FIVE SWEET SPOTS: 5 ประเด็นน่าสนใจหลังเชียงรายคว้าแชมป์ช้างเอฟเอคัพ

เชียงราย ไม่จับปลาสองมือ

แน่นอนว่าเป้าหมายของทุกทีมคือการคว้าแชมป์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งหากว่าสถานการณ์เอื้ออำนวยทุกทีมคงต้องการทำแบบนั้น แต่กับ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์สองรายการ พวกเขาเลือกที่จะไม่จับปลาหลายมือ

หลังจากที่สามารถฝ่าฟันเข้าชิงฟุตบอลถ้วยได้ทั้งสองรายการ แต่ว่ามีระยะเวลาห่างกันแค่ 3 วัน กับช่วงท้ายฤดูกาลที่นักเตะกรำศึกมาอย่างหนักตลอดทั้งฤดูกาลรวมๆแล้วเกือบๆ 50 เกมที่ต้องเล่น เพราะฉะนั้นเชียงราย ยูไนเต็ด จำเป็นที่จะต้องเลือกเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว และเห็นได้ชัดจากเกมที่แล้วในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโตโยต้าลีกคัพ อเล็กซานเดร กามา พักตัวหลักอย่าง ฟลิปเป้ อเวเชโด ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย และ วานเดอร์ หลุยส์ ปีกชาวแซมบ้า ที่ไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว เหมือนว่าพวกเขาต้องการที่จะเก็บตัวทีเด็ดเอาไว้ สำหรับเกมนี้โดยเฉพาะ และเหมือนเป็นการลงทุนที่ถูกต้องเพราะ หนึ่งในสองฉายแววเจิ่ดจรัสในเกมนี้

ซึ่งถ้าหากพวกเขาเลือกที่จะจับปลาสองมือ ในการลุ้นคว้าถ้วยแชมป์ทั้งสองรายการอาจจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงและมีโอกาสที่จะทำแชมป์หลุดมือทั้งสองรายการ

จุดเปลี่ยนสำคัญ

ก่อนเกมนี้ อเล็กซานเดร กามา เลือกตัดสินใจเก็บสองดูโอ้แซมบ้าอย่าง ฟิลิปเป้ อเวเชโด และ วานเดอร์ หลุยส์ เอาไว้ โดยที่ไม่ส่งลงสนามในเกมนัดชิงโตโยต้าลีกคัพ และเลือกใช้งานทั้งคู่ในเกมนี้ แต่ว่าเมื่อเล่นไปได้ไม่นาน ฟิลิปเป้ ที่เป็นตัวหลักของทีมมาตลอดทั้งฤดูกาล มีอาการบาดเจ็บ และต้องเปลี่ยนตัวออกไปทั้งน้ำตา

ทีมตัดสินใจส่ง ราฟาเอล โคเอลโญ ลงมาเล่นแทน หลังจากที่ ฟิลิปเป้ เดินออกไป กลายเป็นว่าความหวังในแนวรุกของเชียงราย จะต้องมาตกที่ วานเดอร์ หลุยส์ ซึ่งดาวเตะแซมบ้าสามารถตอบสนองได้อย่างดี แม้ว่าจะถูกมาโน โพลกิ้ง ส่งคนลงมาประกบตลอดเวลา แต่เกมนี้ ปีกแซมบ้าทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการฉีกแนวรับ และยังทำประตูชัยให้ทีมได้ด้วย รวมไปถึงจุดโทษตอกย้ำชัย หากว่า ฟลิปเป้ ยังอยู่ในสนาม ไม่แน่ว่า วานเดอร์ อาจจะไม่โดดเด่นเท่านี้ก็เป็นได้

