ยุโรป TRB FEATURE

YOU NEED TO KNOW : 5 เรื่องน่ารู้ “โอเอช ลูเวิน” สโมสรใหม่บนแผ่นดินยุโรปของกวินทร์

ถือเป็นดีลฮือฮาสะเทือนลูกหนังไทยแบบต่อเนื่อง หลังจากที่อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ซีอีโอกลุ่มคิง พาวเวอร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานสโมสร โอเอช ลูเวิน ในลีกดิวิชัน 2 เบลเยียม ยื่นข้อเสนอคว้าตัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารเบอร์หนึ่งทีมชาติไทยไปเสริมทีมเพื่อลุ้นพื้นที่เลื่อนชั้น นี่คือเรื่องที่น่ารู้ของต้นสังกัดใหม่ในการค้าแข้งต่างแดนหนแรกของ “ตอง”

กด Next เพื่ออ่าน

ประวัติสโมสร

โอเอช ลูเวิน หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Oud Heverlee Leuven (OHL) ตั้งอยู่ในเมือง ลูเวิน ทางทิศตะวันออกของกรุงบรัสเซลล์ เมืองหลวงของเบลเยียม โดยสโมสรแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นจากการรวมกันของอดีต 2 ทีมในเมืองอย่าง อู๊ด เอเวอร์ลี (ก่อตั้งปี 1957) และ สต๊าด ลูเวิน (ก่อตั้งปี 1905) หลังจากที่สองสโมสรมีโอกาสลงแข่งแค่ระดับลีกดิวิชันสาม หรือสี่ เท่านั้น ไม่เคยมีโอกาสเลื่อนชั้นสู่ลีกระดับสูงของดินแดนปีศาจแดงแห่งยุโรปเลย กระทั่งปี 2002 ทั้งสองจึงมีเรื่องเห็นชอบรวมกับเป็นทีมใหม่ ภายใต้ชื่อที่ใช้อย่างเป็นทางการในปัจจุบัน

หลังจากรวมทีมกัน โอเอช ลูเวิน ก้าวขึ้นมาเล่นในเวทีลีกรองของประเทศหนแรกในปี 2006 ก่อนจะขยับมาเล่นในลีกสูงสุดในปี 2012-2015 เป็นเวลาถึงสามฤดูกาล เคยทำอันดับที่ดีสุดคือที่ 10 เมื่อฤดูกาล 2012-13 ก่อนจะตกชั้นในปีต่อมา และวนเวียนอยู่ลีกสอง กระทั่งเมื่อเดือนกันยายน 2016 แฟนบอลของทีมกลับมามีความหวังในการลุ้นเลื่อนชั้นอีกครั้ง เมื่อกลุ่มทุน คิง เพาเวอร์ จากไทย ที่เคยมีเกียรติประวัติบริหารจัดการเลสเตอร์ ซิตี้ จนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้ว ได้ดำเนินการซื้อสโมสร พร้อมดึงเอา ไนเจล เพียร์สัน เฮดโค้ชประสบการณ์สูงมาทัพ ส่งให้ทีมกลับมามีแรงลุ้นเลื่อนชั้นกลับไปสู่จูปิแลร์ ลีก ลีกสูงสุดอีกครั้ง

นอกจากนี้ โอเอช ลูเวินยังมีฟุตบอลทีมหญิงของตัวเองทั้งทีมชุดใหญ่ (ทีมเอ) และชุดเยาวชน หรือทีมบี ซึ่งก่อตั้งในปี 2002 เช่นกัน โดยปัจจุบันลงเล่นอยู่ใน BeNe League ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศที่จัดแข่งร่วมกับสโมสรทีมหญิงของประเทศฮอลแลนด์

