อภิชาติ โมสิกะ เทรนเนอร์เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด กล่าวขอบคุณแบงค็อก ยูไนเต็ดที่มอบประสบการณ์ล้ำค่าในการดวลกันรายการเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา
ตัวแทนจาก T4 มีโปรแกรมจับสลากมาเจอกับแข้งเทพในรอบ 4 ทีมสุดท้ายของช้าง เอฟเอ คัพ ซึ่งผลการแข่งขันเป็นทีมจากไทยลีกที่ไล่สอนเชิงไป 3-0 กรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปเจอกับเชียงราย ยูไนเต็ด
“ในส่วนภาพรวมของทีมก็ต้องยอมรับว่า ศักยภาพของทีมเราเป็นรองเขาค่อนข้างเยอะ ซึ่งโดยรวมก็ต้องขอบคุณบียูที่ได้ให้ข้อคิดกับลูกทีมทุกคน และให้กรณีศึกษาของโค้ชเอง เพราะฉะนั้นสิ่งดีดีของทีมวันนี้กับการเดินมาสู่เส้นทางรอบรองชนะเลิศของเจแอล เชียงใหม่ ถือว่าเป็นผลดีกับการพัฒนาทีมในโอกาสต่อไป ขอบคุณสำหรับเกมวันนี้ ที่พวกเราได้รับกลับคืน” โค้ชโมกล่าว
นอกจากนี้ กุนซือเลือดเนื้อเชื้อไขชาวจังหวัดเชียงใหม่ยังกล่าวถึงแนวทางการทำทีมในฤดูกาลหน้าว่าในเบื้องต้นสโมสรอาจเก็บแข้งในฤดูกาลนี้ใช้งาน 50-50 เนื่องจากการลงทำการแข่งขันในระดับ T3 มีความแข็งแกร่งกว่า พร้อมเผยถึงแนวทางการทำทีมในปีหน้าว่าสโมสรเน้นในเรื่องของสปิริตทีมเป็นสำคัญ
“โดยรวมตอนนี้ที่คุยกันเบื้องต้น ตัวผู้เล่นที่เราซื้อไว้ยัง 50-50 50 ในความหมายคือคงไว้ อีก 50 คือต้องหาทีมใหม่ เพราะเวที T3 ค่อนข้างแข็งกว่าเดิม ลูกทีมทุกคนต้องรับสภาพว่าทุกอย่างของวงการฟุตบอลมีการเปลี่ยนแปลง”
“ตรงนี้ต้องตั้งข้อสังเกตว่า แนวทางของเจแอลเชียงใหม่คือ จะเน้นสปิริต ฉะนั้นตัวผู้เล่นที่เราจะดึงขึ้นมา จะต้องไม่ทำให้ทีมมีผลกระทบ แต่เกิดความรู้สึกว่า คุณภาพที่ดีกว่า ต้องดีทั้งภาพรวมในเรื่องวินัยทั้งในและนอกสนาม ตรงนี้เราไม่กังวลว่าฝีเท้าจะขนาดไหน ที่เน้นคือต้องมีวินัย”
“แนวทางของฤดูกาล 2018 ต้องประเมินสถานการณ์ตัวผู้เล่นว่าเราจูนทีมได้เร็วขนาดไหน ถ้าเห็นภาพรวมของตัวผู้เล่น ความสัมพันธ์ในทีมแล้ว คงจะตอบได้ชัดขึ้นว่าโอกาสของเรามีมากน้อยขนาดไหน ถ้าพูดในขณะนี้สโมสรเองมีเป้าหมาย ตัวผมเองก็มีเป้าหมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเห็นคุณภาพของลูกทีมด้วย ก็จะทำให้คำตอบนี้ชัดขึ้น”
