ฟุตบอลไทย เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก

FIVE SWEET SPOTS: :5 ประเด็นน่าสนใจหลังปราสาทเปิดหัวบุกแบ่งแต้มกว่างโจว

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนหนึ่งเดียวจากไทย ในฐานะแชมป์ไทยลีก  ประเดิมศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยส์ลีกด้วยการบุกไปคว้าแต้มจาก ทีมแชมป์ไชนีส ซูเปอร์ลีก  อย่าง กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ที่สนามเทียนเหอ สเตเดียม แม้ว่าจะตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อนเมื่อเจ้าบ้านได้ประตูจาก  ริคาร์โด กูลาร์ต ตั้งแต่นาทีที่ 17 แต่ทีมเยือน ก็มาได้ซูเปอร์ซับอย่าง เอ็ดการ์ บรูโน่ ดาซิลโว ลงมาพลิกเกมและยิงประตูตีเสมอ ให้ทีมประเดิมคว้าแต้มแรกด้วยสกอร์ 1-1 และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจหลังเกมนี้

 

กด NEXT เพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

ยังคงเปิดตัวได้สวย

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มักจะประเดิมสนามในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยส์ลีกในรอบแบ่งกลุ่มได้ยอดเยี่ยมเสมอ โดยที่ผ่านมาพวกเขาลงเล่นในรายการนี้ทั้งหมด 6 ปี มีเพียงแค่ ในปี 2016 ครั้งเดียวเท่านั้นที่ประเดิมสนามในรายการนี้ด้วยความพ้ายแพ้ต่อ เอฟซี โซล ด้วยสกอร์ขาดลอย 0-6 และยังมาเสียตัวหลักอย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ที่บาดเจ็บหัวไหล่ ทำให้ผลงานในปีนั้นพวกเขาเก็บได้แค่ 1 คะแนนจากรอบแบ่งกลุ่มซึ่งถือว่าเป็นปีที่ทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุด แต่ในปีนี้ ปราสามสายฟ้า เปิดตัวในเกมแรกด้วยการบุกมาคว้าแต้มจากแชมป์ไชนีส ซูเปอร์ลีก ด้วยสกอร์ 1-1 ทั้งๆที่ตกเป็นรองก่อน แต่จากการแก้เกมครึ่งหลังที่ โบซิดาร์ บันโดวิช คิดเร็วทำเร็วด้วยการส่ง เอ็ดการ์ บรูโน่ ลงมาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกมทั้งการยิงประตูตีเสมอ และสร้างโอกาสจนทีมเกือบเอาชนะ  

หยุดสถิติเลวร้ายเกมเยือน

สำหรับการมีคะแนนในการเล่นเป็นทีมเยือนของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในถ้วยใบนี้ต้องย้อนไปถึงปี 2015 ที่พวกเขาบุกไปแบ่งแต้มกับ กัมบะ โอซาก้า จากลูกฟรีคิกสุดสวยของ  ธีราทร บุญมาทัน ที่ตอนนี้ไปค้าแข้งให้ วิสเซล โกเบ หลังจากนั้น ยอดทีมจากอีสานใต้ ก็ไม่เคยคว้าแต้มจากการลงเล่นเป็นทีมเยือนได้อีกเลย โดยมีแต่สถิติแพ้รวด ซึ่งการบุกไปเอาแต้มจาก เทียนเหอ สเตเดียม ในเกมนี้ถือว่าเป็นการหยุดสถิติเลวร้ายในการเล่นเป็นทีมเยือนของพวกเขาลงได้ และต้องมาดูว่าจะเดินหน้าเก็บคะแนนจากการเล่นเป็นทีมเยือนที่ถือว่าเป็นของแสลงของทีมจากไทยได้มากน้อยแค่ไหนในรอบแบ่งกลุ่มปีนี้