รู้จักพร็อกซิมุส ลีก

ปัจจุบัน โอเอช ลูเวิน ลงเล่นอยู่ในเกมการแข่งขันลีกรองของประเทศเบลเยียม ที่มีชื่อว่า “พร็อกซิมุส ลีก” และเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อปี 2016 ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจาก "เบลเยียม ดิวิชัน 2" หลังจากที่สมาคมฟุตบอลเบลเยียม ปรับเปลี่ยนระบบการแข่งขันลีกใหม่ เลือกปรับให้เหลือสโมสรอาชีพเพียง 24 ทีม โดยลีกระดับ 2 ให้ลดจาก 17 ทีม เหลือเพียง 8 ทีมเท่านั้น ซึ่งแชมป์พร็อกซิมุส ลีก ฤดูกาลแรก ตกเป็นของ อันท์เวิร์ป

สำหรับ พร็อซิมุส ลีก แบ่งรูปแบบการแข่งขันออกเป็น 2 สเตจ แข่งสเตจละ 14 นัด และเอาแชมป์ของแต่ละสเตจจะได้รับสิทธิ์เพลย์ออฟ ทีมที่ชนะจะได้เลื่อนชั้นสู่จูปิแลร์ ลีก หรือลีกสูงสุดของเบลเยียม

แม้จะเป็นการแข่งขันในลีกรอง ทว่าระบบลีกเปิดโอกาสให้ 8 ทีมมีสิทธิ์ได้ไปเล่นในศึกยูโรป้า ลีก ฤดูกาลหน้าได้ โดยฝ่ายจัดการแข่งขันจะนำแต้มสองสเตจมารวมกัน ซึ่งทีมที่พลาดการเพลย์ออฟเลื่อนชั้น บวกกับทีมอันดับ 3,4 จะถูกนำไปแข่งทัวร์นาเมนต์ที่มีทีมอันดับ 7-15 จากลีกสูงสุดโดยแบ่งการแข่งเป็น 2 กลุ่มแบบคละลีกกัน สุดท้ายจะนำแชมป์ของแต่ละกลุ่มมาเพลย์ออฟ เพื่อหาทีมเดียวไปเล่นยูโรป้า ลีก รอบคัดเลือกรอบที่ 3

คู่แข่งแย่งตำแหน่ง

นิค กิลเลเคนส์ ผู้รักษาประตูชาวเบลเยียมวัย 22 ปี คือนายด่านมือหนึ่งของสโมสร และถือเป็นแข้งลูกหม้อที่เติบโตจากระบบอคาเดมีของสโมสรอย่างแท้จริง โดยกิลเลเคนส์ก้าวมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุด U21 ในปี 2010 มีโอกาสได้แชมป์กับทีมเยาวชนในช่วงฤดูกาล 2014-15 และ 2016-17 จนได้รับมอบหมายให้เฝ้าเสากับทีมชุดใหญ่มาจนปัจจุบัน

นอกจากนี้ โอเอช ลูเวิน ยังมีบัวบาคาร์ แบร์รี อดีตผู้รักษาประตูเจ้าของสถิติติดทีมชาติไอวอรี โคสต์ 84 เกม ในวัย 38 ปี โลรองต์ เฮนกิเนท มือกาววัยเบญจเพส และ อันเดรส ซูเอดริก อีกหนึ่งนายทวารชาวเบลเยียม

เมืองลูเวิน

"เดน ดรีฟ" คือชื่อของสนามเหย้าสโมสร มีความจุ 10,000 ที่นั่ง ตั้งอยู่ในลูเวิน เมืองหลวงของจังหวัดเฟลมิช บราบันท์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกรุงบรัสเซลล์เป็นระยะทาง 26 กิโลเมตร มีประชากรทั้งเมืองราว 100,244 คน จากการสำรวจโดยกระทรวงมหาดไทยเบลเยียม เมื่อปี 2016 ในเมืองมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีที่ 10 องศาเซลเซียส ทว่าหากเข้าสู่ช่วงฤดหนาว จากการวัดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พบว่าอุณหภูมิของเมืองตกอยู่ที่ 2 องศาเซลเซียส