กว่างโซ้งโมเดล

ก่อนที่จะเริ่มฤดูกาลนี้ เชียงราย ยูไนเต็ด ใช้จ่ายเม็ดเงินอย่างเต็มที่เพื่อยกระดับทีมจนกลายเป็นคำถามว่า เงินสามารถซื้อความสำเร็จ ได้จริงหรือ ซึ่งหลังจากเสียงนกหวีดยาวจากผู้ตัดสิน คำถามนั้นเป็นอันว่าได้คำตอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า เงินสามารถซื้อความสำเร็จได้จริง อย่างน้อยก็ในฟุตบอลถ้วยรายการช้างเอฟเอคัพ และยังพาทีมเปิดประตูสู่เอเชียไปยังศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะเห็นนักลงทุนก้าวเข้ามาหว่านเม็ดเงินในไทยลีก เพื่อสร้างทีมให้ก้าวไปถึงจุดที่สามารถประสบความสำเร็จได้รวดเร็วแบบเชียงรายก็เป็นได้ แต่สิ่งที่น่าห่วงมากกว่าคือเรื่องของความยั่งยืน

นัดชิงที่ดีที่สุด

แม้ว่าสกอร์ของเกมจะออกมาดูขาดลอย เมื่อเชียงราย ยูไนเต็ด เอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 4-2 แต่นัดชิงชนะเลิศเกมนี้จะต้องถูกยกย่องว่าเป็นนัดชิงชนะเลิศที่ดีที่สุด อีกเกมในฟุตบอลเอฟเอคัพของไทย สำหรับเกมที่มีครบทุกรส ทั้งความมัน และดราม่าที่พลิกไปพลิกมาตลอดเวลา

ทั้งการที่แบงค็อก ออกนำไปก่อน ตัวทีเด็ดของเชียงรายอย่าง ฟิลิปเป้ เจ็บ แต่ก็มาแซงนำได้ แต่แข้งเทพที่เหลือคนน้อยกว่ามาตามตีเสมอได้ แต่ว่า กว่างโซ้งก็มาฉกฉวยโอกาสออกนำในช่วงท้ายเกม และเข้าป้ายคว้าแชมป์ไปได้ในที่สุด ในช่วงท้ายเกมที่เกมทะลักองศาเดือด และมีนักเตะโดนไล่ออกในเกมนี้มากถึง 4 คนด้วยกัน ซึ่งเมื่อจบเกมกองเชียร์ต้องยืนปรบมือให้กับทั้งสองทีมที่ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศได้อย่างสุดมัน และเกมนี้จะถูกจดจำว่าเป็นเกมนัดชิงเอฟเอคัพที่ดีที่สุดอีกหนึ่งเกม

ความสำเร็จที่ต้องรอต่อไปของแบงค็อก

ในช่วงสองปีหลังสุดปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แบงค็อก ยูไนเต็ด คือทีมที่สามารถพัฒนาและยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาได้อย่างน่าจับตามอง ในฤดูกาลที่แล้วพวกเขา เป็นรองแชมป์ฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก และในฤดูกาลนี้พวกเขาเป็นรองแชมป์ ช้างเอฟเอคัพ แม้ว่าจะยังไม่มงกุฎ มาสวมแต่หลายสิ่งหลายอย่างฟ้องว่าพวกเขามาถูกทางแล้วด้วยรูปแบบฟุตบอลเอนเตอร์เทนของตัวเอง จากสถิติอันสุดยอดในหลายๆอย่างในฤดูกาลนี้ทั้งสถิติชนะ ต่อเนื่องเยอะที่สุด 11 เกม ดาวซัลโวสูงสุดของ ดราแกร บอสโควิช และ การยิงประตูถล่มทลายในลีกถึง 97 ประตู ซึ่งมากที่สุดในลีก มากว่าแชมป์อย่างบุรีรัมย์ แบบไม่เห็นฝุ่น แต่ทั้งหมดทั้งมวล คงไม่มีความหมายหากว่าพวกเขาเป็นราชันที่ไร้มงกุฎแบบนี้ เพราะคนจะจดจำแต่เพียงแชมป์เท่านั้น ซึ่งหากพวกเขายังคงมุ่งมั่นในแนวทางของตัวเอง ความสำเร็จน่าจะอยู่ไม่ไกล