YOU NEED TO KNOW : 5 เรื่องน่ารู้ “เซเรโซ โอซากา” สโมสรใหม่ของ “เชาว์วัฒน์”

สไตล์การเล่น

เซเรโซ โอซาก้า ที่คุมทัพโดย จาง ฮวาน ยุน กุนซือชาวเกาหลีใต้ที่เพิ่งมารับงานเมื่อช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา ในช่วงต้นฤดูกาลศึกเจลีก ใช้ในระบบ 4-4-2 ทว่าไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลยใน 3 เกมแรก ก่อนจะมาลองเปลี่ยนเป็นระบบการเล่น 4-2-3-1 และดูเหมือนว่านักเตะในทีมจะเข้าได้ดีกับระบบนี้ แต่แล้วช่วงที่ผลงานของทีมสะดุด เฮดโค้ชโสมขาวก็กลับมาใช้ในระบบ 4-4-2 อีกครั้ง เน้นเป็นกลางรับ 2 คน ได้แก่ คาซูยะ ยามากูชิ กับ โจเซฟ เดอ ซูซ่า และปีกอีก 2 คน ฮิโรชิ คิโยทาเกะ กับ โคตะ มิซุนุมะ และระบบนี้เองช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลูวานคัพ และ เอ็มเพอเรอร์คัพ มาครองได้สำเร็จในปีนี้

คู่แข่งในทีม

การย้ายไปค้าแข้งที่เซเรโซของเชาว์วัฒน์นั้น อาจจะต้องลงไปเล่นในชุด U23 ที่ทำการแข่งขันอยู่ในศึก เจ3ลีกก่อน คล้ายกับกรณีเดียวกันกับ “ไอซ์” จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ที่ย้ายไปเล่นให้กับเอฟซี โตเกียว เมื่อกลางปี 2017 ที่ผ่านมา โดยส่วนตัวแล้วเราจะเห็นอินซ์เล่นอยู่ในแดงกลางเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในตำแหน่งที่เจ้าตัวเล่นในไทยนั้น มีคู่แข่งเพียงแค่คนเดียว ได้แก่ ไดชิ อะกิยามา แข้งลูกหม้อของทีมวัย 23 ปี ดีกรีทีมชาติญี่ปุ่นชุด U17 ที่ลงให้กับทีมชุดนี้ไปทั้งสิ้น 13 นัดและลงให้กับชุดใหญ่ ไปแล้ว 45 นัด ยิงได้ 1 ประตู คาดว่าในฤดูกาล 2018 เชาว์วัฒน์อาจจะโชคดีได้สตาร์ทเป็นตัวจริงในเจ3ลีกก็เป็นได้

ผลงานในฤดูกาลล่าสุด

ในส่วนของผลงานฤดูกาล 2017 นั้น ในทีมชุดใหญ่ที่ทำการแข่งขันในศึกเจ1ลีก สามารถทำผลงานได้ดีเยี่ยม แม้จะคะแนนห่างจากแชมป์เจลีกและรองแชมป์อย่างคาวาซากิ ฟรอนตาเล และคาชิมา แอนท์เลอร์ส ถึง 9 แต้ม แต่ก็พาทีมจบในอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน ด้วยการแข่งขันทั้งสิ้น ชนะ 19 เสมอ 6 แพ้ 9 ยิงไปทั้งสิ้น 65 ประตู และเสียไป 43 ประตู เก็บไปได้ 63 คะแนน พร้อมกับคว้าแชมป์ "วายบีซี ลูวาน คัพ" หรือ เจ ลีก คัพ 2017 และเอ็มเพอเรอร์คัพ เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา คว้าตั๋วไปเล่นในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2018 รอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ โดยจะอยู่ในกลุ่มเดียวกับ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์, เจจู ยูไนเต็ด และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 

ส่วนในชุดเล็กที่ใช้นักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีลงทำการแข่งขันในศึก เจ3ลีกนั้น จบซีซั่นล่าสุดในอันดับที่ 13 แข่งขันไปทั้งสิ้น 32 นัด ชนะ 8 เสมอ 11 แพ้ 13 มี 35 คะแนน

สภาพเมือง

จังหวัดโอซาก้า เป็นจังหวัดที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆของประเทศมาตั้งแต่ในอดีต เพราะเคยเป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการค้า

