ทีมชาติไทย แชมป์เก่าผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์กับทีมแกร่งจากทวีปยุโรปอย่าง สโลวาเกีย หลังดวลจุดโทษเอาชนะ กาบอง หลังจากที่เสมอกันในเกมไปด้วยสกอร์ 0-0 โดยได้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ สวมบทฮีโร่ เซฟลูกโทษ 2 ลูกจนทำให้ทีมผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จด้วยสกอร์ 4-2 และนี่คือคะแนนความสามารถของนักเตะทุกคน
ตัวจริง
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ 8 :นายทวารที่มีประสบการณ์ระดับยุโรปมาแล้วกับโอเอช ลูเวิน เจอกับงานที่ไม่หนักมากในช่วงครึ่งแรก แต่ก็ยังมีสมาธิกับเกมเสมอ ไม่มีข้อผิดพลาดในจังหวะออกมาตัดบอลจากลูกโด่ง และกลายเป็นฮีโร่ในช่วงดวลจุดโทษเพราะเซฟลูกยิงของกาบองได้ถึง 2 ลูกช่วยให้ไทยเอาชนะไปได้ในที่สุด
ฟิลิป โรลเลอร์ 6 :แบ็กลูกครึ่งได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในยุคของราเยวัช ถือว่ารับผิดชอบพื้นที่ในด้านกราบขวาของตัวเองได้ดี แทบจะตลอดทั้งเกมที่ไม่แสดงข้อผิดพลาดออกมาให้เห็น
เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว 7 :ยังไว้ใจได้กับการเล่นลูกกลางอากาศผนึกกำลังกับพรรษาได้ดี มีทีเด็ดจากจังหวะเติมขึ้นไปเล่นลูกตั้งเตะและเกือบทำประตูได้ในท้ายครึ่งแรก ครึ่งหลังงานค่อนข้างเบาลงเพราะบอลอยู่กับไทยเป็นส่วนใหญ่
พรรษา เหมวิบูลย์ 8 :สกัดบอลได้ดีในหลายจังหวะ โดยเฉพาะลูกกลางอากาศ และการป้องกันลูกครอสจากด้านข้าง ช่วงท้ายครึ่งแรกเติมขึ้นไปเล่นเกมรุก ทั้งสร้างโอกาสให้เพื่อน และจังหวะยิงไกลที่เกือบทำประตูให้ทีมออกนำ
พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา 6:ในตอนแรกถือว่าเจอกับงานที่เบาในการเล่นเกมรับทำให้มีโอกาสได้เติมเกมรุกขึ้นมาประสานงานกับ ธีราทร และ ชนาธิป ที่ถ่างออกมาทางซ้ายเรื่อยๆ ครึ่งหลังมีโอกาสได้เติมขึ้นมาบ่อยขึ้นและเกือบทำประตูได้
จักรพันธ์ แก้วพรม 6 :พยายามที่จะขยับมาเชื่อมเกมกับฐิติพันธ์ กลางที่จะเปิดเกมรุก ไม่โดดเด่นมากนักแต่ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ก่อนจะถูกถอดออกเป็นคนแรก
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ 8 :ห้องเครื่องจากบางกอกกล๊าส เอฟซีค่อนข้างที่จะโดดเด่นในการคุมเกมแดนกลางของไทย รวมไปถึงการไล่บี้ตัดเกมจากมาริโอ เลอมิน่า ได้สนุกในช่วงแรก เป็นพลังในการขับเคลื่อนเกมแดนกลางของไทย ใช้ความขยันและทุ่มเท ตัดเกมแดนกลางของกาบองจนแนวรุกกาบองทำอะไรไม่ถนัด
มงคล ทศไกร 6 :ปีกจอมขยันที่มักจะเป็นตัวเลือกแรกของ ราเยวัชเสมอ มีบทบาทน้อยในช่วงแรกก็เอาจุดเด่นในเรื่องความขยันมาช่วยบีบพื้นที่กดดันแนวรับกาบอง และมีจังหวะสอดมาทำประตูแต่น่าเสียดายที่ยังทำไม่ได้ในครึ่งแรก ครึ่งหลังแนวรับของกาบองเปิดพื้นที่ให้เยอะ และมีส่วนร่วมเยอะขึ้นแต่ว่า โชคร้ายบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว
ชนาธิป สรงกระสินธ์ 7 :มิดฟิลด์ตัวรุกพยายามใช้ความเร็วและความคล่องตัวทะลุทะลวงจากตรงกลางโดยเฉพาะจังหวะโต้กลับ แม้จะได้บอลน้อยแต่ว่าการได้บอลแต่ละครั้งค่อนข้างวูบวาบกล้าเล่นกล้าพลิกบอล แต่จังหวะจ่ายบอลทีเด็ดขาดยังขาดๆเกินๆ ครึ่งหลังลงไปล้วงบอลต่ำลงแต่ทำให้มีบทบาทในการสร้างเกมที่ชัดเจนขึ้นทันทีท้ายเกมถูกถอดออกและแทนที่ด้วยสิโรจน์ ฉัตรทอง
ธีราทร บุญมาทัน 7 :จากแบ็กซ้ายอาชีพถูกมิโลวาน ราเยวัช ดันขึ้นไปเล่นเป็นตัวรุกข้างบนตอนแรกยังดูไม่ลงตัวในจังหวะประสานงาน กับเพื่อนร่วมทีมมากนัก ครึ่งหลังถอยตัวเองลงมาต่ำแล้วอาศัยจุดเด่นจากการออกบอลที่แม่นยำสร้างเกมให้ทีม
ธีรศิลป์ แดงดา 6 :ช่วงต้นเกมโดนทิ้งให้โดดเดี่ยว เพราะบอลยังมาไม่ค่อยถึง เลยทำให้แทบจะหาจังหวะสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนและตัวเอง ครึ่งหลังผลงานก็ยังถือว่าไม่โดดเด่นนัก แต่ก็ยังอันตรายเมื่อได้บอลในพื้นที่สุดท้ายแต่น่าเสียดายที่ได้บอลน้อยเกินไปจนแทบจะหายไปจากเกม
ตัวสำรอง
บดินทร์ ผาลา 6 :ลงสนามมาเป็นตัวสำรองคนแรกแทนที่ จักรพันธ์ แก้วพรม เกือบยิงประตูให้ทีมชาติไทยออกนำได้ แต่น่าเสียดายที่จังหวะไขว้บอลเบาเกินไป
นูรูล ศรียานเก็ม 7 : ลงมาแทนที่ของมงคล ทศไกร ใช้ความเร็วโจมตีแนวรับของกาบองที่มีช่องว่างได้ดี ในจังหวะจ่ายให้บดินทร์ ที่เกือบทำให้ไทยได้ประตูออกนำ รวมไปถึงโอกาสทองจากบอลที่ธีราทร จ่ายมาให้ที่เขาชิพไปติดผู้รักษาประตู
สิโรจน์ ฉัตรทอง* : ได้ลงมาเป็นตัวสำรองคนสุดท้ายแทนที่ชนาธิป สรงกระสินธ์ มีโอกาสได้บอลและพยายามจะลุยแต่ยังไม่ดีพอจะผ่านแนวรับกาบอง มีเวลาน้อยเกินไปที่จะทำผลงาน