เอเชีย ฟุตบอลไทย

THE PREDICTION: คาดการณ์แผนช้างศึกดวลโสมแดงศึก M-150 Cup

ทีมชาติไทย U23 ที่เกมเปิดสนาม ในศึก M-150 Cup ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเอาชนะ ญี่ปุ่นมาได้ 2-1 จะลงสนามในเกมที่สอง พบกับ เกาหลีเหนือ  ที่พ่ายญี่ปุ่นมาขาดลอย 4-0 ทำให้เกมนี้ ทีมโสมแดงไม่มีทางเลือกนอกจากเอาชนะ ทีมช้างศึก ที่ขาดตัวหลัก 2 คนอย่างรัตนัย ส่องแสงจันทร์ ที่โชคร้ายบาดเจ็บ และ  ชินภัทร ลีเอาะ   ที่ลาไปอุปสมบท ให้ได้ เพื่อโอกาสในการเข้ารอบ  น่าสนใจว่าเกมนี้ โซรัน ยานโควิช จะจัดทัพอย่างไร และนี่คือการคาดการณ์จาก Football Tribe Thailand  

 

กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

4-1-4-1

เกมแรกของ โซรัน ยานโควิช ทำผลงานได้น่าประทับใจด้วยการเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่นด้วยสกอร์ 2-1 ซึ่งเกมแรก อดีตกองหน้าทีมชาติบัลแกเรีย สร้างความประหลาดใจเมื่อส่ง รัตนากร ใหม่คามิ เป็นกองกลางตัวรับแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น เป็นระบบการยืนแบบ 4-1-4-1  ถือว่าเป็นระบบที่ค่อนข้างจะลงตัว ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะยึดระบบเดิมต่อเนื่องไป

โดยเกมนี้นายทวารตัวจริงจะเป็น นนท์ ม่วงงาม ที่ได้โอกาสเพราะว่า รัตนัย ส่องแสงจันทร์ โชคร้ายได้รับบาดเจ็บในเกมเอาชนะญี่ปุ่น แดนหลัง แบ็กขวา จักรกริช เวชภิรมย์ น่าจะได้โอกาสอย่างต่อเนื่องหลังผลงานยอดเยี่ยม ส่วนคู่เซนเตอร์ ต้องเปลี่ยนแปลงเพราะว่า ชินภัทร ลีเอาะ ลาอุปสมบท ทำให้ วรวุฒิ นามเวช จะได้ลงจับคู่กับ ศฤงคาร พรหมสุภะ คนยิงประตูจากเกมที่แล้ว

แดนกลาง นพพล พลคำ อาจจะได้สลับกับ รัตนากร ใหม่คามิ ลงมาทำหน้าที่กองกลางตัวรับคอยปัดกวาด อยู่หน้าแผงหลังและปล่อยหน้าที่แนวรุกเป็นของ สุภโชค สารชาติ กับ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา สลับกันขึ้นเกมรุก และทางริมเส้นใช้ผู้เล่นที่มีความเร็วกับความคล่องอย่าง ธนาสิทธิ์ ศิริผลา กับ พิชา อุทรา ส่วนกองหน้าตัวเป้าใช้งาน เจนรบ สำเภาดี ลงเล่นคนเดียวเช่นเคย

3-4-3

เป็นแผนที่ทีมชาติไทยของ มิโลวาน ราเยวัชเคย นำเอามาใช้งานแล้ว  โดยในระบบนี้ นายทวารมือหนึ่งน่าจะเป็น นนท์ ม่วงงาม ที่ได้ลงสนามแทน  รัตนัย ส่องแสงจันทร์ ที่โชคร้ายบาดเจ็บอีกครั้ง  

แนวรับในระบบกองหลังตัวกลางสามคน ประกอบไปด้วย  ศฤงคาร พรหมสุภะ, วรวุฒิ นามเวช  และส่วนอีกคนจะเป็น  แข้งสารพัดประโยชน์อย่าง รัตนากร ใหม่คามิ ที่สามารถเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟได้ หลังจาก ชินภัทร ลีเอาะ ลาอุปสมบทหลังช่วยทีมเล่นเกมแรก

แดนกลาง นพพล พลคำ จะทำหน้าที่ห้องเครื่องคอยสนับสนุน เชาว์วัฒน์ วีระชาติ ที่จะปั้นเกมรุก   ส่วนวิงแบ็กซ้ายเป็น ชัยวัฒน์ บุราณ และทางด้านขวาใช้  จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ที่แม้จะมาร่วมทีมทีหลังแต่สามารถปรับตัวเข้ากับระบบทีมอย่างรวดเร็ว

 

แดนหน้าสามประสานมี เจนรบ สำเภาดี ยึดตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า และใช้ สุภโชค สารชาติ คอยทำเกมทางด้านข้างร่วมกับ พิชา อุทรา ซึ่งทั้งสองคนมีความเร็วและความคล่องตัวสามารถสนับสนุนเกมริมเส้นได้เป็นอย่างดี

4-2-3-1

อทัวร์นาเม้นท์นี้จัดขึ้นมาเพื่อให้โอกาสทีมที่จะลงเล่นในศึกชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีที่ประเทศจีนในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า ได้ลองทีมอยู่แล้ว ทำไมทีมชาติไทย จะใช้โอกาสนี้ทดลองส่งผู้เล่นที่ไม่ค่อยได้ลงสนามในเกมแรกลงเล่นบ้าง

โดยใช้ อนุศิษฏ์ เติมมี นายทวารจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด ลงเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่ง แนวรับ มี สันติภาพ จันทร์หง่อม จากแอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล และ สหรัฐ ปองสุวรรณ จากเชียงใหม่ เอฟซี  สองแข้งที่ไม่ติดทีมซีเกมส์ลงเล่น ส่วนคู่เซนเตอร์เป็น วรวุฒิ นามเวช  จับคู่กับ ศฤงคาร พรหมสุภะ

แดนกลาง  ภานุเดช ใหม่วงศ์ ที่หลุดจากทีมชุดซีเกมส์ จับคู่กับ เชาว์วัฒน์ วีรชาติ ที่ได้ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมที่แล้ว แนวรุก อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ที่เกมที่ผ่านมาไม่ได้ลงสนามจะได้ลงเล่นทางขวา โดยใช้ ชัยวัฒน์ บุราญ ฮีโร่จากเกมที่แล้ว เล่นทางกราบซ้าย ซึ่งกองกลางตัวรุกเป็น วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และกองหน้าตัวเป้าสลับใช้งาน สิทธิโชค กันหนู ลงมาเล่นแทนที่ของ เจนรบ สำเภาดีบ้าง