การแข่งขันของหลายสโมสรในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในโซนตะวันออกรูดม่านปิดฉากลงไปแล้ว ในขณะที่ลีกโซนตะวันตกที่ยังคงลงเตะคล้ายกับระบบลีกในยุโรป ซึ่งในเดือนที่ผ่านมา ก็ยังคงมีเหล่านักฟุตบอลหลายคนที่เป็นทั้งชาวเอเชียและต่างชาติงัดฟอร์มของตนเองเพื่อช่วยให้ชาติ รวมถึงต้นสังกัดประสบความสำเร็จแตกต่างกันออกไปเช่นเดิม
และนี่คือ 11 นักเตะที่ทำผลงานได้ดีในช่วงเดือนพฤศจิกายน จากความเห็นของทีมงานฟุตบอลไทรบ์ทั่วทั้งทวีป
กด NEXT เพื่ออ่าน
ผู้รักษาประตู - กู ซุง-ยุน (คอนซาโดเล ซัปโปโร)
หลังมีชื่อติดทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใญ่เมื่อเดือนตุลาคม สิ่งนี้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นายด่านร่างโย่งของซัปโปโรงัดผลงานเด่นออกมาช่วยต้นสังกัดจากการเก็บถึง 2 คลีนชีตตลอด 3 แมตช์เมื่อเดือนที่ผ่านมา กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ทัพนกเค้าแมวเมืองเหนือรอดพ้นจากการตกชั้นแบบไร้กังวลในนัดที่ 32
กองหลัง - ชอย ชุล-ซูน (ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส)
แนวรับพลังโสมได้รับการยกย่องว่าเป็นแบ็คขวาฝีเท้าดีที่สุดคนหนึ่งในวงการลูกหนังโสมขาวยุคนี้ นอกจากจะลงยืนขันแนวรับพาชุนบุคเถลิงแชมป์ลีกได้แล้ว กับโอกาสในทีมชาติ เจ้าตัวยังโชว์แอสซิสต์ที่แม่นยำให้ซน เฮือง-มิน ทำประตูในเกมอุ่นเครื่องกับเซอร์เบียมาแล้ว
กองหลัง - จาลาล ฮอสเซย์นี (เปอร์เซโปลิส)
จ่าฝูงลีกสูงสุดของอิหร่านทำสถิติลงสนามเกมลีกไป 2 นัดในเดือนพฤศจิกายน และไม่เสียประตูให้ทีมคู่แข่งเลย ซึ่งส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่งในแผงเกมรับนี้เกิดจากการมีหัวใจสำคัญของทีมอย่างปราการหลังกัปตันทีมวัย 35 กะรัต
กองหลัง - คิม จิน-ซู (ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส)
หลังผ่านช่วงเวลาที่ล้มเหลวในบุนเดสลีก้ากับฮอฟเฟนไฮม์เป็นเวลา 2 ฤดูกาลครึ่ง คิมตัดสินใจโยกมาค้าแข้งในบ้านเกิดอีกครั้ง และหนนี้เขามีส่วนสำคัญในการพาชุนบุคซิวแชมป์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งยังกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงในนามทีมชาติเกมอุ่นเครื่องกับโคลอมเบียอีกครั้ง และหากไม่มีอะไรผิดพลาด แผงเกมรับทัพนักรบแทกุ๊กในฟุตบอลโลกปีหน้าจะมีชื่อแข้งวัยเบญจเพสลงปักหลักอยู่แน่นอน
กองกลาง - เคนโงะ นาคามูระ (คาวาซากิ ฟรอนทาเล)
ในวัย 37 กะรัตของเคนโงะยังคงโดดเด่นภายใต้สีเสื้อฟรอนทาเลมาโดยตลอดฤดูกาล 2017 นี้ ซึ่งหลังจากอกหักไม่สามารถพาทีมซิวแชมป์วายบีซี ลูวาน คัพได้ แต่ผลงานในลีกช่วงเดือนพฤศจิกายนนั้น เคนโงะได้รับโอกาสลงสนามเต็ม 90 นาทีทั้งสองแมตช์ แถมยังพาทีมเก็บถึง 6 แต้มเต็ม นำไปสู่การคว้าแชมป์ลีกในท้ายที่สุด