ลูเวินนับเป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความงดงามทางสถาปัตยกรรมชวนให้นักท่องเที่ยวต้องแวะมาเยี่ยมเยียนสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็น “The Stadhuis” หรือสถานที่ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นใจกลางเมือง มีลักษณะเป็นอาคารสูงที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค โดยรอบตัวอาคารภายนอกถูกประดับด้วยรูปปั้นแกะสลักจำนวนมากถึง 236 รูป ส่วนด้านหน้าของทาวน์ ฮอล จะเป็นโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ส สถานที่ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้มาตั้งแต่ปี 1999 ตัวอาคารตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมโกทิกเช่นกัน มีจุดเด่นอยู่ไม้กางเขนขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านในโบสถ์

หรืออยากจะชมงานศิลปะยุโรปโบราณ “M - Museum Leuven” คือพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปะล้ำสมัยของเมืองมีความล้ำค่าของศิลปะทางศาสนาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15-18 พร้อมผลงานร่วมสมัย และที่สำคัญสถานที่แห่งนี้ก็ยังเปิดให้เข้าชมฟรีอีกด้วย

นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปเยือนแล้ว ลูเวินยังมีของกินขึ้นชื่อที่สำคัญอย่าง "วาฟเฟิล" ที่เป็นของขึ้นชื่อในประเทศ จากการรีวิวของนักชิมทั่วโลกว่ามีความกรอบนอก นุ่มใน สูตรเด็ดอันเป็นเอกลักษณ์ที่น่ามาลิ้มลอง รวมทั้ง ยังเป็นที่ตั้งของ Anheuser-Busch InBev บริษัทผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่ของโลกอีกด้วย

สำหรับภาษาหลักที่ใช้สื่อสาร ประชากรในลูเวินส่วนใหญ่ใช้ภาษาดัตช์เป็นภาษาราชการ แต่ก็มีการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารด้วยเช่นกัน อีกทั้งในทีมเยาวชนของสโมสร ก็ยังมีเยาวชนไทยจากโครงการ “FOX HUNT” รุ่นแรก ที่อยู่ค้าแข้งด้วย อย่าง สมประสงค์ พรมศร, จิรัฐติกาล วาพิลัย, อนนต์ สมากร และ ธาวิน มหจินดาวงษ์ สิ่งเหล่านี้ก็น่าจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของ “ตอง” ไม่ได้ลำบากในเรื่องการสื่อสารมากนัก และจอมหนึบกิเลนผยองคงจะคงได้สื่อสารภาษาไทยกับ 4 แข้งรุ่นน้องบนดินแดนเบลเยียมอยู่ไม่มากก็น้อย

โอกาสลุ้นเลื่อนชั้น

ทีมของไนเจล เพียร์สัน ชวดจบการแข่งขันสเตจแรกในฐานะแชมป์แบบน่าเสียดาย หลังจากสะดุดเสียแต้มจนถูก เบียร์ช็อต วิลไรจ์ ปาดหน้าซิวแชมป์จากผลงานลงเตะ 14 เกมมี 29 แต้ม (โอเอช ลูเวิน จบอันดับสองจากการมี 26 แต้ม)

ขณะนี้ การแข่งขันกำลังอยู่ในสเตจที่สอง ซึ่งโอเอช ลูเวิน ลงแข่งไปแล้ว 7 เกม มีอยู่ 9 คะแนน ตามหลัง ลีร์เซ ทีมจ่าฝูงที่ครั้งหนึ่งธีรเทพ วิโนทัยเคยมาค้าแข้ง อยู่ 6 คะแนน (ลีร์เซมี 15 แต้ม) ซึ่งหากพวกเขาหวังจะเลื่อนชั้น หนทางสำคัญคือต้องเก็บชัยชนะให้ได้มากที่สุดในอีก 7 นัดที่เหลือ เพื่อจะได้เพลย์ออฟเลื่อนชั้นกับแชมป์สเตจแรกอย่าง เบียร์ช็อต