ส่วนเกินที่อื่น ส่วนสำคัญที่นี่

ถือว่าเป็นดีลที่แฟนบอลของทั้ง บางกอกกล๊าส เอฟซี และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประหลาดใจไม่น้อยในการดึงตัว ประวีณวัช บุญยงค์ มาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว เพราะอดีตดาวซัลโว ซีเกมส์ กลายเป็นส่วนเกินในถิ่น ลีโอ สเตเดียม มาได้ซักพักใหญ่ๆแล้ว ในฤดูกาลที่แล้วก็ไม่มีที่ลงจนถูกปล่อยให้ การท่าเรือ ยืมตัวไปใช้งาน และทำท่าว่าจะไม่มีอนาคตกับทีมอีก จนถูกปล่อยยืมตัวมาแต่จากการลงเล่นเกมแรกในไทยลีกกับราชบุรี แล้ว ดูเหมือนว่าแม้จะเป็นส่วนเกินที่อื่น แต่เขาเป็นส่วนสำคัญที่นี่ โดยเฉพาะในเกมนี้ที่บุกไปเยือน กวางโจว ซึ่งเป็นเกมระบบทวีปเกมที่สองของเขาเท่านั้น หลังจากเคยลงเล่นรอบเพลย์ออฟรอบที่ 3 ให้กับบางกอกกล๊าส เอฟซี ในเกมที่บุกไปพ่าย ปักกิ่ง กั๋วอัน ซึ่งเกมนี้ อดีตกัปตันทีมชาติไทยชุดเยาวชนสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับอีกเกม สมกับโอกาสที่เขาได้รับจากบุรีรัมย์

 

อาวุธใหม่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในฤดูกาลที่ผ่านมา ชาคสัน โคเอลโญ หรือที่แฟนๆเรียกติดปากว่า ชาชา ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการยิงไปถึง 34 ประตู แต่ด้วยเหตุผลหลายอย่างทำให้ดาวยิงชาวแซมบ้ารายนี้ไม่ได้ไปต่อกับทีม และเลือกย้ายไปอยู่กับ คู่แข่งอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำให้ทีมปราสาทสายฟ้าต้องดึงตัว เอ็ดการ์ บรูโน่ ดาซิลวา จากจากเลคห์วิยา ทีมในลีกสูงสุดของกาตาร์ ซึ่งดีกรีของดาวเตะรายนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเพราะเคยติดทีมชาติบราซิลชุดอายุไม่เกิน 20 ปีมาแล้ว และเคยมีค่าตัวถึง 3.42 ล้านยูโร เมื่อครั้งย้ายจาก วิตอเรีย กิมาไรส์ ทีมในโปตุเกส ไปร่วมทีม อัล ชะบ๊าบ ทีมดังของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แถมเล่นให้ เซา เปาโล, วาสโก ดา กามา, เอฟซี ปอร์โต้ และเรด สตาร์ เบลเกรด มาแล้ว แต่ถึงกระนั้นแฟนบอลน่าจะยังสงสัยกับความสามารถของดาวเตะรายนี้อยู่แม้จะโชว์ฟอร์มได้ดีในเกมกับ ราชบุรี มิตรผล แต่ในเกมนี้ ที่เขาเป็นส่วนสำคัญทั้งการยิงประตูและสร้างโอกาส รวมไปถึงการเอาชนะในการดวลตัวต่อตัวได้มากถึง 7 ครั้งน่าจะตอบข้อสงสัยถึงความสามารถของเขากับแฟนบอลได้อย่างดี

โอกาสของดาวรุ่ง

ก่อนเริ่มฤดูกาลนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยประธานสโมสรอย่าง เนวิน ชิดชอบ ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะมอบโอกาสให้ับบรรดานักเตะดาวรุ่งในทีม ซึ่งทำให้เราได้เห็นนักเตะอย่าง สุภโชค สารชาติ และ รัตนากร ใหม่คามิ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนี้ นอกจากนี้โควตานักเตะสำรองอีกสองคนยังเป็นนักเตะที่อายุยังน้อยอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด และ ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่เพิ่งจะได้สัมผัสเกมในระดับเอเชียเป็นครั้งแรก และทั้งคู่ก็เกือบที่จะพังประตูทำให้ทีมเก็บสามแต้มกลับมาได้ โดยเฉพาะในรายหลังที่จังหวะโขกไปชนคานอย่างน่าเสียดาย ถือว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกมนี้ให้โอกาสดาวรุ่งได้อย่างที่พูดไว้ แต่ก็จับตาดูต่อไปว่า สุดท้ายแล้วนักเตะที่ได้รับโอกาสจะสามารถพิสูจน์ตัวเองและยืนระยะขึ้นมาเป็นตัวหลักได้ดีแค่ไหน