“เปาอ้อ” พัณณิภา คำนึง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน เผยเตรียมใช้ ระบบ AAR หรือ Additional Assistant Referee ทำหน้าที่หลังประตูในการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ในสุดสัปดาห์นี้จำนวน 3 คู่
โดยระบบดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้ในการแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญๆ หลายรายการในช่วงที่ผ่านมา เพื่อช่วยตัดสินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณกรอบเขตโทษ อาทิ การทำแฮนด์บอล, การทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ รวมถึง การตัดสินบอลข้ามเส้น
ด้านหัวหน้าฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน กล่าวว่า “เรื่องความพร้อม AAR ถือว่าพร้อมพอสมควร เพราะช่วงเราได้เดินทางไปอบรมที่ ประเทศตุรกี เราได้ทำการฝึกซ้อม AAR ทุกแมตช์กระชับมิตรที่นั่น เพราะฉะนั้นผู้ตัดสินน่าจะมีความพร้อม ซึ่งคนที่จะมาทำหน้าที่ผู้ตัดสินที่ 5 และ 6 หลังประตู ก็จะเป็นคนที่ผ่านการอบรมที่ประเทศตุรกีมาแล้วเท่านั้น”
“การทำหน้าที่ AAR แตกต่างจากไลน์แมน เพราะต้องวิเคราะห์เหตุการณ์ทั้งหมด และช่วยเหลือผู้ตัดสินหลักที่อยู่ในสนาม ซึ่งการใช้ AAR นั้นเราคงจะใช้แค่บางคู่เท่านั้น ในคู่ที่สำคัญๆ โดยผ่านการพิจารณาจาก ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ให้เกิดความเหมาะสม เพราะต้องเข้าใจว่าระบบดังกล่าวยังอยู่ในช่วงการทดลอง และหากเราเลือกที่จะใช้ทุกคู่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงพอสมควร”
“เราไม่กังวลเรื่องการใช้ AAR แม้แต่น้อย เพราะคนที่ไปทำหน้าที่ต่างได้รับการฝึกอบรมมาแล้ว ขาดเพียงแต่ประสบการณ์ที่จะทำหน้าที่ในประเทศไทย ถ้าหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น แน่นอนว่าเราต้องนำเอาวีดีโอการแข่งขันมาตรวจสอบอีกครั้งว่ามันผิดพลาดตรงไหน เราไม่รู้ว่าระบบ AAR จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน แต่เราเชื่อว่าทุกคนที่ผ่านการอบรมต่างพร้อมและมั่นใจที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด” เปาอ้อ กล่าว
สำหรับคู่ที่จะมีการใช้ระบบตัดสิน AAR จะมีทั้งสิ้น 3 คู่ ได้แก่ คู่เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ การท่าเรือ เอฟซี คู่ที่สอง โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และอีกคู่ได้แก่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี
