกมขาดลอยเหมือนอย่างเช่นยกตัวอย่างในเกมที่ไทยบุกไปโดน อิรัก ต้อนขาดลอยในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกด้วยสกอร์ 4-0 เป็นต้น

ได้ใช้งานนักเตะจากต่างแดน

ถือว่ากุนซือชาวเซอร์เบียเข้ามาคุมทีมชาติไทยในจังหวะที่ยอดเยี่ยม และทำให้เขาได้ใช้งานนักเตะทีมชาติไทย ที่ออกไปค้าแข้งยังต่างแดนพอดี พร้อมกันถึง 4 คนซึ่งทั้ง 4 ล้วนแต่ได้ค้าแข้งในลีกที่แข็งแกร่ง และสามารถพัฒนาฝีเท้าของพวกเขาได้ในทุกๆสัปดาห์รวมไปถึงการเปิดรับทัศนคติใหม่ๆในการฝึกซ้อมจากการเจอกับวัฒนธรรมใหม่ แน่นอนว่าสิ่งนี้ย่อมส่งผลถึงบรรยากาศในห้องแต่งตัวของนักเตะ ในสนามซ้อม และในสนามแข่งขัน อย่างที่เราเห็นสามสามแข้งจากเจลีกมีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมขึ้น รวมไปถึงกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ไปเล่นในลีกรองของเบลเยียม ก็มีพัฒนาการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในอนาคต มิโลวาน ราเยวัช อาจจะสนับสนุนให้นักเตะทีมชาติไทยกล้าออกไปค้าแข้งยังต่างแดนมากขึ้น