เป็นอันว่าทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ที่มีโซรัน ยานโควิช กลับบ้านหลังจากการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี ยู-23 แชมเปี้ยนส์ชิพ โดยไม่มีแต้มติดมือ จากผลงานพ่าย 3 เกมรวดให้กับ เกาหลีเหนือ, ญี่ปุ่น และ ปาเลสไตน์ ทีมล่าสุด และนี่คือ 5 บทเรียนที่ได้
กด NEXT เพื่อร่วมติดตามไปกับเรา
ผลงานด้อยกว่าเพื่อนบ้าน
ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เคยเป็นแชมป์ซีเกมส์ ที่มาเลเซีย เมื่อไม่นานมานี้ กลายเป็นทีมที่ไม่สามารถเก็บได้แม้แต่คะแนนเดียว ในรายการชิงแชมป์เอเชีย แต่เมื่อหันไปมองทีมเพื่อนบ้านในอาเซียนของเราอย่าง เวียดนาม ที่แพ้ให้เราในรอบแรกของซีเกมส์ ที่ทำผลงานสุดยอดด้วยการเอาชนะ ออสเตรเลีย ไปด้วยสกอร์ 1-0 และกำลังมีลุ้นเข้ารอบต่อไป ส่วน มาเลเซีย เจ้าภาพซีเกมส์ ที่พ่ายให้ช้างศึกไปในนัดชิงชนะเลิศ เพิ่งจะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายหลังจากที่เอาชนะ ซาอุดิอาระเบีย ไปด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทีมจากอาเซียนที่เคยเป็นทางผ่านของไทย สามารถทำผลงานได้ดี กว่าทีมชาติไทย มันถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะต้องโฟกัสเป้าหมายใหม่ที่มากกว่า แชมป์ซีเกมส์ หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ในขณะที่เพื่อนบ้านที่ไล่หลังกำลังทำท่าจะแซงหน้าเราไป
เกมรับที่น่าท้อใจ
แม้ว่าที่ผ่านมา นนท์ ม่วงงาม จะมีสถิติที่ดีแค่ไหน ในการลงเล่นให้กับทีมชาติไทยในซีเกมส์ หรือในระดับสโมสรที่ผ่านมา แต่ในเกมนี้นายทวารจาก โปลิส เทโร เอฟซี สิ้นท่าให้กับแนวรุกปาเลสไตน์ โดยที่เสีย 5 ประตูแบบหมดสิทธิ์ จะป้องกันได้ ก่อนเริ่มเกมนี้ ทีมชาติไทย ถูกมองว่ามีโอกาสที่จะเก็บแต้มได้ จากทีมที่ดูจะมีหลายๆอย่างที่ใกล้เคียงกัน แต่เป็นอีกครั้งที่แนวรับของทีมช้างศึกได้แสดงให้เห็นถึงจุดอ่อน ในการจัดการกับนักเตะที่มีความคล่องตัวที่เหนือกว่า รวมไปถึงความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า ผลคือไทยเสียประตูเร็วอีกครั้ง นำมาซึ่งการเร่งเกม และสุดท้ายผิดพลาดทั้งระบบ ทั้งการเสียบอลกลางทาง และยืนตำแหน่งผิดพลาดจนจบทัวร์นาเม้นท์ชิงแชมป์เอเชียด้วยความอับอาย จากการพ่ายขาดลอย 5-1
ไร้ตัวพลิกเกม
