“ปีที่แล้วผลงานไม่ดี จริงๆองค์ประกอบมันมีหลายปัจจัย รวมไปถึงนักเตะมีอาการบาดเจ็บด้วย ซึ่งเราก็ไม่ได้โทษอย่างใดอย่างหนึ่ง รับผิดชอบร่วมกันทั้งหมด เรายังทำงานหนักไม่พอ” อนาวินเริ่มต้นกล่าวกับ ฟุตบอลไทรบ์ ประเทศไทย
“ส่วนความพร้อมในปีนี้ก็ถือว่าเข้าที่เข้าทางมากขึ้น แต่ในช่วงปรีซีซั่นผมดันต้องไปผ่าไส้ติ่ง ตอนนี้ก็โอเคแล้วครับ หลังจากนี้กลับไปรวมกับเพื่อนร่วมทีมก็น่าจะดีขึ้น เพราะว่าเท่าที่ดูบรรยากาศในทีม มีความเป็นกลุ่มเป็นก้อนมากขึ้น นักเตะที่เสริมเข้ามาก็เติมเต็มในส่วนที่ขาด”
โดยในช่วงเก็บตัวปรีซีซั่นที่ผ่านมา สุพรรณบุรีได้มีการปรับเปลี่ยนแท็กติก โดยจะเน้นวิงเป็นหลักมากขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลกระทบต่อตัวอดีตปีกทีมชาติไทยเลย เนื่องจากในช่วงหลังเขาได้เล่นในตำแหน่งวิงแบ็คมากขึ้นสมัยค้าแข้งให้กับปราสาทสายฟ้า ก่อนจะเป็นตำแหน่งที่ตัวเขาเองถนัดที่สุด ณ ตอนนี้
“ก่อนหน้านี้ผมเล่นกองหน้า และปีก ตั้งแต่เยาวชนทีมชาติ แต่พอย้ายไปอยู่บุรีรัมย์ ถูกจับไปยืนตรงวิงแบ็ค จนกลายเป็นวิงแบ็คอาชีพ เลยทำให้ไม่มีผลกระทบกับตัวเองเท่าไหร่ ค่อนข้างที่จะชินกับระบบด้วยซ้ำ”
หลังจากปีที่แล้วจบในอันดับเลขสองหลัก แม้ในส่วนนักเตะชาวไทย ทัพช้างศึกยุทธหัตถี แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ในส่วนของแข้งต่างชาตินั้น เรียกว่ายกเครื่องใหม่ยกแผง แถมยังได้แข้งที่เคยมีประสบการณ์ในไทยลีกอย่าง แอนเดอร์สัน ดอสซานโตส, ทาคาฟูมิ อากาโฮชิ หรือจะเป็น ซิลวาโน กอมฟาลิอุส ดาวซัลโวลีกสิงคโปร์ ที่รู้จักกับนฤพน พุฒซ้อน ตั้งแต่ตอนเด็ก ทำให้ทีมเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่าเห็นได้ชัด
“ในเรื่องของการเสริมนักเตะ ที่แข้งต่างชาติออกยกชุดไป ชุดเก่าก็มีข้อดีและข้อด้อย ทางผู้บริหารก็พยายามหาผู้เล่นที่มาแก้ไขในจุดที่เราขาดไป ก็พยายามเติมตรงจุดนั้นเข้ามา และก็เริ่มเห็นผลจากการฝึกซ้อมที่เราสัมผัสได้ และเกมอุ่นเครื่อง ดูจะมีทิศทางที่ดีขึ้น”
กด Next เพื่ออ่านต่อ