อดีตเมืองนี้มีพ่อค้าเข้าออกมากมาย จึงทำให้เกิดวัฒนธรรมการสร้างความบันเทิงต่างๆ เช่นละครโน, บุนระขุ ที่มีเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวกับความรักของพ่อค้าและโสเภณี รวมทั้งศิลปะการวาดภาพ อุคิโยะ ด้วย 

ในช่วงที่เศรษฐกิจประเทศญี่ปุ่นกำลังเติบโต มีผู้คนมากมายหลั่งไหลกันมาขายแรงงานที่เมืองนี้ รวมถึงชาวเกาหลีที่เข้ามาอยู่อาศัยจนเกิดเป็นชุมชนชาวเกาหลีที่มีมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากเศรษฐกิจที่นี่เติบโตอย่างเต็มที่ ชนชั้นแรงงานก็ถูกเหล่าชนชั้นกลางและชั้นสูง บีบให้ลงมาอยู่ตอนใต้ของจังหวัด เกิดเป็นชุมชนของคนชั้นล่าง (พวก Homeless, ซ่องโสเภณี) ที่ยังคงพบเห็นได้ในปัจจุบัน ดังนั้นวัฒนธรรมของโอซาก้าจึงมีความหลากหลายเนื่องด้วยความแตกต่างทางชนชั้นและความเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค

เรื่องอาหารการกินที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์มาก มากจนเรียกได้ว่าเป็นครัวของประเทศ แต่ของขึ้นชื่อก็ต้องยกให้ ทาโกะยากิ และโอโคโนมิยากิที่ใครมาถึงแล้วเป็นต้องลองทุกคน

สถานที่ท่องเที่ยวก็มีทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่อุเมดะ นัมบะ ชินไซบาชิ หรือจะเที่ยวชมประวัติศาสตร์ที่ปราสาทโอซาก้า (ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์ ตัวปราสาทจริงโดนเผาไปแล้ว) สวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำก็มี ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นก็อยู่ที่นี่ (Expo City อยู่ตอนเหนือของจังหวัด) และที่สำคัญจังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของ Universal Studio Japan สวนสนุกที่มีผู้มาเยือนสูงที่สุดในญี่ปุ่น

ข้อดีอีกอย่างของจังหวัดนี้คือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคคันไซ ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปจังหวัดและเมืองข้างเคียงเช่น เกียวโต นารา โกเบได้โดยใช้ระยะเวลาไม่นาน

ชาวโอซาก้าจะแตกต่างกับคนญี่ปุ่นทั่วไปอย่างค่อนข้างเห็นได้ชัด ตั้งแต่อุปนิสัยคนส่วนใหญ่ที่ค่อนข้างเปิดเผย รักสนุก และใจดี และความแตกต่างอีกข้อที่เห็นได้ชัดการขึ้นบันไดเลื่อนชิดขวา ต่างจากจังหวัดอื่นๆที่จะชิดซ้ายเสียเป็นส่วนใหญ่ ใครมาเที่ยวก็ต้องระวังด้วย

ประวัติสโมสร

เซเรโซ โอซาก้า เป็นสโมสรร่วมเมืองกับทีมกัมบะ โอซาก้า มีฉายาว่า “ซากุระ” ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1957  โดยเป็นทีมฟุตบอลเป็นทีมของบริษัทยันมาร์ และเล่นภายใต้ชื่อ ยันมาร์ หรือ ยันมาร์ ดีเซล ซึ่งเคยมีนักเตะไทยอย่าง “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยไปค้าแข้งในปี 1977-1978  โดยสมัยที่ยังเป็นลีกสมัครเล่นยันมาร์ ดีเซล ประสบความสำเร็จมากมาย ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นเซเรโซ โอซาก้า เมื่อปี 1995 หลังจากเข้ามาร่วมการแข่งขันในศึก เจ1ลีก แถมยังมีประสบการณ์ตกชั้น 2 ครั้งในปี 2001 และ 2006 หลังจากที่กลับมาได้อย่างรวดเร็วในการตกชั้นครั้งแรก พวกเขากลับต้องดิ้นรนอยู่ในเจทูนานถึง 3 ฤดูกาล ก่อนจะกลับมาสู่เจวันได้อีกครั้งในปี 2010 พร้อมทั้งคว้าโควตา เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ได้ในฤดูกาลถัดมา ก่อนที่จะเป็นที่คุ้นหูกับแฟนบอลชาวไทยหลังจากได้จับมือเป็นพันธมิตรกับทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมในศึกโตโยต้า ไทยลีก