ฟุตบอลไทย ไทยลีก

TRIBE TALK : “เทิดศักดิ์ ใจมั่น” เสียสละเพื่ออนาคตฉลามชล

ปีนี้เป็นอีกปีที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในวงการลูกหนังไทย ในส่วนของนักเตะนั้น ต่างพาเหรดทยอยประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการหลังจากอิ่มตัวในอาชีพค้าแข้ง เพื่อผันตัวมาทำ

หนึ่งในแข้งที่ประกาศแขวนสตั๊ดนั้น ได้แก่ เทิดศักดิ์ ใจมั่น มิดฟิลด์อารมณ์ดีขวัญใจแฟนบอลฉลามชล ที่ในช่วงสองปีหลังผันตัวมานั่งแท่นผู้จัดการทีมพร้อมมีชื่อลงแข่งขัน โดยประกาศอำลาอาชีพค้าแข้งพร้อมกับการแยกทางทำทีมชลบุรี เอฟซี หลังจากทำผลงานทีมไม่เป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ วันนี้ฟุตบอลไทรบ์ ไทยแลนด์ ได้มีโอกาสพูดคุยถึงการที่ย้ายเข้ามาร่วมทัพฉลามชล ก่อนจะผันตัวมาเดินทางสายโค้ชอย่างเต็มตัว

กด NEXT เพื่อติดตาม

 

ตอนนั้นทำไมตัดสินใจมาอยู่กับชลบุรี เอฟซี?

เทิดศักดิ์ : ตอนนั้นปี 2010 ตั้งใจจะกลับมาไทยอยู่แล้ว และเจอเจ้าบอล (ศศิศ สิงโตทอง) ไปกินข้าวกันคุยกัน ตอนนั้นมี บับเบิ้ล (ยิ่งรัก รักษ์สุวรรณ) ไปด้วยอีกคน ถ้าจำไม่ผิด ก่อนจะกลับบอลก็เลยถามว่ามาเล่นที่ชลบุรีไหมตอนนั้นก็ยอมรับว่ามีบางกอกกล๊าส เข้ามาติดต่อเรา และก็มีบางทีมติดต่อเช่นกัน แต่เรายังไม่ตัดสินใจ ก็พอคุยๆกันเสร็จ

เรื่องไม่เยอะ ก็เซ็นเลย

แมตช์ที่ประทับใจที่สุดช่วงค้าแข้งให้กับฉลามชล?

เทิดศักดิ์ : แมตช์รอบชิงเอฟเอคัพเราก็ประทับใจนะ และก็ชิงถ้วยก.เจอกับบุรีรัมย์ เราก็ประทับใจ ตอนแรกเราโดนนำ 2-0 แต่เราก็พลิกแซงกลับมาชนะได้

ก่อนไปเตะที่สิงคโปร์กับตอนที่กลับมา บอลไทยมีความแตกต่างยังไงบ้าง?

เทิดศักดิ์ : ก่อนไปบอลไทยยังไม่บูม นักเตะไทยก็ไปเล่นให้กับเพื่อนบ้าน หรือต่างชาติหมด พอบอลไทยเริ่มบูม ทุกคนก็เริ่มกลับมา บอลไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ชลบุรีได้แชมป์ ทำให้มีแฟนบอลเข้ามาดูในสนาม และทีมอื่นๆก็ตามมาเรื่อยๆ ทำให้ทีมเยอะขึ้น และฐานแฟนคลับเยอะ นักบอลก็อยากกลับมาเล่นที่ไทย

นักเตะในชลบุรีคนไหนที่รู้สึกว่าเล่นได้เข้าขากับเรามากที่สุด?

เทิดศักดิ์ : ถ้าเอาจริงๆก็ โม้ (พิภพ อ่อนโม้) นั่นแหละ เข้าขาสุดแล้ว มันเล่นศูนย์หน้า พี่เล่นมิดฟิลด์ก็รู้ว่ามันจะขยับยังไง จะได้หาจังหวะส่งถูก

ปี 2016 วินาทีที่บอร์ดบริหารเขาดันให้เราเป็นผู้จัดการทีมรู้สึกยังไง?

เทิดศักดิ์ : ช่วงหลังเราก็ไม่ค่อยได้เล่นแล้ว ทีนี้พอมาสเซอร์เด็จ (จเด็จ มีลาภ) ออก พี่ณพ (อรรณพ สิงโตทอง) เขาก็เรียกพี่เข้าไปคุย เพราะอยากให้เราเป็นโค้ช ผู้จัดการทีม เราก็ไม่มีปัญหา เพราะยังไงเราก็อยากท้าทายทางนี้แล้ว ก็เลยลองสักตั้ง

คิดว่าอะไรคือจุดที่ทางบอร์ดบริหารไว้ใจให้เราดูแล?

