3 นักเตะไทยยังเดินหน้าทำผลงานในเจลีก แม้ว่าสัปดาห์นี้ ธีราทร บุญมาทัน จะไม่ได้ลงสนามให้กับ วิสเซล โกเบ หลังจากที่มีชื่อเป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกส่งลงสนาม ส่วนทางฝั่ง แต่ชนาธิป สรงกระสินธ์ ตามหาประตูแรกเจอแล้วหลังโขกประตูให้ คอนซาโดเล ซัปโปโร ในเกมบุกเสมอ เซเรโซ โอซก้า ที่คินโช สเตเดี้ยม และ ธีรศิลป์ แดงดา ยังได้ลงสนามเป็นตัวจริงต่อเนื่องให้ ซานเฟรซเช ฮิโรชิม่า และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจ
กด NEXT เพื่อร่วมติดตามไปกับเรา
ครั้งแรกทุกอย่างของชนาธิปเกิดที่คินโช สเตเดียม
รังเหย้าของเซเรโซ โอซาก้า กลายเป็นสนามสุดพิเศษของนักเตะไทยคนแรกในเจลีกอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะทุกๆอย่างครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นที่สนามแห่งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการลงสนามในฟุตบอลญี่ปุ่นครั้งแรก เมื่อถูกส่งลงสนามในฟุตบอลูวาน คัพที่สนามแห่งนี้ และแอสซิตส์แรกในเจลีกของเขาก็เกิดขึ้นที่สนามแห่งนี้อีกจากจังหวะจ่ายให้ ไดกิ ซุงะ ยิงประตู แถมประตูแรกในเจลีกก็มาเกิดขึ้นที่สนามแห่งนี้อีก เมื่ออดีตแข้งเมืองทองโขกประตูตีไข่แตกให้ทีมไล่มาและสุดท้ายกลายเป็น 1 คะแนนสำคัญของคอนซาโดเล ซัปโปโร จากเกมนี้เมื่อบุกไปเสมอด้วยสกอร์ 3-3 ซึ่งแน่นอนว่านอกจากซัปโปโร โดม รังเหย้าของต้นสังกัดของเขาแล้วคินโช สเตเดียมจะเป็นสนามที่อยู่ในความทรงจำของเขาอย่างแน่นอน
บุญจังไม่ได้แม้แต่โอกาส
ในบรรดาสามนักเตะไทยในเจลีก ดูแล้ว ในรายของธีราทร บุญมาทัน จะเจอกับงานที่หนักหนาที่สุดในการแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีม วิสเซล โกเบ เพราะในเกมแรกเขาเป็นนักเตะไทยคนเดียวที่ไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง แต่ก็ยังพอที่จะได้ลงสนามมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกมบ้าง แต่ในเกมสัปดาห์นี้ที่ต้นสังกัดของเขาลงสนามพบกับ ชิมิสุ เอสพัลส์ ถือเป็นเกมในบ้านเกมแรก แต่ว่า “บุญจัง” มีชื่อเป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น และจนครบ 90 นาทีเต็มเขาไม่ได้โอกาสลงสนามไปวาดลวดลายแม้แต่นาทีเดียว ถือว่าน่าผิดหวัง และเส้นทางการเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงยังคงต้องดำเนินต่อไป และแบ็กซ้ายเบอร์หนึ่งทีมชาติไทยจะต้องทำงานหนักในสนามซ้อมต่อไป
ธีรศิลป์ได้โอกาสต่อเนื่อง