จริงอยู่ว่ากีฬาฟุตบอลคือกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม แต่ปกติแล้วในทีมฟุตบอลจะต้องมีนักเตะที่เป็นตัวความหวังของเกม ที่จะเป็นคีย์แมนพาทีมไปสู้ชัยชนะ แต่ในรายการทีมของทีมชาติไทย เหมือนว่าจะมองไม่เห็นว่าจะมีใครที่ดีพอจะเป็นนักเตะคนนั้น โดยในรายการนี้ เห็นได้ชัดว่า โซรัน ยานโควิช พยายามที่จะมอบหมายหน้าที่นี้ให้กับ สุภโชค สารชาติ ที่อายุยังไม่เต็ม 20 ปีดี แต่ต้องมาแบกรับความกดดันที่ค่อนข้างจะเกินตัวทำให้ผลงานตลอดทัวร์นาเม้นท์ของดาวเตะจากบุรีรัมย์ ออกมาไม่ดีนัก แต่เชื่อว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า เขาจะพัฒนาตัวเองมากกว่านี้ ก่อนที่จะทำการคัดเลือกไปเล่นรอบสุดท้าย และไม่แน่ว่าอาจจะมีผู้เล่นหน้าใหม่ที่ทีมจะสามารถฝากความหวังเข้ามาเป็นตัวเลือกให้กุนซือเพิ่มมากกว่านี้
ให้เวลาโค้ชมากกว่านี้
ก่อนหน้านี้ทีมชาติไทย ที่ไปคว้าแชมป์ซีเกมส์ที่ประเทศมาเลเซียใช้บริการของ วรวุธ ศรีมะฆะ จนกระทั้งได้เหรียญทองกลับมาจึงเกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อสมาคมกีฬาฟุตบอลแต่งตั้ง โซรัน ยานโควิช ให้เข้ามารับหน้าที่คุมทีมต่อ โดยขยับเอาโค้ชโย่งไปเป็นผู้ช่วย ตั้งแต่ช่วงเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเทรนเนอร์ชาวเซอร์เบียนั้นมีเวลาอยู่กับทีมอย่างจริงจังเพียงแค่ 3 เดือนเศษๆเท่านั้นก่อนที่จะเริ่มทัวร์นาเม้นท์นี้ แถมนักเตะบางส่วนที่ไปคว้าแชมป์ที่ซีเกมส์ ก็หลุดออกจากทีม ตัวผู้เล่นมีการเปลี่ยนแปลง แต่ว่าแทบจะไม่มีเวลาในการปรับจูนทีม เพราะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล บวกกับนักเตะตัวหลักถอนตัว ทำให้ทีมชุดนี้แทบจะไม่มีความพร้อมที่ดี ทั้งๆที่ทุกอย่างอยู่ในมือของสมาคมฟุตบอลที่จะสามารถวางแผนให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุดได้
ความพ่ายแพ้ไม่ใช่จุดจบ
การพ่ายแพ้และตกรอบโดยที่ไม่มีแต้มติดมือและยิงได้เพียงแค่ 1 ประตูจากสามเกมถือว่าเป็นผลงานที่ไม่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับทีมชาติไทย ในศึกชิงแชมป์เอเชีย แต่อย่างน้อยความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ก็เป็นบทเรียนที่สอนอะไรได้ดี พอๆกับครูคนหนึ่ง อย่างน้อยก็ได้แสดงให้เห็นว่าทีมชาติไทย ผิดพลาดตรงไหนบ้าง ตำแหน่งไหนที่นักเตะไทยยังขาดอยู่ และจะต้องสร้างขึ้นมาใหม่ รวมไปถึงระบบการเล่น ที่เหมาะสม และการวางแผนเตรียมตัว แถมนักเตะที่อายุยังไม่เกิน สามารถเล่นได้ในอีกครั้งหน้าในปี 2020 ซึ่งจะเป็นการคัดตัวแทนไปเล่นฟุตบอลโอลิมปิก เกมส์รอบสุดท้าย ก็ได้รับประสบการณ์จากการลงเล่นในครั้งนี้ หากว่าผู้บริหารของสมาคมฟุตบอลจะเก็บเอาข้อผิดพลาดต่างๆมาแก้ไข และใช้เวลาอีก 2 ปีที่มีให้คุ้มค่าเพื่อเตรียมทีมให้พร้อมที่สุด