เทิดศักดิ์ : อันดับแรกวัยวุฒิที่เราอยู่กับทีมนาน เข้าใจเด็กในทีม

กดดันจากแฟนบอลบ้างไหม เพราะตอนนั้นถือว่าชลบุรีห่างแชมป์มานาน และก็คาดหวังการเปลี่ยนแปลงของเรา?

เทิดศักดิ์ : แน่นอนครับ ทุกทีมแหละมันก็มีความกดดันหมด เราเคยเป็นแชมป์ปี 2007 สมัยนั้นยังไม่มีทีมที่แข็งๆ พอมีทีมแข็งๆ เราก็ยังมองภาพเก่าอยู่ ว่าเราต้องติดหนึ่งในสามตลอด ตอนนั้นเราก็มีผู้เล่นเก่งๆเยอะ ติดทีมชาติหลายคน แต่ช่วงหลังทีมเริ่มดันเด็กขึ้นมาเล่น การทำทีมก็ต้องบริการให้มันอยู่ให้ได้

ช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมาที่นั่งแท่นผู้จัดการทีม มีเหตุการณ์ไหนที่เราจำจนไม่มีวันลืมเลย?

เทิดศักดิ์ : ปีแรกที่ทำนี่แมตช์เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ที่แพ้ 9-0 เป็นความทรงจำที่ไม่โอเคเลย เราเพิ่งรับงานด้วย แต่เราก็เริ่มปรับมาเรื่อยๆ จนปีนั้นจบอันดับ 5 และเป็นแชมป์ร่วมบอลถ้วย

พอมาปีนี้เราก็มีการเปลี่ยนผู้เล่น ด้วยงบประมาณที่ต้องเปลี่ยนแปลง แต่เราก็ยังมีเป้าที่จะต้องติดท็อปไฟว์ให้ได้ เรามีโอกาสนะ แต่ก็มาพลาดโดนเขายิงสุดท้าย เราก็ไม่จบตามเป้าที่วางไว้

ก่อนลงไปทำหน้าที่เกมสุดท้าย วันนั้นคิดอะไรก่อนที่จะประกาศลาออกกลางห้องแถลงข่าว?

เทิดศักดิ์ : จริงๆปีที่แล้วเราประกาศลาออกไปแล้วนะรอบหนึ่ง แต่เขาก็อยากให้เราสู้ทำทีมต่อไป ก็เลยโอเคพยายามศึกษาหาความรู้ทำทีมให้มันลงตัวที่สุด แต่ที่ประกาศลาออกคือ ทีมไม่ได้เป็นไปตามเป้า และมองว่าถ้าตัวเองไม่ออกตอนนี้ ทีมก็อาจจะเดินต่อไปไม่ได้ เราต้องโอกาสโค้ชที่เก่งๆเข้ามาจูนให้ทีมกลับมาได้ จริงๆพากลับมานี่ไม่ต้องหวังแชมป์หรอกนะ เราลองเริ่มตั้งเป้าติดท็อปโฟร์ เข้าชิงบางถ้วยบ้าง ให้มีความหวังบ้าง

ส่วนตัวมองว่าถ้าเราไม่เสียสละออกมา ก็เหมือนกับว่าเรายึดกับตำแหน่ง โค้ชมันหมุนไปตลอด ซึ่งปีหน้าเราก็ต้องลุ้นว่าเราจะกลับมาฟอร์มดีเลย หรือไม่ดีก็ได้ แต่อยากให้รออีกนิด ตอนนี้เรากำลังปั้นเด็กขึ้นมา

ใจหายไหม เพราะพอเราประกาศเลิกคุมเสร็จ และก็ต่อด้วยแขวนสตั๊ดทันที?

เทิดศักดิ์ : จริงๆไม่ใจหายนะ เราตกใจมากกว่า แต่ช่วงสองปีหลังเราก็แทบไม่ค่อยได้เล่นแล้วนะ แค่ใส่ชื่อไว้เฉยๆ เล่นก็เล่นแปบเดียว งั้นเราจะไปใส่ชื่อให้เปลืองโควตาทำไม ให้เด็กๆมันเล่นดีกว่า

คิดว่าใครจะใส่เสื้อเบอร์ 8 ต่อจากเรา?