กองกลาง - ซน จุน-โฮ (โปฮัง สตีลเลอร์ส)
มิดฟิลด์สไตล์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์จัดการโชว์ 4 แอสซิสต์ตลอดเดือนพฤศจิกายนจากการชนะซางจู ซ่างหมู่ 4-3 และกวางจู เอฟซี 4-0 พาทีมเก็บ 6 แต้มเต็มพร้อมพาโปฮังจบอันดับ 7 ของตารางแบบไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นเหนื่อย
กองกลาง - เซอเวอร์ เยปารอฟ (เอสเตกอล)
แม้ในฤดูกาลปัจจุบันเอสเตกอล หนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ของอิหร่านทำท่าจะไม่ได้ลุ้นแชมป์ปีีนี้ จากการมีคะแนนตามจ่าฝูงหลังผ่าน 15 เกมอยู่ถึง 16 แต้ม ทว่าจอมทัพเลือดอุซเบฯยังคงได้รับความวางใจลงเล่นเป็นตัวจริงในวัย 35 ปี และมีส่วนสำคัญในการพาต้นสังกัดไม่แพ้ใครในเกมลีกตลอดเดือนที่ผ่านมา
กองกลาง - วานเดอร์ หลุยส์ (เชียงราย ยูไนเต็ด)
จากความสามารถเฉพาะตัวตามแบบฉบับแนวรุกแดนแซมบ้า มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่พากว่างโซ้งมหาภัยเถลิงแชมป์เอฟเอ คัพ ได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ทั้งในเกมรอบชิงชนะเลิศ นอกจากจะปั่นป่วนแผงเกมรับแข้งเทพแล้ว เขายังซัดสองประตูในเกมนี้ พาทีมชนะ 4-2
กองหน้า - เหงียน อันห์ ดุ๊ค (บีคาแม็กซ์ บินห์ เดือง)
กองหน้ามากประสบการณ์วัย 32 ปียังคงไว้ลายโอกาสการจบสกอร์ที่เฉียบคมไม่เสื่อมคลาย โดยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าตัวจัดการกดคนเดียว 5 ประตูตลอดการแข่งขัน 3 นัด ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการทำแฮตทริคในเกมนัดส่งท้าย พร้อมจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งดาวซัลโวที่ 17 ประตู
กองหน้า - เจย์ โบธรอยด์ (คอนซาโดเล ซัปโปโร)
เจ้าของผลงาน 8 ประตูจากการลงสนามในสีเสื้อซัปโปโร 6 เกมหลังสุด เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่สโมสรจากตอนเหนือแดนซามูไรการันตีการรอดตกชั้นไปตั้งแต่เกมอัดชิมิสุ เอสพัลส์ในนัดที่ 32 และหากนับผลงานในเดือนพฤศจิกายน เจย์โบทำได้ถึง 3 ประตู
กองหน้า - โอบาเฟมี มาร์ตินส์ (เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว)
อดีตกองหน้าทีมชาติไนจีเรียอยู่สร้างความสำเร็จกับเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัวในฤดูกาล 2016/17 จากผลงานซัด 2 ประตูจาก 2 เกมในนัดชิงบอลถ้วยไชนีส เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ พาทีมซิวแชมป์แรกนับตั้งแต่ปี 2003 เหนือเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี โดยแบ่งเป็นการชนะ 1-0 ในบ้านตัวเอง ส่วนเกมเยือนบุกไปพ่าย 2-3 (เสิ่นหัวเข้ารอบด้วยกฏอเวย์โกล)