ฟุตบอลไทย ไทยลีก

TRIBE TALK : ปริญญ์ กุญชร จากนายด่านลีกรากหญ้าสู่ทัพช้างศึก

เข้าสู่ช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2017 ซึ่งในปีนี้ แม้จะไม่มีโปรแกรมทีมชาติชุดใหญ่ทำศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่จะแข่งขันในทุกสองปีนั้น แต่ก็ยังมีทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ที่ให้ทัพช้างศึกชุด U23 ได้พิสูจน์ผลงานกันในฟุตบอลถ้วยรายการ M-150 Cup ทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 9-15 ธันวาคม ที่สนามไอโมบาย สเตเดียม จ.บุรีรัมย์

ซึ่งรายชื่อที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้นั้นส่วนใหญ่ยังคงยึดผู้เล่นที่คว้าแชมป์ซีเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย แต่ก็ยังมีชื่อหน้าใหม่ที่เข้ามาติดในชุดนี้ อย่างจักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ที่ไปสร้างชื่อในต่างแดน รวมไปถึง ปริญญ์ กุญชร นายด่านจากเจแอล เชียงใหม่ สโมสรลีกรากหญ้าเพียงหนึ่งเดียวที่เข้ามาติดในชุดนี้

 

“ผมเริ่มเล่นบอลตอนแปดขวบ เล่นของโรงเรียนเป็นตัวชมรมฟุตบอลของโรงเรียน” ปริญญ์ เริ่มเท้าความย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นการเล่นฟุตบอล ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ลองเล่นในหลายๆตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นศูนย์หน้า หรือแบ็คขวา แต่รู้สึกว่าเล่นแล้วมันไม่รุ่ง ก่อนมาจับทางถูกในการเป็นผู้รักษาประตู และมุ่งที่จะเอาดีทางด้านนี้

หลังจากเริ่มเล่นมาได้สักพัก แน่นอนว่าความฝันของเด็กผู้ชายเกินครึ่งทุกคนต้องมีความคิดที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ปริญ์ก็อยู่ในกลุ่มนั้นเช่นกัน จึงทำให้เขาเริ่มหาช่องทางเดินตามความฝันในครั้งนี้ให้สำเร็จ ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังศึกษา

“เริ่มตอนปี 2013 ตอนั้นนอนหอพักที่โรงเรียน และเพื่อนๆไปคัดฟุตบอลกัน และก็มาโม้ให้เราฟัง ทำให้เราอิจฉา และอยากจะติดเหมือนเพื่อนเขาบ้าง เลยปรึกษากับแม่ว่าพอจะหาทีมได้ไหม และพอดีกับแม่เขารู้จักกับโค้ชที่พะเยา เอฟซี โค้ชก็เลยให้ทดสอบฝีเท้าเลย และก็ได้ติดอยู่กับทีมพะเยา เอฟซีเลย”

พอได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัวแล้ว ก็เริ่มเดินหน้าอาชีพค้าแข้ง และไปร่วมทัพไม่ว่าจะเป็นพะเยา เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีมเจแอล เชียงใหม่ในช่วงเลกสองที่ผ่านมา และสามารถเปิดตัวได้อย่างสวยงามในเกมที่ชนะปากน้ำโพ ไปได้ 5-0 ในศึก ยูโร่ เค้ก ลีก

“ตอนย้ายเข้ามาอยู่กับเชียงใหม่ ผมโดนนั่งสำรองไปเดือนกว่า ก่อนที่จะได้ลงและเรารักษษคลีนชีตได้ เลยได้ยึดมือหนึ่งมาตลอด”

นอกจากจะช่วยพาทีมเลื่อนขึ้นชั้นมาเล่นในยูโร่เค้ก ลีกโปร ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จแล้วนั้น นายด่านดาวรุ่งยังช่วยพาทีมเข้าทะลุถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ ก่อนจะโดนแบงค็อก ยูไนเต็ดถล่มตกรอบไปแบบได้ใจแฟนบอล

“จริงๆเราเป็นทีมที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาด้วย มาไกลมาก เรียกว่าเหนือความคาด”