เทิดศักดิ์ : มันไม่เกี่ยวนะจะเป็นเบอร์อะไร ถ้าเล่นเก่งใส่เบอร์ไหนก็ใส่ไปเถอะ ถ้ามันจะใส่เบอ 100 แต่ยิงได้ทุกแมตช์ก็ให้มันใส่ไปเถอะ ถ้าใส่เบอร์ 8 และเล่นไม่ได้เรื่อง อย่าใส่เถอะ ฮ่าฮ่า

ช่วงนี้ทำอะไรอยู่บ้าง มีแพลนเรียนโค้ชยังไงบ้าง?

เทิดศักดิ์ : ช่วงนี้ก็ไม่ได้มีทีมไหนเข้ามาติดต่อทาบทามเลย ทุกวันนี้ก็พาลูกไปเตะบอล แข่งบอลไปเรื่อยๆ และก็ปีหน้าจะมีเรียนโค้ช เอไลเซ่น ตอนนี้ก็หาเวลาเรียนอยู่ จริงๆตัวเองเรียนช้ากว่าคนอื่น มัวแต่ห่วงเล่นฟุตบอล ปีที่แล้วก็จะเรียนนะ แต่ก็ติดคุมทีมอยู่ เรียนโค้ชก็เหมือนข้อสอบแหละ ก็ต้องทำให้มันผ่าน

และทำไมถึงต้องเรียนโค้ชกับพร้อมกับพิภพ อ่อนโม้ด้วย?

เทิดศักดิ์ : ไม่รู้สิ จริงๆพี่ณพเขาให้ไปเรียนบีไลเซ่น เขาบอกว่าได้โควตาคนเดียว ก็เลยไปขอให้โม้มาเรียนด้วย และตัวมันก็อยากเรียนกับพี่ หาเพื่อนเรียนด้วย ตอนเรียนก็สนุกดีนะ เจอเพื่อนๆน้องๆ แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

ในอนาคตคิดว่าจะได้ร่วมงานกับพิภพในฐานะโค้ชหรือไม่?

เทิดศักดิ์ : ก็อาจจะเป็นไปได้นะ ก็ไม่รู้เนอะ ช่วงนี้โม้ยังอยากเล่นอยู่ก็ปล่อยมันเล่นไป

ตอนนี้กระแสล้มบอลในไทยกำลังโด่งดัง ตอนไปเตะที่สิงคโปร์ที่เคยปัญหาเรื่องล้มบอลมาก่อน ส่วนตัวเคยเจอบ้างไหม?

เทิดศักดิ์ : ตอนที่ไปเตะที่สิงคโปร์ ตัวเราไม่เคยเจอนะ ล้มบอล แต่เท่าที่รู้มาว่าคนทำเป็นนักเตะที่เข้ามาค้าแข้งในสิงคโปร์ เขาโดนจับและเนรเทศไล่ออกนอกประเทศเลยนะ กฎหมายเขาแรง

คิดว่าควรจัดการพวกล้มบอลในไทยยังไง?

เทิดศักดิ์ : ก็ดีนะจับมันให้หมดเลย จับต้องให้เจอต้นตอเลยนะ พวกที่จับไปอ่ะ เขาไปต่อไม่ได้แล้ว ไม่น่าก้าวไปอยู่ตรงนั้นเลย จับไปก็ดีนะ เด็กเยาวชนมันจะได้ไม่กล้าด้วย

จริงๆมันมีคนพูดนะว่ามีมานานแล้ว แต่เราไม่มีหลักฐานมาระบุ ถ้าพูดไปก็เหมือนปรักปรำ แต่ต้องชมตำรวจไทยเขาเก่งนะ จับให้หมดไปเลยนะ ลูกของพี่จะได้ขึ้นมาเล่นได้ ฮ่าฮ่า

สุดท้าย อยากฝากอะไรถึงรุ่นน้องในทีมและแฟนบอลทุกคน

เทิดศักดิ์ : ในส่วนของนักเตะของชลบุรีก็ขอให้เต็มที่กับค่าเหนื่อยที่เขาจ่ายมา ทำหน้าที่ของเราให้ดี เต็มที่ นักบอลมีเวลาซ้อมวันละสองชั่วโมง แข่งอีกสองชั่วโมง ขอให้เป็นมืออาชีพ

แฟนบอลก็ขอให้เข้ามาเชียร์เยอะๆแม้จะมีเรื่องล้มบอลก็ตาม แต่ก็อยากให้เข้ามาเป็นกำลังใจ เราเข้ามาดูเพื่อความสนุก มาเชียร์ทีมที่เราชอบ บอลไทยจะได้พัฒนาต่อเนื่อง