หากวัดจากผลงานของธีรศิลป์ แดงดา ในเกมแรกกับ คอนซาโดเล ซัปโปโร แล้วไม่มีเหตุผลอะไรที่คนที่ยิงประตูชัยให้ทีมและคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์จะไม่ได้โอกาสในการลงสนามเป็นตัวจริงนอกจากมีอาการบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ซึ่งโชคดีที่หัวหอกชาวไทยไม่ใช่ทั้งสองอย่างเลยได้ลงสนามเป็น 11 ตัวตัวในเกมนี้อย่างต่อเนื่องและเป็นการเจอกับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง อุราวะ เรดส์ ไดมอนส์ แต่เกมนี้หัวหอกชาวไทยไม่ได้คายพิษสงอะไรมากนัก และมีโอกาสที่จะได้เล่นกับบอลน้อยก่อนที่จะถูกถอดออกจากสนามและคนที่ลงสนามไปแทนเขาอย่าง โคเซอิ ชิบาซากิ เป็นคนพังประตูตีเสมอให้ทีม และได้โช อินางาอิ มาพังประตูชัย ให้ ซานเฟรซเช ฮิโรชิม่า เก็บ 6 คะแนนเต็มจาก 2 เกมแรก
ทุกคนจะเจอบททดสอบที่ยากขึ้นเรื่อยๆ
2 นักเตะไทยจากทั้งหมด 3 คนในเจลีกฤดูกาลนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้นในการพังประตูแรกในเจลีกฤดูกาลใหม่ ถือว่าเป็นการคลายความกดดันได้เป็นอย่างดี แล้วแต่ว่าในเกมข้างหน้าพวกเขาจะเจอกับบททดสอบที่ยากเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าบรรดาคู่แข่งเริ่มจะศึกษาแนวทางการเล่นของพวกเขา และเตรียมการรับมือเอาไว้เป็นพิเศษ อย่างที่ ฮิโรชิ โจฟุคุ กุนซือทีม ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ออกมากล่าวหลังจบเกม ว่าเกมนี้ลูกทีมของเขาอย่าง ธีรศิลป์ นั้นเจอกับงานที่ยากกว่าเกมแรกที่เขายิงประตูคอนซาโดเล ซัปโปโร ได้เพราะไม่ถูกประกบ แต่ว่าเกมกับ อุราวะ เรดส์ นั้นเขาถูกประกบติดมากขึ้นทำให้หาจังหวะทำอะไรยากขึ้นจนสุดท้ายถูกถอดออกจากสนาม และเกมต่อๆไปคาดว่าทุกอย่างจะไม่ง่ายสำหรับนักเตะไทยทั้งหมดเช่นกัน
เมสซี่เจจะได้เล่นเกมรุกอย่างสนุกมากขึ้น
ในฤดูกาลที่ผ่านมาชนาธิป สรงกระสินธ์ ร่วมงานกับ ชูเฮ โยโมดะ ซึ่งเป็นกุนซือประเภทเน้นความแน่นอนและรัดกุมเอาไว้ก่อน อย่างที่เราได้เห็นในหลายเกมของคอนซาโดเล ซัปโปโร พวกเขามักจะเล่นแบบเน้นเกมรับและรอจังหวะโต้กลับเร็ว ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าหลายเกม ชนาธิป นั้นถูกลดบทบาทและความสำคัญในเกมลงไป แต่ใน ซีซั่นนี้ทีมประกาศแต่งตั้ง มิไฮโล เปรโตวิช มาคุมทัพซึ่งกุนซือชาวเซอร์เบียมักจะเน้นเกมรุกมากขึ้น อย่างที่เห็นในเกมกับเซเรโซ โอซาก้า ที่ทีมเปิดเกมรุกจนพลิกสถานการณ์จากประตูตามหลัง 2-0 กลับมาตีเสมอ 2-2 แต่ว่ายังไม่พอใจกับ 1 คะแนนและพยายามลุยต่อจนสุดท้ายโดนเจ้าบ้านโต้กลับเร็วและ โยอิจิโร คาคิตานิ ยิงประตูให้ เซเรโซ ออกนำ 3-2 แต่ทีมก็มาได้ เรียวซึเกะ ชินโด ที่พังประตูตีเสมอได้ ก็พอจะมองเห็นแนวทางว่า กุนซือคนใหม่ชื่นชอบเกมบุกขนาดไหน ซึ่งดาวเตะชาวไทยที่เป็นตัวรุกโดยธรรมชาติน่าจะเล่นเกมบุกได้สนุกขึ้น