“สิ่งสำคัญที่ทำให้ผลงานออกมาดีอย่างแรกเลยคือความกระหายของตัวผมที่อยากจะลงเล่น และเล่นให้เชียงใหม่ที่เป็นบ้านของเรา มันเหมือนมีพลังบางอย่าง จริงๆผมเป็นคนกรุงเทพนะ แต่พอดีไปโตที่เชียงใหม่ตั้งแต่ 8 ขวบ เลยผูกพันมาก”

จากการแข่งขันบอลถ้วยที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น กลายเป็นฟอร์มเตะตาทีมงานสตาฟฟ์โค้ชจนถูกเรียกเข้ามาติดในชุดรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลุยศึกฟุตบอล M-150 คัพ และเป็นครั้งแรกที่ตัวปริญญ์เองจะได้สัมผัสบรรยากาศในแคมป์ช้างศึก

“ตอนแรกที่รู้มีนักข่าวโทรมาหาผม พอดีเขาบอกว่าจะมีเรียกชื่อเรา พอประกาศเราก็พูดอะไรไม่ออกมันตื้นตัน ดีใจมากๆ ก็มีบอกพ่อกับแม่ และก็เพื่อน แต่ก็ยังไม่บอกใครมาก กลัวเขาหาว่าขี้โม้ เพื่อนบางคนเขาก็ดีใจกับผมนะ บางคนก็งงๆว่าราติดจริงหรือเปล่า เพื่อนบางคนหายไปนานก็ทักมาเต็มเลย”

แน่นอนว่าเป็นการติดทัพช้างศึกครั้งแรก ก็มีอาการกดดันเล็กน้อย กับกาเข้าหากับระบบ รวมไปถึงเพื่อนร่วมทีม  แต่โชคยังดีที่มีเพื่อนที่เคยอยู่ร่วมทีมอย่าง กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ หรือมนตรี พรหมสวัสดิ์ ที่เป็นรูมเมทกัน ช่วยคลายความกดดัน และทำให้ปรับตัวง่ายยิ่งขึ้น

แต่ด้วยตำแหน่งผู้รักษาประตูมีเพียงแค่ตำแหน่งเดียว ทำให้มีการแข่งขันสูง ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยกับการที่ต้องเบียดตำแหน่งตัวจริงกับเพื่อนคนอื่นๆที่มีประสบการณ์บนลีกสูงสุดและทีมชาติ

“เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะแต่ละคนก็มีฝีมือมากๆ เพราะเราได้สัมผัสด้วยตัวเอง ทำให้รู้ว่าเขามีฝีมือระดับไหน เราก็เป็นรองครับ แต่ในใจคือก็อยากจะติดชุดนี้ยาวๆ”

“ส่วนการซ้อมค่อนข้างที่จะยากมาก ด้วยรูปแบบการฝึกที่สูงมาก และผมอยู่ในระดับลีกรากหญ้า เรื่องความสามารถทักษะต่างๆ มันแตกต่างมาก มันคนละระดับเลย”

ส่วนเป้าหมายหลังจากติดทัพช้างศึกครั้งนี้ เจ้าตัวขอเพียงแค่มีชื่อติดให้ได้ตลอดและนานที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยไม่สนว่าจะเป็นประตูมือที่เท่าไหร่ก็ตาม

“เอาจริงๆก่อนหน้านี้ผมไม่มีความคิดติดทีมชาติเข้ามาในหัวเลย คิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่พอติดแล้วก็อยากจะติดให้ได้นานที่สุด ส่วนมัวร์นาเม้นนี้ถ้ามันจะหลุดในช่วงโค้งสุดท้ายตอนนี้ผมก็ไม่เสียใจนะ ถือว่าตอนนี้เราได้กำไรชีวิตแล้ว”

“สุดท้ายผมก็อยากให้แฟนบอลทั้งในส่วนของทีมชาติและส่วนตัวผมเองตามเชียร์ทีมชาติไทยในทัวร์นาเม้นM-150 Cupกันเยอะๆนะครับ” ปริญญ์ พูดปิดท้าย

ทั้งนี้สามารถติดตามผลงานปริญญ์ กุญชร ในนามช้างศึกได้ในฟุตบอลรายการ M-150 คัพ ระหว่างวันที่ 9-15 ธันวาคม นี้ ที่สนามไอโมบาย สเตเดียม หรือสามารถรับชมผ่านทางช่อง True4U